[รีวิว] ร้าน The Black Forest จากเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูลกริมม์ สู่คาเฟ่ป่าดำในตำนาน สวยงามน่าค้นหามาแล้วรู้สึกสงบ คอกาแฟต้องไป ใกล้ BTS แบริ่ง

          The Black Forest คาเฟ่ป่าดำในตำนานเป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่น่าสนใจแถบแบริ่ง โดยที่นี่เปิดบริการมาเป็นเวลา 3 ปี บรรยากาศสงบเหมาะกับคอกาแฟที่ต้องการหาพื้นที่สงบในบรรยากาศคาเฟ่สุดชิล ซึ่งทางร้านได้แรงบันดาลใจพี่น้องตระกูลกริมม์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับน้องชายที่พากันเดินทางมาพื้นที่ป่าแถบเยอรมันเพื่อเก็บนิทาน ทางร้านเลยตั้งใจทำร้านคาเฟ่ให้ดูเป็นป่าสีดำที่เน้นความเป็นสีดำ มีผนังปูนเปลือยโทนขรึมแต่แฝงความเท่ความลึกลับน่าค้นหา บอกเลยมาแล้วคุณจะรักทุกสิ่งที่เป็นที่นี่ค่ะ

 


การเดินทาง

          สำหรับใครที่ขับรถมาเส้นสุขุมวิทตามสายรถไฟฟ้า ให้ขับมาที่ถนนสุขุมวิท 107 ร้าน The Black Forest อยู่ระหว่างแบริ่งซอย 3 และ 5) ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณข้างร้านรองรับได้ 5-7 คัน (ถ้าพื้นที่จอดรถเต็มต้องไปจอดที่แบริ่งซอย 5 ซึ่งเป็นซอยถัดจากร้านค่ะ)

 

 


ที่จอดรถจะอยู่บริเวณข้างร้านรองรับได้ 5-7 คัน 

          ส่วนใครที่เดินทางมาวิธีรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีแบริ่ง ร้านจะอยู่ห่างรถไฟฟ้า BTS แบริ่งประมาณ 800 เมตร จากนั้นให้นั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาอีกหน่อย หรือใครอยากเดินออกกำลังกายมาที่ร้านก็ได้เช่นกันค่ะ

 

SPONSORED

เมนูและราคา

          วันนี้ทีมงานคอเน้นกาแฟหลายเมนูนิดนึง นอกจากนี้ยังได้ลองของหวานอย่างเค้กเมนูเด็ดของร้าน และของคาวอย่างสปาเกตตีจานเด็ดที่ทางร้านบอกว่าขายดีเลยทีเดียว


เมนูเป็นผ้าค่ะ สัมผัสแล้วรู้สึกกว่าจับเมนูที่อื่น

 

          ที่ทีมงานได้ลองทานวันนี้ก็จะมี เมนูกาแฟ ลาเต้ (90 บาท) มอคค่า (95 บาท) อเมริกาโน่ (75 บาท) ช็อกโกแลต (85 บาท) กาแฟนมสไตล์ไทย (90 บาท) เมนูชาได้ลอง ORGANIC TEA SET (85 บาท) ของคาวได้ลองแบล็คเบคอน สปาเกตตี (150 บาท) ส่วนของหวานอย่าง เค้กเรด เวลเลท (120 บาท)

 

...
Responsive image
Share
คาเฟ่โลงศพรูปแบบใหม่ แปลก แหวกแน...
คาเฟ่โลงศพรูปแบบใหม่ แปลก แหวกแนวไม่ซ้ำใคร พร้อมชื่อเมนูชวนขนหัวลุก...
คาเฟ่โลงศพรูปแบบใหม่ แปลก แหวกแนวไม่ซ้ำใคร พร้อมชื่อเมนูชวนขนหัวลุก @อารีย์ซอย 1

Responsive image
Share
[รีวิว] First Kitsch Bistro ร้าน...
[รีวิว] First Kitsch Bistro ร้านอาหารเปิดใหม่ย่านพระนคร เพลิดเพลินก...
[รีวิว] First Kitsch Bistro ร้านอาหารเปิดใหม่ย่านพระนคร เพลิดเพลินกับอาหารไทยฟิวชั่นหลากสไตล์

Responsive image
Share
ร้านโกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ ผ่านฟ้า...
ร้านโกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ ผ่านฟ้า รสชาติกาแฟสุดคลาสสิก กินอาหารเช้าแ...
ร้านโกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ ผ่านฟ้า รสชาติกาแฟสุดคลาสสิก กินอาหารเช้าแบบบรรยากาศย้อนเสน่ห์วันวาน

Responsive image
Share
รีวิว เสวย ท่ามหาราช ร้านอาหารไท...
รีวิว เสวย ท่ามหาราช ร้านอาหารไทยซีฟู้ด บรรยากาศดีมีดนตรีสด ติดริมแ...
รีวิว เสวย ท่ามหาราช ร้านอาหารไทยซีฟู้ด บรรยากาศดีมีดนตรีสด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา!

Responsive image
Share
ทอดมันกุ้งจากเนื้อกุ้งทะเลแท้ๆ เ...
ทอดมันกุ้งจากเนื้อกุ้งทะเลแท้ๆ เจ้าดังคิวยาวในตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐ...
ทอดมันกุ้งจากเนื้อกุ้งทะเลแท้ๆ เจ้าดังคิวยาวในตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

บรรยากาศภายในร้าน

          โทนสีร้านและของตกแต่งเน้นคอนเซ็ปต์สีดำ มองดูแล้วได้อารมณ์แนวป่าๆ สีดำสะท้อนความเป็นเงาของป่า ส่วนผนังที่เลือกเป็นปูนเปลือยเพราะที่ร้านจะชอบวัสดุดิบๆ ที่ไม่ถูกปรุงแต่งมากนัก


ด้านหน้าร้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ความบันเทิงรออยู่เพียบค่ะ ที่นี่เป็นมากกว่าร้านกาแฟจริงๆ

 


ถ้ามาตรงนี้นั่งอ่านหนังสือสบายเลย

    SPONSORED

 

 


สาวกบอร์ดเกมส์พร้อมกันหรือยังคะ

 

 


 น่ารักและเหมือนของจริงมากเลยลูกเอ้ย!

 


โต๊ะนี้มีโหลผีเสื้อสวยๆ ให้มองจนหลงค่ะ

 

 

 

 


คนรักเค้กอย่าลืมมาเล็งเค้กชิ้นโปรดกันนะคะ

 


"กามูว" แมวสุดฮ็อตของที่ร้าน ใครมาแล้วเป็นแพ้ความมุ้งมิ้งนุ่มนิ่มของน้องกามูวทุกคนค่ะ

 


ชั้น 2 น่านั่งชิลและหามุมทำงานไม่แพ้ชั้นล่างเลยค่ะ

 

          ที่นี่มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ของคาเฟ่ ซึ่งชั้นล่างจะมีบางส่วนให้ลูกค้าเข้ามาใช้พื้นที่เป็นห้องสัมมนาและสตูดิโอได้ด้วย ส่วนด้านหลังเป็นห้องขายของ

          ใครมาที่นี่นอกจากจะได้นั่งชิลในบรรยากาศร้านกาแฟโซฟากว้างๆ ให้ใช้ Wi-Fi ฟรีเพลินๆ ก็ยังสะดุดตากับน้องแมวตัวใหญ่หน้าตาดีนัยน์ตาสีส้มดูมีเสน่ห์มากๆ ค่ะ

          นอกจากนี้ยังมีบอร์ดเกมส์ให้ลูกค้าได้ลองร้าน แต่ที่นี่จะไม่มีคนสอนนะคะ ส่วนคนรักหนังสือจะมีหนังสือภาษาอังกฤษหลายเล่มให้ได้นั่งอ่านเพลินๆ เรียกได้ว่ามาร้านเดียวได้ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบจริงๆ ค่ะ


ลาเต้ (90 บาท)

          ลาเต้ที่ร้านเน้นเรื่องการตีฟองเพื่อให้ได้ฟองที่ละเอียดนุ่มละมุน มีฟองนมหนากำลังดีทำให้การดื่มกาแฟลาเต้กลมกล่อมค่ะ


ลาเต้ (90 บาท)

 

มอคค่า (95 บาท)

          ผงโกโก้ด้านบนของมอคค่าเข้มข้นกำลังดี ผงโกโก้มีความละเอียด ดื่มแล้วเข้ากันกับความเข้มข้นของรสชาติกาแฟมอคค่าค่ะ


มอคค่า (95 บาท)

 

อเมริกาโน่ (75 บาท)

กาแฟดำอ่อนนุ่มแต่มีความเข้มข้นของกาแฟติดปลายลิ้น แก้วเดียวสดชื่นได้ทั้งวันค่ะ


อเมริกาโน่ (75 บาท)

 

กาแฟนมสไตล์ไทย (90 บาท)

          ถ้าชอบความเข้มข้นขึ้นมาอีกนิดให้ลองเมนูนี้ค่ะ ทางร้านใช้นมผสมซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนมและกาแฟค่ะ


กาแฟนมสไตล์ไทย (90 บาท)

 

ช็อกโกแลต (85 บาท)

          ช็อกโกแลตเปรียบเสมือนป่าดำ ก็คือความหมายของ Black Forest สีช็อกโกแลตจัดว่าเข้ากับธีมร้านเลยค่ะ


ช็อกโกแลต (85 บาท)

 

ORGANIC TEA SET (85 บาท)

          ORGANIC TEA SET เป็นชาอู่หลงมะลิค่ะ ได้ดื่มชาร้อนๆ ที่มีความหอม จิบเบาๆ ได้ความสุขความผ่อนคลายไปไม่น้อยเลยล่ะค่ะ


ORGANIC TEA SET (85 บาท)

 

 

เค้กเรด เวลเลท (120 บาท)

          เบเกอรี่ & เค้ก ทางร้านเป็นคนทำเอง มีทั้งเค้กประจำและแบบที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เค้กเรด เวลเลท จะเป็นเมนูประจำของทางร้าน มีกุหลาบที่ใช้ทำชาผสมเข้าไปในเนื้อเค้กด้วยค่ะ


เค้กเรด เวลเลท (120 บาท)

 


สีแดงของเค้กได้จากบีทรูทค่ะ

 

แบล็คเบคอน สปาเกตตี (150 บาท)

          ของคาวเมนูที่นิยมของทางร้าน สปาเกตตีที่ผัดกับกระเทียมพริก และเบคอนคั่วสด เลือกใช้เบคอนมาคู่กับสปาเกตตีเพราะ เวลาทานสปาเกตตีพร้อมกับมันหมูที่มาจากเบคอนมันได้ความหอมเป็นพิเศษ


แบล็คเบคอน สปาเกตตี (150 บาท)

 

สรุปเมนูรสชาติอาหาร

ลาเต้ (90 บาท) : ลาเต้เย็นรสชาติเข้มกำลังดี สำหรับคนชอบเข้มแบบไม่มากไปไม่น้อยไปค่ะ ส่วนฟองที่หนานุ่มละเอียดที่โปะด้านบนทำให้เพิ่มความนุ่มละมุนลิ้นในกาแฟแก้วนี้มากขึ้นค่ะ

มอคค่า (95 บาท) : ส่วนตัวดื่มกาแฟรสเข้มกว่ามอคค่าแต่มอคค่าที่นี่ทำได้เข้มข้นลงตัวค่ะ บวกกับส่วนผงโก้โก้เม็ดละเอียดด้านบนที่ให้ความเข้มข้นเช่นกัน และที่ร้านมีการตีฟองนมละเอียด ทำให้เนื้อนมอุ้มฟองไว้ดื่มแล้วจะรู้สึกผิวสัมผัสละมุนนุ่มถูกใจคนดื่มกาแฟค่ะ

อเมริกาโน่ (75 บาท) : อเมริกาโน่เย็นรสชาติเหมือนทั่วไป แต่กลิ่นมีความหอมของกาแฟชัด ทำให้ถูกใจรสชาติของอเมริกาโน่เย็นที่นี่มากขึ้นค่ะ

กาแฟนมสไตล์ไทย (90 บาท) : เมื่อคนจนเข้ากันจะได้ความหอมจากกลิ่นกาแฟชัดและหวานกำลังดี รสชาตินี้เหมาะกับคนชอบทานหวานพอประมาณค่ะ ถ้าลองรสชาติเฉพาะส่วนด้านล่างจะหวานนำจากนมผสม ซึ่งนมผสมเป็นการผสมผสานระหว่างนมและกาแฟค่ะ ส่วนด้านบนจะค่อนข้างมีรสเข้มของกาแฟ ก่อนดื่มต้องคนให้เข้ากันทุกอย่างจะเข้มปนหวานในรสชาติที่ลงตัวค่ะ

ช็อกโกแลต (85 บาท) : ทั้งเครื่องดื่มและผงโกโก้เข้มข้นแต่ไม่หวานจนเกินไป คนไม่ชอบหวานมากน่าจะถูกใจ ส่วนคนทานหวานได้ก็ยังรู้สึกได้รสชาติของช็อกโกแลตเย็นที่อร่อยค่ะ

ORGANIC TEA SET (85 บาท) : ได้ความหอมจากใบชาและกลิ่นหอมจากมะลิ ดื่มแล้วรู้สึกหอมแบบไทยๆ รสหอมหวานจากธรรมชาติแท้ๆ ดื่มชาร้อนๆ ในร้านบรรยากาศดีถือว่าเป็นอะไรที่ฟินมากค่ะ

เค้กเรด เวลเลท (120 บาท) : เค้กหวานน้อยมีความเปรี้ยวแฝงอยู่เบาๆ เคี้ยวไปแล้วจะเจอความกรุบๆ เคี้ยวได้เพลินๆ ส่วนที่กรุบๆ ในเค้กมาจากกลีบกุหลาบ ส่วนสีแดงของเค้กมีส่วนผสมของบีทรูทด้วยเล็กน้อยค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้กทั้งหอมและมีสีสันสวยสะดุดตา

แบล็คเบคอน สปาเกตตี (150 บาท) : เส้นสปาเกตตีสำหรับคนชอบทานรสหนักไปทางเข้มข้นจัดจ้านจะรู้สึกเข้มข้นน้อยไปนิดนึง แต่พอทานพร้อมกับเบคอนที่มีความเค็มนำเล็กน้อย บวกกับส่วนมันที่แทรกตรงเบคอนที่กรอบๆ ชวนน่าทาน จะรู้สึกว่ารสชาติของสปาเกตตีกำลังพอดีค่ะ แต่ปริมาณที่ได้เมื่อเทียบกับราคาคนทานเก่งอาจจะรู้สึกยังไม่อิ่มเท่าที่ควรนะคะ แต่ถ้าพูดถึงความอร่อยจานนี้เป็นสปาเกตตีที่น่าสนใจมากค่ะ


 

SPONSORED

การประเมิน และให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.05

บรรยากาศ

4.1

การบริการ

4.0

ความคุ้มค่า

3.95

คะแนนเฉลี่ย

4.025

 

จุดเด่นของร้าน The Black Forest

1. จุดเด่นของกาแฟที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบดื่มกาแฟ เมล็ดกาแฟความเข้มมีความสมดุลเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟในแบบที่พอดี โดยทางร้านรับเมล็ดกาแฟมาจาก Brave Roasters (ซึ่งร้านนี้จะหาดื่มได้ที่ Siam Discovery) ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟดิบมาจากประเทศลาว แต่นำมาคั่วที่ไทย เป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า 100% 

2. เบเกอรี่ & เค้กของที่นี่ทางร้านเป็นคนทำเองทั้งหมดค่ะ โดยมีทั้งเค้กเมนูประจำและเมนูที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเค้กที่นี่มีความหลากหลายรส มาที่นี่จะได้ทานเค้กครบรสในร้านเดียวทั้งสไตล์หวานอมเปรี้ยว หรือเน้นความขมหนักแน่น เป็นต้น

3. เมนูที่ประทับใจคือ "เค้กเรด เวลเลท" นอกจากจะเป็นเค้กที่มีติดประจำร้านตลอด ส่วนผสมค่อนข้างน่าสนใจใครที่ได้ลองทานเมื่อเจอความกรุบๆ ในเนื้อเค้กอาจเกิดความสงสัย นั่นเป็นเพราะกรุบๆ ที่ว่ามาจากกลีบกุหลาบนั่นเอง และยังได้รสชาติเปรี้ยวเบาๆ จากบีทรูทที่นำมาทำเป็นสีของเค้กด้วยค่ะ เนื้อเค้กนุ่มกำลังดีเหมาะกับคนไม่ชอบทานเค้กที่รู้สึกเลี่ยนจนเกินไป ส่วนกาแฟที่ชอบจะเป็นลาเต้และมอคค่า ด้วยเรื่องการตีฟองที่ทางร้านทำฟองได้ละเอียดนุ่มละมุน รสชาติกาแฟเหมาะกับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟเข้มจนเกินไปแต่ได้ความกลมกล่อมแบบลงตัวค่ะ

4. นอกจากเป็นร้านกาแฟบรรยากาศเหมาะกับผู้ที่ถามหาความสงบแต่ไม่เงียบเหงา มี Wi-Fi ฟรี มีหนังสือภาษาอังกฤษให้อ่านเพียบ แถมเอาใจคอเกมส์กับบอร์ดเกมส์ด้วย เรียกได้ว่าตั้งแต่วัยเรียนถึงวัยทำงานน่าจะชอบร้านสไตล์นี้ค่ะ

5.คนที่หลงใหลในศิลปะบนผิวหนังอย่างการสักสามารถติดต่อจองคิวกับทางร้านได้เช่นกันค่ะ เพราะทางร้านจะใช้พื้นที่บริเวณชั้น 3 บริการในเรื่องสัก

6. ที่ร้านจะมีแมวน้อยน่ารักที่ใครมาเป็นต้องรักชื่อ "กามูว" มาสร้างสีสันให้ร้าน ใครมาที่ร้านก็อยากแวะเล่นด้วยพร้อมกับถ่ายรูปน่ารักๆ ของเจ้าแมวตัวนี้ค่ะ และที่นี่ยังมีบริการห้องสัมมนาและห้องสตูดิโอให้คนเข้ามาใช้บริการได้แบบเต็มวันค่ะ 


ข้อเสนอแนะ

1. เมนูสปาเกตตีอาจได้ปริมาณเบคอนน้อยไปนิดนึงถ้าเทียบกับราคา 150 บาท แต่ถ้าถามถึงความอร่อยของเส้นสปาเกตตีมีความหนึบ เครื่องเทศคลุกเคล้ากำลังดีก็ถือว่าเป็นเมนูที่น่าสนใจของทางร้านเลยค่ะ เส้นสปาเกตตีดำหรือเส้นหมึกก็เข้ากันกับความเป็นป่าดำซึ่งเป็นธีมของทางร้าน หากอยากเพิ่มความจัดจ้านเข้มข้นทางร้านมีบริการเครื่องปรุงอย่าง กระเทียม พริกไทย สามารถขอเติมได้ตลอดค่ะ

2. สำหรับใครที่ชอบเครื่องดื่มเมนูปั่นเป็นพิเศษ ทางร้านบอกว่าไม่ได้เลือกปั่นได้ทุกเมนู เพราะจะทำให้น้ำแข็งละลายจนรสชาติเพี้ยน แต่ว่าเมนูเย็นและเมนูร้อนที่นี่ก็อร่อยรสชาติน่าสนใจไม่แพ้เมนูปั่นเลยนะคะ

3. บางมุมของร้านมีแดดสะท้อนเข้ามาในร้านค่อนข้างแรง ใครที่ไม่ชอบอากาศร้อนอาจต้องหาที่นั่งมุมที่หลบแดดนะคะ

4. ที่จอดรถของทางร้านค่อนข้างน้อยสามารถจอดได้ทีละ 5-7 คันเท่านั้น ยิ่งถ้าใครเข้ามาใช้บริการพื้นที่สัมมนาหรือสตูดิโอและมีความจำเป็นต้องจอดรถเต็มวัน หากที่จอดรถเต็มจริงๆ ทางร้านอาจต้องขอความร่วมมือจากลูกค้าให้จอดรถที่แบริ่งซอย 5 ซึ่งเป็นซอยถัดจากร้านแทนนะคะ 

 

          จากเดิมที่ทางเจ้าของร้านตั้งใจสร้างพื้นที่ตรงนี้เพื่อทำเป็นออฟฟิศเพื่อใช้ส่วนตัว บวกกับเป็นคนชอบหาเวลาไปทำงานตามร้านกาแฟเพราะติดใจกลิ่นหอมเต็มๆ จากกาแฟ และชอบแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามาในร้าน จนได้เกิดไอเดียอยากแบ่งปันพื้นที่ดีๆ เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่คาเฟ่ที่ให้คอกาแฟมานั่งดื่ม แต่สามารถติดต่อขอใช้พื้นที่เป็นห้องสัมมนาหรือเช่าเป็นสตูดิโอถ่ายทำได้ ทั้งหมดนี้ก็เหมือนทางร้านต้องการแชร์พื้นที่ดีๆ ให้คนทั่วไปได้เข้ามาสัมผัสด้วยเช่นกัน เพราะได้เห็นว่าคนยุคใหม่ทำงานอยู่บนอาคารตึกสูงกันอาจรู้สึกอึดอัดไปบ้างหากต้องอยู่กับสถานที่เดิมๆ นานเกินไป หรือบางคนอาจทำงานที่บ้านและต้องพบบรรยากาศที่จำเจมานาน หากได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานดูบางทีอาจช่วยเรื่องไอเดียดีๆ มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นก็เป็นได้ค่ะ 

 
 

เขียนโดย
สายย่อขอรีวิว
จำนวนบทความที่รีวิว : 171
วันที่เขียนรีวิว : 2019/01/23
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.10
การบริการ
4.10
ตกแต่งสถานที่
4.10
ราคาเหมาะสม
4.00
แผนที่ร้าน The Black Forest
ที่อยู่ :
45/1 สุขุมวิท107 (แบริ่ง) อยู่ระหว่างแบริ่ง 3 และแบริ่ง 5 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 ต. บางนา อ. เขตบางนา จ. กรุงเทพมหานคร ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
089-769-1110
ช่วงเวลา :
เปิด 11.00-20.00 น.
ปิดวันจันทร์-วันอังคาร
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
มี
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP