
รีวิว Jikasei B (จิคะเซ บี) ร้าน Omakase ที่พร้อมมอบประสบการณ์การทานซูชิผ่านวัฒนธรรมและปรัชญาญี่ปุ่น โดยเชฟ Tiago (สุขุมวิท43)
โอมากาเสะในภาษาญี่ปุ่นก็คือ お任せ หากแปลเป็นภาษาไทยตรงๆ คือ ตามใจเชฟ และวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปทานโอมากาเสะที่เสิร์ฟโดยเชฟชาวโปรตุเกสผู้หลงไหลในอาหาร วัฒนธรรม และปรัชญาญี่ปุ่น อย่างเชฟ Tiago Cardoso da Silva (เชฟทิอาโก้) เจ้าของร้าน Jikasei B
(แผนที่การเดินทางร้าน Jikasei B : https://g.co/kgs/bN2bG49)
Jikasei B เปิดบริการอยู่ที่สุขุมวิท 43 หากสังเกตจากหน้าร้านก็คงพอทราบได้ว่าที่นี่คือร้านอาหารญี่ปุ่น แต่คุณจะไม่มีทางทราบได้เลยว่าเมื่อเดินเข้ามาภายในร้านเชฟ Tiago เตรียมประสบการณ์อะไรไว้ให้คุณ
บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นสุดๆ ด้วยการใช้สีของไฟ โต๊ะรวมถึงโซฟาที่นั่งแล้วรู้สบายเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้านเพื่อน ทุกอย่างที่เป็นการตกแต่งภายในร้านเป็นไอเดียของเชฟ Tiago ที่อยากนำเสนอตัวตนของเชฟผ่านสิ่งของและรวมถึงเมนูที่เชฟเตรียมจะเสิร์ฟให้เราได้ทานอีกด้วย
ชุดในการเตรียมวัตถุดิบก่อนเปิดร้าน
ด้วยประสบการณ์การฝึกฝนในเส้นทางของเชฟซูชิกว่า 12 ปี ทำให้เชฟ Tiago มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับวัตถุดิบได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแล่ปลา หรือทำความสะอาดวัตถุดิบ เรียกได้ว่าแทบทุกขั้นตอนการเตรียมก่อนเปิดร้านเชฟจะเป็นคนทำเองทั้งหมด
ในส่วนวัตถุดิบที่เชฟ Tiago นำมาใช้จะเป็นวัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น กุ้งหวานญี่ปุ่น อูนิ ตับปลาอังโกะ ปลาซาบะ และพระเอกของร้านอย่าง ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน จากแบรนด์ ‘Yamayuki’ ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของโลก และการที่จะได้ปลามาจากที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องเป็นร้านที่ได้คำเชิญโดยตรงจากแบรนด์เท่านั้น
สำหรับข้าวปั้นซูชิรสชาติจะมีเข้มข้นเป็นพิเศษด้วยการเลือกใช้ข้าวสายพันธุ์ดีที่สุดมาผสมผสานกับน้ำส้มสายชูสูตรพิเศษของเชฟ ทำให้ทั้งกลิ่นและรสชาติของข้าวซูชิมี่ความเป็นเอกลักษณ์สุดๆ
ราคาคอร์สทั้งหมดของ Jikasei B
• Sushidokoro Course ราคา 4,800++ | 14-16 Courses
• Jikasei B Course ราคา 6,800++ | 16-18 Courses
มาเริ่มต้นกันที่เมนูแรกที่เชฟจะเสิร์ฟให้เราทานกันเลยค่ะ
Gas Ebi
เริ่มเปิดต่อมรับรสด้วยเมนู Gas Ebi อามะเอบิ หรือกุ้งหวานญี่ปุ่น เนื้อเด้งรสหวานสมชื่อ เสิร์ฟคู่กับเบบี้พีช ท็อปด้วย Tosazu Jelly รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ทานแล่วสดชื่น และเรียกน้ำย่อยได้ดีเลยล่ะค่ะ
Chawan Corn
เมนูเรียกน้ำย่อยต่อมาคือไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟมาในถ้วยทรงสูงดูสวยงามน่าทานมาก เมื่อเปิดฝาถ้วยออกก็จะได้เจอกับ Uni ชิ้นโตวางอยู่บนไข่ปลาอิคุระ Uni ของที่นี่เชฟเลือกใช้เป็น Bafun Uni จากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เพราะจะมีรสชาติหวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนเป็นเอกลักษณ์ ชั้นล่างสุดจะเป็นไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเด้ง ความพิเศษของไข่ตุ๋นคือ เชฟจะใช้ข้าวโพดมาตีผสมกับไข่จนเป็นเนื้อเดียวกันก่อนนำไปตุ๋นจนสุกได้ที่
ทานแล้ว Chawan Corn ถ้วยนี้จะมีรสชาติกลมกล่อมลงตัว มีกลิ่นหอมของซอสดาชิ เมื่อทานพร้อม Bafun Uni จะมีรสหวานติดเค็มนิดๆ จากน้ำทะเล เนื้อสัมผัสละมุนนุ่มลิ้นสุดๆ และปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมจากผิวส้มยูสุที่เชฟปัดลงไปบางๆ ในขั้นตอนสุดท้ายอีกด้วย
Aji
เมนูนี้สีสวยน่าทานมาก ปลาอาจิมีเนื้อที่แน่นและไขมันแทรกเล็กน้อย รสชาติของปลาเข้มข้นกำลังดีเลยค่ะ
Ankimo
Ankimo หรือตับปลาอังโกะ (Monkfish Liver) เป็นวัตถุดิบที่มีความพิเศษและต้องใช้ทักษะในการเตรียมอย่างสูง เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม เริ่มจากการทำความสะอาดตับปลาอย่างระมัดระวัง ทั้งการกำจัดเส้นเลือดและเยื่อที่ไม่ต้องการออก ซึ่งเชฟ Tiago ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับความสะอาดและคุณภาพของวัตถุดิบเป็นอย่างมาก
ตับปลาอังกิโมะจะเสิร์ฟมาในแป้งโมนากะ พร้อมนาราสึเกะ (ผักดองสไตล์ญี่ปุ่น) ก่อนทานเชฟแนะนำให้ประกบแป้งทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน ทานแล้วจะมีกลิ่นหอมของแป้งโมนากะ ส่วนตับปลาอังโกะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน ครีมมี่ รสชาติเข้มข้น หอม มัน และปิดท้ายด้วยรสหวานหอมแบบเฉพาะตัวของนาราสึเกะ โดยรวมแล้ว Ankimo ชิ้นนี้ สมกับฉายาที่ว่า ‘ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล’ สุดๆ
Saba
เมนู Saba หรือ Saba bo-zushi ปลาซาบะสดส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น สำหรับวัตถุดิบหลักอย่างปลาซาบะเชฟจะแร่เอาก้างและส่วนต่างๆ ออก ให้เหลือเฉพาะเนื้อปลา จากนั้นจะค่อยๆ โรยด้วยเกลือทะเล จากเมืองโนโตะ ประเทศญี่ปุ่น และนำไปหมักต่อด้วยน้ำส้มสายชูสูตรเฉพาะของทางร้าน
เมื่อรอเวลาหมักจนได้ที่แล้ว เชฟ Tiago ก็จะนำปลาซาบะมาบรรจงวางบนข้าวซูชิ ก่อนนำไปย่างด้วยถ่ายร้อนๆ จนส่งกลิ่นฟุ้งไปทั่วทั้งร้าน
สำหรับเมนูนี้เชฟจะเสิร์ฟมาพร้อมกับสาหร่ายย่าง ทานแล้วต้องบอกเลยว่าครบรสสุดๆ มีทั้งรสเค็ม มัน และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของปลาซาบะ เมื่อเคี้ยวถึงตัวไส้ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นกับขิงดอง และใบชิโสะ
Maguro Zuke
เมนูต่อมาคือ Maguro Zuke ความพิเศษอยู่ที่วัตถุดิบสุดพรีเมียมอย่างปลาทูน่าครีบน้ำเงิน จากแบรนด์ ‘Yamayuki’ ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของโลกในด้านปลาทูน่า
คำนี้เชฟเลือกใช้ส่วนชูโทโร่ที่มีมันปานกลาง นำไปหมักซอสก่อนเสิร์ฟ ทานแล้วเนื้อปลาจะมีรสชาติที่เข้มข้น เนื้อนุ่มและหอมกลิ่นซอสนิดๆ จากการหมัก
Toro Warayaki
Toro Warayaki เชฟจะเลือกใช้เป็นส่วนโอทาโร่ ของปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) นำไปย่างกับฟางข้าวให้หอมกลิ่นสโมค ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่นนั่นเอง
คำนี้ทานแล้วต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยมาก เนื้อปลามีมันแทรกทั่วทั้งชิ้น เนื้อนุ่มฉ่ำและมีรสชาติที่เข้มข้น ตามมาด้วยกลิ่นสโมคอ่อนๆ เข้ากันดีสุดๆ
Kohada
ปลาโคฮาดะ หรือ ปลาตะเพียนญี่ปุ่น จัดว่าเป็นตถุดิบชั้นเลิศในการทำซูชิตั้งแต่สมัยเอโดะเลยทีเดียว โดดเด่นด้วยหนังสีเงินเงาและมีขนาดตัวที่เล็กทำให้ต้องอาศัยความชำนาญของเชฟอย่างมากในการเตรียมเนื้อปลา
Kohada คำนี้ทานแล้วอบอวลไปด้วยรสอูมามิ เนื้อปลาจะมีรสชาติเฉพาะตัว เค็ม มัน และหอมกลิ่นซอสโชยุกำลังดีค่ะ
Uni
ทางร้านเลือกใช้เป็น ‘Uni Bafun’ อูนิหนามสั้นนำเข้าจากฮอกไกโด โดดเด่นเนื้อสัมผัสครีมมี่ และมีรสชาติที่หวานแบบธรรมชาติ
Amadai
Amadai (ปลากะพงหวาน) สำหรับจานนี้ขั้นตอนการทำหลากหลายสุดๆ เริ่มต้นด้วยการทอดเกล็ดปลาให้กรอบฟูก่อน แล้วจึงนำไปย่างให้สุกและหอม เมนูนี้ขะเสิร์ฟมาพร้อมรากบัวทอด แตงกว่าดอง และราดด้วยยูซุมิโซะซอสปิดท้าย ทานแล้วเนื้อปลาหวานฉ่ำมาก ไม่อมน้ำมัน มีกลิ่นหอมจากการย่างและกลิ่นยูซุมิโซะซอส สามารถทานได้ทั้งเกล็ดเลย
Mochi
คาราสุมิจะถูกห่อแป้งโมจิโฮมเมดและนำไปย่างจนผิวด้านนอกกรอบกำลังดี บอกเลยว่าเมนูไม่ธรรมดา ถึงหน้าตาจะดูคล้ายของหวานแต่ทานแล้วกลับไม่ใช่ แป้งโมจิเหนียวนุ่มเมื่อทานถึงไส้คาราสุมิแล้วจะได้รสชาติที่เค็มและมัน แถมยังมาพร้อมกลิ่นหอมที่เอกลักษณ์สุดๆ
Tamago
ปิดท้ายด้วย Tamago หรือเค้กไข่หวาน ฟังชื่อแล้วอาจจะดูธรรมดา และทานแล้วรับรองว่าต้องติดใจในรสชาติแน่นอน! เมนูนี้จะเสิร์ฟมาในสไตล์คัสเตลลา แป้งเค้กไข่จะมีความนุ่มละเอียดกัดเข้าไปแล้วฉ่ำและหอมมาก ถือเป็นเมนูของหวานที่ปิดจบมื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Jikasei B ที่นี่ไม่เพียงนำเสนอโอมากาเสะระดับพรีเมียมผ่านฝีมือเชฟทิอาโก้ที่เปี่ยมด้วยความรักในศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น แต่ยังสร้างประสบการณ์การทานที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่บรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านเพื่อน ไปจนถึงการคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดจากญี่ปุ่นที่หาทานได้ยาก พร้อมเทคนิคการทำอาหารสูตรเฉพาะของเชฟ Tiago ที่ให้รสชาติอาหารเข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นทุกจานที่เสิร์ฟออกมาจึงไม่ใช่แค่มื้ออาหาร แต่คือเรื่องราวของความหลงใหลที่เชฟต้องการสื่อสารผ่านวัฒนธรรมและปรัชญาญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ข้อมูลเพิ่มเติม
1. Jikasei B เปิดบริการทุกวันพุทธ-เสาร์ เวลา 17:30 - 19:30 น. และ 20:00 - 22:00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 080 243 2143
2. ราคาคอร์สทั้งหมดของ Jikasei B : Sushidokoro Course ราคา 4,800++ | 14-16 Courses และ Jikasei B Course ราคา 6,800++ | 16-18 Courses
3. สำรองที่นั่ง Email: [email protected] , Line Official: @jikaseib