รีวิว Dressage Horse Café คาเฟ่ม้า บรรยากาศแสนอบอุ่น พร้อมเมนูพิซซ่าอิตาเลียนแท้ @หมู่บ้านนักกีฬา

          สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายของตัวเมือง หรือกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในวันนี้ Ryoiireview ขอแนะนำ Dressage Horse Café คาเฟ่ย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นคาเฟ่ม้าที่เติบโตจากการเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการบังคับม้า หรือ Dressage Horse อันเป็นที่ม้าของชื่อร้าน

          เมื่อใครมาถึงก็จะได้เจอกับบรรยากาศร้านอบอุ่นเป็นกันเอง รายล้อมด้วยบรรดาน้องม้าหลายสิบตัว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งคาเฟ่ที่บรรยากาศดีไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกเหมือนออกไปเที่ยวไกลจากตัวเมือง และสำหรับใครที่อยากจะเติมเต็มความรู้สึกให้ใกล้ชิดกับน้องม้ามากกว่าเดิม ทางร้านก็ยังมีกิจกรรมดีๆ ให้เลือกทำกันอีกด้วยค่ะ หรือถ้าหากใครที่เป็นสายคาเฟ่เต็มตัว อยากจะนั่งชิลๆ ทางร้านก็ยังมีเมนูครบทั้งคาวหวานสไตล์อิตาเลียน-ฟิวชั่น และเครื่องดื่มหลากหลายพร้อมเสิร์ฟ

 

Dressage Horse Café คาเฟ่ม้า บรรยากาศแสนอบอุ่น พร้อมเมนูพิซซ่าอิตาเลียนแท้

 

การเดินทาง

          พิกัดร้าน Dressage Horse Café ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนักกีฬา ซอยนักกีฬาแหลมทอง 12 สามารถเดินทางมาได้จากถนนกรุงเทพกรีฑา เบี่ยงซ้ายเข้าซอยนักกีฬาแหลมทอง เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยนักกีฬาแหลมทอง 12 และเลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ซอยนักกีฬาแหลมทอง 4 แยก 1 จะเจอร้าน Dressage Horse Café อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

 

 

          ถ้าหากต้องการที่จอดรถสามารถจอดได้ที่หน้าร้าน ซึ่งรองรับได้ประมาณ 4-5 คัน โดยที่ร้านจะมีทางเข้า 2 จุด คือ ทางเข้าออฟฟิศโรงเรียนสอนขี่ม้า และทางเข้าคาเฟ่ สำหรับใครที่ต้องการไปที่คาเฟ่โดยตรงสามารถเข้าประตูทางขวาได้เลยค่ะ

...
Responsive image
Share
[มินิรีวิว] หมูย่างเวล ร้านหมูย่...
[มินิรีวิว] หมูย่างเวล ร้านหมูย่างสูตรโบราณในตำนาน 39 ปี ที่คนนครปฐ...
[มินิรีวิว] หมูย่างเวล ร้านหมูย่างสูตรโบราณในตำนาน 39 ปี ที่คนนครปฐมต้องรู้จัก

Responsive image
Share
รีวิว Le kradeong pu ร้านทะเลดอง...
รีวิว Le kradeong pu ร้านทะเลดองเดลิเวอรี ชิ้นใหญ่เต็มคำ มาพร้อมน้ำ...
รีวิว Le kradeong pu ร้านทะเลดองเดลิเวอรี ชิ้นใหญ่เต็มคำ มาพร้อมน้ำดองสไตล์เกาหลีสูตรลับเฉพาะ!

Responsive image
Share
ช.หอยทอด ออส่วน ร้านหอยทอดคิวยาว...
ช.หอยทอด ออส่วน ร้านหอยทอดคิวยาวเจ้าดังแห่งนครปฐมในตำนาน 31 ปี @ตลา...
ช.หอยทอด ออส่วน ร้านหอยทอดคิวยาวเจ้าดังแห่งนครปฐมในตำนาน 31 ปี @ตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์

Responsive image
Share
ร้านบ้านหญิง ตำนานข้าวไข่ย่านสยา...
ร้านบ้านหญิง ตำนานข้าวไข่ย่านสยาม 20 กว่าปี และเมนูอาหารไทยฟิวชันรส...
ร้านบ้านหญิง ตำนานข้าวไข่ย่านสยาม 20 กว่าปี และเมนูอาหารไทยฟิวชันรสมือแม่

Responsive image
Share
รีวิว The Chocolate Factory เขา...
รีวิว The Chocolate Factory เขาใหญ่ ร้านอาหารอิตาเลียนและของหวานสำ...
รีวิว The Chocolate Factory เขาใหญ่ ร้านอาหารอิตาเลียนและของหวานสำหรับคนรักช็อกโกแลต

บรรยากาศภายในร้าน

          เมื่อมาถึงร้านกันแล้วก็จะได้เจอกับบรรยากาศร้านที่มีทั้งสนามขี่ม้า และคาเฟ่ในที่เดียว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่พร้อมจะตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่มวัยตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เพราะมีบรรยากาศอบอุ่น และกิจกรรมให้ทำหลากหลาย โดยตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนคาเฟ่, โซนสนามม้า คอกม้า และโซนออฟฟิศค่ะ

 

เข้ามาคาเฟ่ก็จะได้เจอน้องม้ารอต้อนรับอยู่ด้านหน้าเลย

 

          ขอเริ่มต้นกันด้วยโซนคาเฟ่กันก่อนเลย! โซนนี้หลังจากเข้ามาทางประตูขวามือแล้ว ก็จะได้เจอกับน้องม้าคอยต้อนรับ จุดนี้ก็จะได้มองเห็นความเป็นคาเฟ่ม้ากันแบบเบาๆ และเมื่อเดินเข้ามาในส่วนของคาเฟ่แล้ว ที่ร้านก็จะมีที่นั่งให้เลือก 2 โซนด้วยกัน คือ โซนด้านในห้องปรับอากาศ ในโซนนี้จะเน้นความ Cozy นั่งชิลๆ เป็นกันเอง เหมาะสำหรับใครที่เน้นนั่งชิลกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นม้าอยู่บ้าง จากการประดับตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้หนังให้คล้ายกับอานม้าค่ะ

          และโซนด้านนอก Open air โซนนี้จะเน้นให้ลูกค้าได้เห็นบรรยากาศของสนามม้ามากยิ่งขึ้น และยังมีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ยาวให้คล้ายกับการดูแข่งม้าแบบจริงๆ ด้วย ต้องขอบอกว่าทางร้านเขาเก็บรายละเอียดครบทุกจุดจริงๆ ค่ะ

 

บรรยากาศภายในร้าน

บรรยากาศด้านนอก Open air

ถ้านั่งด้านนอกจะได้เห็นบรรยากาศสนามขี่ม้าแบบนี้เลยค่ะ

 

          ถัดมา คือ โซนสนามม้า และคอกม้า โซนนี้จะอยู่ด้านนอก โดยสนามม้าจะมีทั้งสนามเล็กและสนามใหญ่ สำหรับใครที่สนใจจะเรียนขี่ม้า ก็จะได้ลองขี่กันที่นี่เลยค่ะ แต่ถ้าหากใครอยากจะเน้นเก็บบรรยากาศ ที่ร้านก็จะมีบริเวณคอกม้าให้ได้เดินดูม้ากัน ซึ่งม้าที่นี่มีมากถึง 34 ตัว แถมแต่ละตัวก็น่ารักมากๆ รับประกันว่าใครที่ชอบม้าน่าจะถูกใจแน่นอน

 

 

          นอกจากนี้ที่ร้านยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายที่น่าจะตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะมีทั้งกิจกรรมเรียนขี่ม้า และให้อาหารม้า หรือถ้าหากใครไปที่ร้านตั้งแต่ช่วงเช้า ก็อาจจะได้เห็นบรรยากาศม้าแต่ละตัวออกมาเดินยืดเส้นยืดสายที่สนามกันบ้างค่ะ ซึ่งในทุกๆ กิจกรรมก็จะมีผู้ดูแลไปกับเราด้วย เพื่อที่จะคอยดูแล และให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมร่วมกับม้าแต่ละตัวค่ะ

 

 

          และโซนสุดท้าย คือ โซนออฟฟิศและห้องดนตรี จะเป็นส่วนด้านหน้าสุดถัดจากคาเฟ่ไปค่ะ (เข้าประตูทางซ้าย) ส่วนนี้จะเป็นส่วนสำหรับคนที่สนใจมาเรียนขี่ม้า หรือเรียนเปียโนที่นี่ และถ้าหากใครที่สนใจสามารถลองสอบถามกับทางร้านได้เลยค่ะ

 

 

เมนู และราคาอาหาร

          นั่งเสพบรรยากาศกันจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ขอพาแวะไปดูอาหารของที่ร้านกันบ้าง สำหรับ Dressage Horse Café นั้นเรียกได้ว่าเป็นร้านที่เป็นทั้งคาเฟ่ และร้านอาหารในที่เดียว เพราะเมนูของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายครบจบทั้งคาว-หวาน และเครื่องดื่มค่ะ

เมนูอิตาเลียน-ไทยฟิวชั่น

          เมนูอาหารของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งเมนูอาหารอิตาเลียน และอาหารไทยฟิวชั่น โดยจะมีให้เลือกทานทั้งเมนูข้าวจานเดียว, พิซซ่า, สปาเกตตี, แซนด์วิช และของทานเล่นค่ะ

 

 

          สำหรับเมนูเด่นๆ แนะนำของที่นี่เลยก็ต้องยกให้เมนู พิซซ่าเตาฟืน ที่ทางร้านเขาใช้เตาฟืนสั่งทำ และใช้ฟืนแท้ๆ ที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน และเอาใจใส่เช่นเดียวกับการดูแลม้า เพราะต้องคอยกำกับดูแลอยู่หน้าเตาตลอด เพื่อให้พิซซ่านั้นมีรสชาติเฉพาะตัวที่หาทานได้เฉพาะจากเตาฟืนเท่านั้นค่ะ โดยพิซซ่าของที่ร้านจะเป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบสไตล์อิตาเลียนแท้ หรือ Classical Romana Pizza โดยมีให้เลือกทานถึง 14 หน้า!

 

 

Pizza Garlic Sausage 350 บาท

          ขอเริ่มต้นด้วยเมนูพิซซ่ายอดนิยมอย่าง Pizza Garlic Sausage หรือพิซซ่าไส้กรอกกระเทียม ที่ผสมผสานส่วนผสมอย่างซอสมะเขือเทศเข้มข้น, มอสซาเรลลาชีส และไส้กรอกกระเทียม ท็อปด้วยผักร็อกเก็ตค่ะ เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูที่ทานง่าย เพราะมีทั้งไส้กรอกกระเทียมที่เมื่อทานแล้วจะได้ความหอม และรสชาติของเครื่องเทศอย่างชัดเจน รวมถึงความหอมของมอสซาเรลลชีสแบบเต็มคำ แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ ชีสจะยืด น่าทานมากกก! 

 

 

Pizza Prosciutto Cotto e Funghi 340 บาท

          ถัดมากับอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของทางร้านกับเมนู Pizza Prosciutto Cotto e Funghi หรือพิซซ่าแฮมเห็ด สำหรับเมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูพิซซ่าแบบต้นตำรับอิตาเลียนแท้ๆ แต่รับประกันว่าทานง่าย และน่าจะถูกใจใครหลายคน เพราะในหนึ่งถาดจะมีวัตถุดิบหลักเป็นแฮม และเห็ด พร้อมด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น และชีสมอสซาเรลลา ท็อปด้วยใบร็อกเก็ต

 

 

Pizza Napoli 300 บาท

          ปิดท้ายเมนูพิซซ่ากันไปด้วยเมนูพิซซ่านาโปลี หรือพิซซ่าที่มีส่วนผสมของซอสมะเขือเทศเข้มข้น, มอสซาเรลลาชีส, ออริกาโน พร้อมด้วยวัตถุดิบหลักอย่างแอนโชวี่ หรือปลาทะเลอิตาลี ที่ทำให้ถาดนี้มีความโดดเด่นด้วยรสชาติของแอนโชวี่ที่มีทั้งความเค็มนิดๆ และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งจุดเด่นของพิซซ่าของที่ร้านเลย เพราะเมนูพิซซ่าของทางร้านจะไม่ได้มีการปรุงรสชาติใดๆ เพิ่มเติม แต่จะเน้นรสชาติจากตัววัตถุดิบจริงๆ เท่านั้นค่ะ

 

 

Spaghetti Carbonara 199 บาท

          ปิดท้ายเมนูอิตาเลียนกันไปด้วยเมนูสปาเกตตีคาโบนาร่าจากทางร้าน ซึ่งทางร้านทำออกมาในสูตรอิตาเลียนดั้งเดิมแบบแท้ๆ ที่เน้นความหนึบของจากชีสและไข่แดงเป็นหลัก คลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตี เพิ่มเติมด้วยเบคอน และเบคอนทอดกรอบ ทำให้จานนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

 

 

เซตข้าวหน้าไข่ข้นกุ้ง 159 บาท

          เมนูคลาสสิกสำหรับใครที่อยากอิ่มจบได้ในเมนูเดียว สำหรับเมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเซตค่ะ โดยในหนึ่งเซตจะได้ทานทั้งข้าวหน้าไข่ข้น ท็อปด้วยกุ้งกระเทียมกรุบกรอบ, น้ำซุป และปิดท้ายด้วยของหวานอย่างไอศกรีมวอลล์ โดยลูกค้าสามารถนำบัตรรับไอศกรีมไปรับ และเลือกรสชาติได้ที่เคาน์เตอร์ค่ะ

 

 

Ham and Cheese Sandwich 99 บาท

          ถัดมากับเมนูในหมวดแซนด์วิชกับเมนู แซนด์วิชแฮมชีส ในหนึ่งชิ้นจะมีทั้งมะเขือเทศ, ผักร็อกเก็ต, ชีส และแฮม รับรองว่าทั้งอิ่มอร่อยถูกใจคนชอบขนมปัง

          สำหรับเมนูแซนด์วิชของที่ร้านนั้นจะมีให้เลือกทาน 2 เมนู คือ แซนด์วิชแฮมชีส และแซนด์วิชทูน่าค่ะ โดยในหนึ่งเมนูจะได้ทานทั้งแซนด์วิช และเฟรนช์ฟรายส์ทอดกรอบเสิร์ฟมาคู่กันค่ะ

 

 

Dressage French Fried 5 drip 99 บาท

          ปิดท้ายเมนูอาหารกันไปด้วยเมนูอาหารทานเล่นที่ใครหลายคนน่าจะชื่นชอบ สำหรับเมนูนี้จะเป็นเฟรนช์ฟรายส์หั่นชิ้นใหญ่ ได้รสชาติของมันฝรั่งทอดแบบเต็มคำ แต่จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่ทางร้านเสิร์ฟดริปมาถึง 5 รสชาติ! คือ ซอสมะเขือเทศ, มายองเนส, มัสตาร์ด, ซอสวาซาบิ และซอสพริกเผาค่ะ

 

 

เครื่องดื่ม

          มาถึงคาเฟ่ทั้งที ก็ต้องขอพาแวะไปดูเมนูเครื่องดื่มกันสักหน่อยค่ะ สำหรับเมนูเครื่องดื่มของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายไม่แพ้กันกับเมนูอาหารเลยค่ะ โดยจะมีให้เลือกดื่มทั้งเมนูกาแฟ และเมนู non-coffee ทั้งชา, Soda fruit tea, สมูทตี้ และอิตาเลียนโซดาค่ะ

Strawberry Italian Soda 85 บาท

          เริ่มต้นกันด้วยเมนูสีสันน่ารักชวนดื่มอย่างเมนู Strawberry Italian Soda เมนูอิตาเลียนโซดาขายดียอดนิยมอันดับ 1 ของที่ร้านค่ะ ในหนึ่งแก้วจะได้ทั้งรสชาติความหวานจากสตรอว์เบอร์รี ควบคู่มากับความซ่าของโซดา พร้อมด้วยรสเปรี้ยวนิดๆ เพราะทางร้านมีการเติมน้ำเลมอนช่วยให้แก้วนี้สดชื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

 

Dressage Cappuccino 85 บาท

          ปิดท้ายกันไปด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านกับเมนู Dressage Cappuccino เมนูสำหรับคนรักกาแฟ ซึ่งเมนูกาแฟของที่ร้านแต่ละเมนู ทางร้านได้มีการคัดเลือกเมล็ดกาแฟอย่างดีมาใช้ เพื่อให้คอกาแฟประทับใจมากที่สุด สำหรับเมนู Dressage Cappuccino นี้ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ที่มีความเข้มข้น แต่ยังมีฟองนมทำให้แต่ละคำมีความนุ่มขึ้น ใครสายกาแฟต้องลองค่ะ 

 

 

สรุปรสชาติอาหาร

Pizza Garlic Sausage 350 บาท : ตัวไส้กรอกมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศชัดเจน ในส่วนของพิซซ่าจะมีความหอมจากชีส และรสชาติเปรี้ยวจากซอสมะเขือเทศ เข้ากันได้ดี สำหรับตัวแป้งพิซซ่ามีความกรอบ พร้อมด้วยกลิ่นไหม้เตาฟืนในแต่ละคำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำให้พิซซ่าของที่ร้านมีรสชาติดีมากยิ่งขึ้นค่ะ

Pizza Prosciutto Cotto e Funghi 340 บาท : เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติ และความหอมจากเห็ดในแต่ละคำ รวมถึงมีแฮมช่วยเพิ่มรสชาติ ทำให้เมนูนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ในส่วนของซอสมะเขือเทศจะมีรสเปรี้ยวบางๆ พร้อมด้วยกลิ่นหอม และรสชาติจากมอสซาเรลลาชีสชัดเจน ในส่วนของแป้งมีความกรอบมาก ถึงแม้จะตั้งไว้นานก็ยังคงความกรอบไว้ได้ดี อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของเตาฟืนอีกด้วยค่ะ

Pizza Napoli 300 บาท : ตัวแป้งพิซซ่ามีความบางกรอบ หอมกลิ่นเตาฟืน ในส่วนของรสชาติ เมนูนี้เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติเค็ม และกลิ่นหอมจากแอนโชวี่ ซึ่งทำให้ถาดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับเมนูนี้ค่อนข้างประทับใจเป็นพิเศษค่ะ

Spaghetti Carbonara 199 บาท : เส้นสปาเกตตีลวกมาได้นิ่ม ในแต่ละคำจะได้ความหอมจากตัวซอสคาโบนาร่า รวมถึงสัมผัสกรุบกรอบ และรสชาติเค็มนิดๆ จากเบคอน ทำให้เมนูนี้รสชาติออกมาลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่เมนูนี้อาจจะมีราคาที่สูงไปนิดค่ะ

เซตข้าวหน้าไข่ข้นกุ้ง : เมื่อทานแล้วจะได้กลิ่นหอมของเนยชัดเจน ตัวไข่ข้นมีสัมผัสที่นุ่มไม่แห้งไป ในส่วนของกุ้งเนื้อกรอบเด้ง ทานแล้วเข้ากันได้ดีกับตัวไข่ข้น อีกทั้งยังมีความหอม และสัมผัสกรุบกรอบของกระเทียมเจียวเพิ่มเข้ามา เมนูนี้จึงออกมามีรสชาติดียิ่งขึ้น และค่อนข้างประทับใจค่ะ

Ham and Cheese Sandwich 99 บาท : ขนมปังจะมีความกรอบจากด้านนอก ในส่วนของไส้มีแฮมและชีสแบบเต็มคำ รวมถึงมะเขือเทศ และผักร็อกเก็ต คนที่ชอบทานผักน่าจะประทับใจได้ไม่ยาก สำหรับเมนูนี้ค่อนข้างคุ้มค่า เพราะจะเสิร์ฟมาเป็นเซตมีให้เลือกทานทั้งแซนด์วิช และเฟรนช์ฟรายส์ทอดค่ะ

Dressage French Fried 5 drip 99 บาท : เฟรนช์ฟรายส์จะมีความกรอบนอกนุ่มใน เน้นมันฝรั่งแบบเต็มคำ เพราะหั่นชิ้นค่อนข้างใหญ่ ในส่วนของดริปค่อนข้างประทับใจ ดริปวาซาบิที่มีกลิ่นหอมของวาซาบิชัดเจน แต่ไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้ทานได้ง่าย และดริปน้ำพริกเผาที่มีรสชาติหวานเค็มครบรส เมนูนี้สามารถทานได้ทุกรุ่นทุกวัยค่ะ

Strawberry Italian Soda 85 บาท : เมื่อดื่มแล้วจะได้รสชาติหวานของสตรอว์เบอร์รีชัดเจน พร้อมด้วยรสเปรี้ยวนิดๆ จากเลมอน ทำให้แก้วนี้มีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น เข้ากันได้ดีกับโซดาค่ะ ในส่วนของโซดามีปริมาณกำลังดี ไม่กลบรสชาติของน้ำสตรอว์เบอร์รี อีกทั้งยังมีสตรอว์เบอร์รีเชื่อมช่วยเพิ่มรสชาติในแต่ละแก้วอีกด้วย

Dressage Cappuccino 85 บาท : กาแฟมีความเข้มข้น และหอมกลิ่นกาแฟ อีกทั้งยังมีฟองนมช่วยให้แต่ละคำมีความนุ่มมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

การประเมิน และให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.10

บรรยากาศ

4.20

ความคุ้มค่า

4.10

คะแนนเฉลี่ย

4.1333

 

จุดเด่นของร้าน Dressage Horse Café

1. เมนูอาหารของที่ร้านแต่ละเมนูมีรสชาติดี โดยเฉพาะเมนูพิซซ่าเตาฟืน, สปาเกตตีคาโบนาร่า และข้าวหน้าไข่ข้นกุ้ง ที่ประทับใจเป็นพิเศษค่ะ

2. เมนูอาหารของที่ร้านมีให้เลือกหลากหลายครบทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม โดยมีให้เลือกทานทั้งอาหารอิตาเลียน และอาหารฟิวชั่น รวมถึงเครื่องดื่มกาแฟ/ non-coffee และไอศกรีมค่ะ

3. บรรยากาศของที่ร้านค่อนข้างดี มีความอบอุ่น และมีที่นั่งให้เลือกนั่งหลายมุมทั้งด้านในคาเฟ่ที่เป็นห้องปรับอากาศ และด้านนอก Open air ที่จะได้เห็นบรรยากาศของสนามขี่ม้า คนรักสัตว์น่าจะประทับใจเป็นพิเศษค่ะ

4. สำหรับคาเฟ่ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่มวัย ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เพราะมีกิจกรรมให้ทำค่อนข้างหลากหลายทั้งในส่วนของคาเฟ่ และในส่วนสนามขี่ม้าค่ะ 

5. สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวไป ทางร้านมีที่จอดรถบริการบริเวณหน้าร้าน โดยสามารถจอดได้ฟรีไม่คิดค่าบริการค่ะ

6. ทางร้านมีบริการเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน LINEMAN สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปทานถึงที่ร้านค่ะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ

1. สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ อาจจะไม่สะดวกเท่าไร เพราะร้านจะตั้งอยู่ในซอย และไม่ติดกับถนนใหญ่ค่ะ

2. พื้นที่ภายในร้านจะมีทั้งส่วนของคาเฟ่, สนามขี่ม้า และออฟฟิศตั้งอยู่ในโซนเดียวกัน โดยทางร้านจะมีทางเข้าทั้งหมด 2 ทาง ถ้าหากใครต้องการมาที่คาเฟ่โดยตรง สามารถเข้าทางประตูทางขวามือที่หน้าร้านก็จะถึงคาเฟ่เลย ไม่ต้องผ่านส่วนของออฟฟิศค่ะ

 

 

         เดินทางออกจากใจกลางเมืองเพียงไม่นาน ก็จะได้เจอกับคาเฟ่แสนอบอุ่นใกล้ชิดธรรมชาติ รายล้อมด้วยน้องม้าในแบบฉบับที่คนรักสัตว์น่าจะประทับใจได้ไม่ยาก หรือถ้าหากใครเป็นสายคาเฟ่เต็มตัวก็ยังสามารถนั่งชิลๆ ได้ เพราะที่นี่เขาครบครันทั้งเมนูอาหารคาวหวาน และเครื่องดื่ม Dressage Horse Café จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่น่าจะตอบโจทย์ใครหลายคน จะมาเป็นครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนก็รับรองว่าได้รับความประทับใจไม่แพ้กัน สำหรับใครที่กำลังมองหาคาเฟ่หรือสถานที่พักผ่อนดีๆ ในหนึ่งวัน ร้าน Dressage Horse Café เป็นหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสค่ะ

 

เมนูแนะนำของร้าน Dressage Horse Café Bangkok

Pizza Garlic Sausage

350 บาท
พิซซ่าไส้กรอกกระเทียมที่ผสมผสานส่วนผสมอย่างซอสมะเขือเทศเข้มข้น, มอสซาเรลลาชีส และไส้กรอกกระเทียม

Pizza Prosciutto Cotto e Funghi

340 บาท
พิซซ่าแฮมเห็ดที่ในหนึ่งถาดจะได้รสชาติของแฮม เห็ด พร้อมด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น และชีสมอสซาเรลลา

Pizza Napoli

300 บาท
พิซซ่าสไตล์อิตาเลียนโดดเด่นด้วยรสชาติ และกลิ่นหอมของแอนโชวี่ พร้อมด้วยรสชาติของชีส และซอสมะเขือเทศแบบเข้มข้น

เซตข้าวหน้าไข่ข้นกุ้ง

159 บาท
เซตสุดคุ้มที่มีให้เลือกทานทั้งข้าวหน้าไข่ข้นกุ้ง ซุป และไอศกรีมปิดท้าย

Dressage French Fried 5 drip

99 บาท
เฟรนช์ฟรายส์ เมนูทานเล่นสุดคลาสสิก เพิ่มเติมด้วยดริปถึง 5 รสชาติ

Dressage Cappuccino

85 บาท
เมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% สุดเข้มข้น ปิดท้ายด้วยฟองนุ่มๆ เอาใจคอกาแฟ

เขียนโดย
a girl who has a passion for eating food!
จำนวนบทความที่รีวิว : 95
วันที่เขียนรีวิว : 2021/02/08
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.10
การบริการ
4.10
ตกแต่งสถานที่
4.15
ราคาเหมาะสม
4.00
แผนที่ร้าน Dressage Horse Café Bangkok
ที่อยู่ :
100/633 หมู่บ้านนักกีฬา ซอย 12 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10250 ต. สะพานสูง อ. เขตสะพานสูง จ. กรุงเทพมหานคร ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
02-120-6526
ช่วงเวลา :
เปิด 09.00-19.00 น.
ปิดวันจันทร์
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP