บุฟเฟ่ต์ชาบู ที่มาพร้อมซูชิ แบบไม่อั้นที่ร้าน Shibuya Shabu สาขาพระราม 9
ร้านอาหารตกแต่งสไตล์บุฟเฟ่ต์ ชาบู ที่ตั้งอยู่ชั้น G อาคารวรสมบัติ บนถนนพระราม 9 ด้วยทำเลที่ติดกับ ถนนพระราม 9 – แยกผังเมือง โดยการเดินทางมาที่ร้านจะสบายสำหรับคนที่มีรถส่วนตัว หรือ นั่งรถแท็กซี่ ซึ่งจะมีที่จอดรถบริเวณหน้าร้าน และลานจอดรถบนอาคารวรสมบัติ ซึ่งจะสามารถจอดรถฟรี 2 ชั่วโมง และชั่วโมงถัดไปคิดค่าบริการจอดชั่วโมงละ 30 บาท แต่ถ้าการเดินทางด้วยรถประจำทางจะลำบากเล็กน้อยครับ และร้านเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.


สำหรับ Shibuya Shabu ก็ยังมีอีก 2 สาขา คือ สาขาทองหล่อ และสาขาเจริญนคร 13 ถ้าใครอยู่ใกล้สาขาไหน แนะนำให้ไปสาขาที่ใกล้ที่สุดครับ โดย Shibuya Shabu สาขาพระราม 9 จะเป็นร้านคู่ที่ติดกับร้าน King Kong Yakiniku ฺBuffet ซึ่งจะเป็นร้านค้าในเครือเดียวกัน ส่วนราคาบุฟเฟ่ต์ Shibuya Shabu ต่อหัวจะอยู่ที่ 690 บาท และสามารถนั่งทานได้นานถึง 2 ชั่วโมง ถือว่าให้เวลาทานนานพอสมควรครับ
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว หรือ รถประจำทาง


โดยมีจุดสังเกตตรงที่ อาคารวรสมบัติจะตั้งอยู่ใกล้กับสี่แยกผังเมืองบนถนนพระราม9 และติดกับอาคารว่องวานิช ซึ้งด้านหน้าตรงข้ามจะเป็นโชว์รูมรถไทยสมาร์ทคาร์ พลาซ่า และถ้าเดินทางโดยรถประจำทาง ก็จะมีรถประจำทาง 6 สาย ผ่านหน้าอาคารวรสมบัติ
รถประจำทางสาย 168 : สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยฯ
รถประจำทางสาย 517 : ลาดกระบัง-หมอชิตใหม่
รถประจำทางสาย 137 : (วงกลม) รามคำแหง-ถนนรัชดาภิเษก
รถประจำทางสาย 179 : อู่พระราม 9-สะพานพระราม 7
รถประจำทางสาย 171 : อู่บางขุนเทียน-หมู่บ้านนักกีฬา
รถประจำทางสาย 551 : อนุสาวรีย์-สุวรรณภูมิ
บรรยากาศภายในร้าน


เมื่อมาถึงหน้าร้านต้องบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าลูกค้าเยอะมากจริงๆ อาจต้องต่อคิวรอพอสมควร และที่สาขานี้สามารถจองล่วงหน้าได้ ซึ่งสามารถจองโต๊ะได้ตั้งแต่ 11.00-18.00 น. เฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์ เท่านั้น
SPONSORED




โดยจุดเด่นในเรื่องบรรยากาศของร้าน Shibuya Shabu สาขาพระราม 9 นั้นก็คือการแบ่งโซนอาหารแต่ละประเภทอย่างชัดเจน และจัดเรียงอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ผักสด, ผลไม้, เห็ด, ขนมหวาน และน้ำดื่ม

สำหรับด้านการตกแต่งร้านก็ดูสบายตา ซึ่งจะเน้นไปโทนสีที่ไม่ทึบมาก หรือสว่างจนเกินไป โดยฝาผนังจะทาเป็นสีขาว และเพด้าน ตกแต่งแบบคานไม้ให้ดูคลาสสิคมากขึ้น

พร้อมเสียงเพลงเบาๆ ถ้าไม่ตั้งใจฟังจริงๆ จะไม่รู้เลยว่ากำลังเปิดเพลงอยู่ สำหรับอุณหภูมิในร้านถือว่าไม่ร้อน และไม่เย็นจนเกินไป ส่วนโต๊ะสำหรับนั่งทานอาหารจะมีโทนสีเทารวดลายแบบไม้ที่ดูสะอาดตา แต่โต๊ะสำหรับนั่งทานอาหารนั้นจะมีอยู่ไม่มากนัก ซึ่งถ้ามีลูกค้ามาพร้อมๆ กัน ก็คงต้องรอต่อคิวกันนานพอสมควร โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกลุ่มคนทำงานที่อยู่ในละแวกย่านนี้ และลูกค้าทั่วไปที่ตั้งใจมารับประทานที่ร้านนี้โดยเฉพาะ




สำหรับการเลือกสั่งอาหารเริ่มต้นนั้น จะมีพนักงานเรียกคิวของลูกค้า และจะให้ลูกค้าเลือกอาหารก่อนเพื่อเวลาถึงคิว และไปนั่งที่โต๊ะจะได้รับประทานอาหารได้เลยทันที และเพื่อไม่ให้เสียเวลามากจนเกินไป ผมจึงเลือกอาหารสดมาอย่างล่ะ 2 ชุด และที่เป็นเมนูไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ ซูชิ นั่นเอง โดยจะมีให้เลือก 2 เซต ด้วยกัน ซึ่งจะมีเซต A และเซต B โดยเมนูอาหารซูชิทั้ง 2 เซต จะแตกต่างกันพอสมควร

และถ้าใครมารับประทานในวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ จะไม่สามารถเลือกซูชิเซต B ได้ครับ ส่วนถ้าใครต้องการเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินออกไปนอกร้าน และขึ้นบันไดไปชั้น 1 เข้าประตูขวามือ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่สุดทางเดินด้านขวา

|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
การตกแต่งสถานที่ |
4 |
|
ทำเลที่ตั้ง |
4 |
|
ความสะอาดของสถานที่ |
3.5 |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
3.5 |
|
การบริการ |
3 |
|
ความบันเทิง |
3 |
|
ช่วงเวลาเปิดบริการ |
4 |
|
พื้นที่รองรับลูกค้า |
3 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
3.5 |
เริ่มดื่มด่ำบรรยากาศในร้าน พร้อมชิมชาบู และซูชิ แบบไม่อั้น

สำหรับน้ำซุปจะมีให้เลือก 3 แบบ คือ ซุปชาบู, ซุปหางวัว และซุปสุกี้ ถ้าใครสนใจซุปแบบไหนก็จัดเลยครับ ส่วนผมเลือก ซุปชาบู และซุปสุกี้ เพื่อนำมาลองชิมดูก่อนครับ โดยรสชาติของน้ำซุปทั้ง 2 แบบ จะมีออกหวานนิดครับ
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
3 |
|
ความสะอาด |
4 |
|
ปริมาณอาหาร |
4 |
|
กลิ่นอาหาร |
3 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
3.5 |

ส่วนรายการอาหารสด Meat Menu แบบบุฟเฟ่ต์ ที่สามารถสั่งได้มีให้เลือก 9 เมนู โดยพนักงานแนะนำให้สั่งไปพอประมาณก่อน แล้วค่อยสั่งเพิ่ม ซึ่งผมก็เชื่อคำแนะนำของพนักงาน จึงสั่งมาไม่ครบทุกชุดครับ โดยจะมีเมนูที่สั่งมาดังนี้

-Jyou Karubi (เนื้อวัวบริเวณซี่โครง)
-Egg (ไข่ไก่)

-Kurobuta Roru (เนื้อหมูส่วนคอ)

-Kurobuta Baraniku (เนื้อหมูบริเวณซี่โครง)

-Tsukune (ไก่บด)

-Fish Meat (เนื้อปลาสด)

-Gokoku Gohan (ข้าวญี่ปุ่นผสมธัญพืช)
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
3 |
|
คุณภาพวัตถุดิบ |
4 |
|
การตกแต่งอาหาร |
3.5 |
|
ความสะอาด |
4.5 |
|
ปริมาณอาหาร |
4 |
|
กลิ่นอาหาร |
3 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
3.67 |
เมนู Side Dishes

และยังมีเมนู Side Dishes ซึ่งจะเป็นเมนูข้างเคียง หรือเมนูรอง ที่น่าสนใจมากเลยครับ โดยจะมีให้เลือก 5 เมนู แต่ผมเลือกแค่ 3 เมนูเด็ดๆ มาลองชิมก่อน ซึ่งจะมี Chawanmushi (ไข่ตุ๋น), Cream Corokke (ครีมโคโรเกะปู)

-Karaage (ไก่คาราเกะ)

-Tempura (กุ้งเทมปุระ)
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
3.5 |
|
คุณภาพวัตถุดิบ |
4 |
|
การตกแต่งอาหาร |
3 |
|
ความสะอาด |
3.5 |
|
ปริมาณอาหาร |
4 |
|
กลิ่นอาหาร |
3 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
3.5 |
ซูชิ ไม่อั้น

มาต่อที่ ซูชิ ไม่อั้นกันครับ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของร้าน Shibuya Shabu นี้เลยก็ว่าได้ และวันนี้ผมได้เลือกซูชิ เซต A โดยจะมีซูชิให้เลือก 12 เมนู และเมนูพิเศษอย่าง Temaki Sushi (เทมากิซูชิไข่กุ้ง) แต่ผมคงไม่จัดมาถึง 12 เมนู แน่ๆ เพราะซูชิชิ้นใหญ่มาก และคงจะทานไม่หมดจริงๆ จึงเลือกมาแค่ 8 เมนู ก็พอแล้วครับ ซึ่งแต่ละเมนูเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับกี่คำ โดยผมเลือกเมนูละ 3 คำ เท่านั้น และจะมีเมนูดังนี้

-Salmon (หน้าปลาแซลมอน)
-Ebi (หน้ากุ้ง)

-Akagai (หน้าหอยปีกนก)
-Yakidaku (หน้าเป็ดย่าง)

-Ika (หน้าปลาหมึก)

-Ikura (หน้าไข่ปลาแซลมอน)

-Gyu Jo-Karubi (หน้าเนื้อดิบคารูบิพิเศษ)

-Tempura Maki (เทมปุระมากิไข่กุ้ง)
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
4.5 |
|
คุณภาพวัตถุดิบ |
4 |
|
การตกแต่งอาหาร |
3.5 |
|
ความสะอาด |
4 |
|
ปริมาณอาหาร |
4.5 |
|
กลิ่นอาหาร |
4 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
4.08 |
น้ำดื่ม และของหวาน ก็กลับบ้าน



ในส่วนของน้ำดื่มนั้นก็จะมีให้เลือกมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม, น้ำผลไม้, ชาเขียว และกาแฟ ซึ่งสามารถเดินกดน้ำได้ตามใจชอบเลยครับ และตบท้ายด้วยของหวานที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ อาทิเช่น สับปะรด และแตงโมง พร้อมทั้งยังมีขนมเค้กที่มีหน้าตาสีสันสวยงาม น่ารับประทานเลยทีเดียว


รวมไปถึงเยนลี่หลากสี, เต้าฮวยชานม และเต้าฮวยนมสด

และที่น่าสนใจเป็นพิเศษนั่นก็คือ พานาคอตต้าชานม และพานาคอตต้าสตรอว์เบอร์รี ซึ่งผมก็จัดมาลองชิมแล้ว
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
3.5 |
|
คุณภาพวัตถุดิบ |
3.5 |
|
การตกแต่งอาหาร |
3.5 |
|
ความสะอาด |
4 |
|
ปริมาณอาหาร |
4 |
|
กลิ่นอาหาร |
3.5 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
3.67 |

สำหรับท่านใดที่มารับประทานอาหารร้าน Shibuya Shabu สาขา Rama 9 ในวันธรรมดาต้องขอแนะนำให้มาในช่วงเวลา 14.00น. เป็นต้นไปครับ เพราะช่วงเวลานี้คนจะน้อย และไม่ต้องนั่งรอนานครับ



















