รีวิว Cafe At Ease คาเฟ่ขนมไทยย่านสยาม สมบัติอันแสนหอมหวาน สวยหวานจนไม่กล้าทาน @BTS สนามกีฬาแห่งชาติ

          หากใครกำลังมองหาคาเฟ่บรรยากาศดีไว้สำหรับนั่งพักผ่อนพร้อมด้วยขนมหวานรสชาติดี ต้องไม่พลาดกับ Cafe At Ease (คาเฟ่ แอท อีส) คาเฟ่เปิดใหม่ย่านสยาม ใกล้ BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วยคอนเซปต์ของทางร้านที่เปรียบขนมไทยมีค่าราวกับเป็น "สมบัติอันแสนหอมหวาน" (Sweet Treasures) ขนมไทยภายในร้าน Cafe At Ease จึงออกมาดูสวยงาม ประณีต และมีคุณค่าน่าไปลิ้มลองค่ะ

 

Cafe At Ease คาเฟ่ขนมไทยย่านสยาม สมบัติอันแสนหอมหวาน สวยหวานจนไม่กล้าทาน

@BTS สนามกีฬาแห่งชาติ

 

การเดินทาง

          Cafe At Ease ตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีลม ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ใช้ทางออก 1 เมื่อลงมาจากสถานีจะเจอปากซอยเกษมสันต์ 2 จากนั้นให้เดินเข้าซอยประมาณ 150 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือค่ะ มีจุดสังเกตคือด้านหน้าร้านจะมีต้นไม้ใหญ่ ประดับสีชมพูโดดเด่น

 

 

          สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว สามารถขับตรงมาจากถนนพญาไทฝั่งสะพานเฉลิมหล้า 56 (สะพานหัวช้าง) เมื่อเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 1 ขับตรงไปประมาณ 250 เมตร จะเจอซอยเกษมสันต์ 2 อยู่ทางขวามือ จากนั้นให้ขับตรงเข้าไปซอยประมาณ 150 เมตรจะเจอร้าน 

 

 

 

 

บรรยากาศภายในร้าน

          เมื่อเข้าไปในร้านจะได้กลิ่นอายและบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติและความสดใสจากทุกมุมภายในร้าน เพราะทางร้านเน้นตกแต่งด้วยโทนสีชมพูดูสดใส ประดับด้วยดอกไม้นานาชนิด และมีต้นไม้ด้านหน้าช่วยให้รู้สึกร่มรื่น รวมไปถึงมีมุมให้แสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้ามาถึงภายในร้าน นอกจากนี้รอบๆ ร้านยังตกแต่งด้วยชุดและผลงานการออกแบบสวยๆ ไว้ให้ลูกค้าได้ดูระหว่างนั่งจิบกาแฟทานขนมอีกด้วยค่ะ 

 

 

          พื้นที่ภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ที่นั่งด้านนอกสุด มีโซฟาและเก้าอี้ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งตามความสะดวก ในส่วนนี้จะได้รับลมและแสงแดดของธรรมชาติอย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องกังวลว่าอากาศจะร้อนเกินไป เพราะทางร้านมีบริการพัดลมไอน้ำ ช่วยเพิ่มความเย็นให้นั่งได้ยาวๆ อีกทั้งยังมีมุมน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปอีกด้วย ใครที่รักการถ่ายภาพจะต้องประทับใจค่ะ ถัดมาคือพื้นที่ในห้องกระจก คือส่วนสำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งขนม โดยทางร้านจะมีตู้โชว์ขนมให้ลูกค้าได้เลือกตัดสินใจ และมีโต๊ะเล็กๆ ให้นั่ง เหมาะกับลูกค้าที่มากัน 1-2 คน ที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ ส่วนสุดท้ายคือด้านในสุดของร้าน นอกจากจะเป็นส่วนไว้สำหรับบริการลูกค้าที่มาคาเฟ่แล้ว ยังเป็นพื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายเสื้อผ้าเครื่องประดับ ใครที่เป็นสายแฟชั่นต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปในโซนนี้เลยนะคะ 

 

 

เมนูและราคา

          เมนูของทางร้านนั้นมีพร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารจานหลัก ขนมหวานและเครื่องดื่ม ในส่วนของของหวานนั้นเป็นขนมไทยโฮมเมด รวมไปถึงผ่านการออกแบบอย่างประณีตและพิถีพิถัน ทำให้แต่ละเมนูนั้นมีเอกลักษณ์และรูปลักษณ์สีสันสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทานได้ทั้งเป็นชิ้นและเป็นเซ็ต โดยราคาขนมหวานเริ่มต้นที่ 18-420 บาท นอกเหนือจากเมนูของหวานแล้ว ทางร้านก็มีเมนูเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู ทั้งชาร้อน ชาเย็น กาแฟ และน้ำผลไม้ ราคาเครื่องดื่มอยู่ที่ 80-230 บาท (ราคาทั้งหมดในเมนูยังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10%)

        

         

          นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการรับออกแบบและสั่งจองขนมล่วงหน้า พร้อมกล่องแพ็คเกจอย่างดี โดยมีให้เลือกทั้งขนมเค้กและขนมไทย แบบ Custom Made ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสีและแบบได้ตามต้องการอีกด้วย

 

 

ชุดอาลัวดอกไม้ 8 ชิ้น (1 ชิ้น/ 18 บาท, 8 ชิ้น/ 130 บาท)

         เมนูขนมไทยโบราณยอดนิยม สำหรับเมนูนี้จะใช้สูตรตามขนมอาลัวโบราณแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มความใส่ใจและประณีต เพื่อให้ได้รูปทรงดอกไม้ที่ที่ละเอียดกลีบต่อกลีบ นอกจากนี้แต่ละชิ้นต้องใช้เวลาทำ 3 วันก่อนจะนำมาเสิร์ฟถึงมือลูกค้า เนื่องจากทางร้านต้องการให้ขนมแต่ละชิ้นมีความกรอบนอกและนุ่มด้านในที่พอดีกันค่ะ 

 

 

อาลัวดอกบัว (1 ชิ้น/ 45 บาท, 6 ชิ้น/ 240 บาท)

          ขนมอาลัวสูตรโบราณเช่นเดียวกัน แต่ชิ้นนี้ทางร้านจะเพิ่มลวดลายและขึ้นหน้าอย่างละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ได้ดอกบัวที่ขึ้นรูปเป็นเอกลักษณ์ สำหรับเมนูนี้ลูกค้านิยมสั่งเป็นเซ็ตของขวัญ ทางร้านจึงมีเซ็ตของขวัญเป็นแพ็คเกจกระบุงไม้น่ารักๆ ไว้ใส่อาลัวดอกบัวโดยเฉพาะ สำหรับเซ็ตของขวัญราคาอยู่ที่ 4 ชิ้น/ 220 บาท

 

 

อาลัวดอกไม้ขนมชั้น (59 บาท)

          สำหรับเมนูนี้ทางร้านนำขนมไทย 2 ชนิดมาเสิร์ฟคู่กัน ชั้นล่างจะเป็นขนมชั้นและท็อปด้วยอาลัวสด ซึ่งอาลัวสดจะมีความแตกต่างกับอาลัวที่ทางร้านขายปกติ เพราะอาลัวชนิดนี้จะใช้เวลาอบน้อยกว่า จึงมีสัมผัสที่นุ่มนิ่มมากกว่าค่ะ ในส่วนของขนมชั้น หน้าร้านจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รสชาติ คือใบเตยและอัญชัน แต่ถ้าใครสนใจขนมชั้นรสชาติใหม่ๆ ทางร้านก็มีรสอื่นแนะนำ เช่น รสช็อกโกแลต รสบีทรูท แต่แนะนำให้สั่งล่วงหน้า 1 วันค่ะ 

 

 

บัวหิมะสอดไส้ (72 บาท) 

          โดยทั่วไปแล้วขนมบัวหิมะเป็นขนมไทยหาทานยากและน้อยคนที่จะรู้จักขนมชนิดนี้ ซึ่งขนมบัวหิมะแบบดั้งเดิมนั้นจะมีเฉพาะไส้ถั่ว แต่หากใครมาทานที่ร้านจะมีไส้ให้เลือกหลากหลาย ดังนี้ ไส้ไข่เค็ม ไส้ทุเรียนกวน และไส้ทุเรียนไข่เค็ม และในทุกๆ ชิ้นจะได้กลิ่นหอมของมะลิตามแบบฉบับขนมไทยดั้งเดิมอีกด้วย 

 

 

บัวหิมะรูปกุหลาบ (35 บาท)

           เมนูนี้จะเป็นบัวหิมะไส้ถั่วบดละเอียดแบบออริจินอล เพิ่มเติมด้วยความสวยงาม เพราะทางร้านขึ้นรูปเป็นดอกกุหลาบ ปั้นกลีบต่อกลับ และเพิ่มกลิ่นหอมของกุหลาบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของขนมชิ้นนี้เลยค่ะ

 

 

สัมปันนี (3 ชิ้น/ 28 บาท, 8 ชิ้น/ 75 บาท) 

          ขนมไทยโบราณที่น่าจะถูกใจสายหวานเป็นพิเศษ สำหรับจุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่ขั้นตอนการขึ้นรูปใส่สีอย่างละเอียด โดยแบ่งแยกสีตามสัดส่วนอย่างชัดเจน นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามแล้ว ยังมาพร้อมรสชาติที่หวานกำลังดีและกลิ่นหอมควันเทียนอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยอีกด้วยค่ะ 

สัมปันนีช็อกโกแลต (3 ชิ้น/ 60 บาท, 8 ชิ้น/ 160 บาท)

          เมนูขนมไทยประยุกต์ที่ไม่สามารถหาทานที่ไหนนอกจาก Cafe At Ease ทางร้านนำขนมสัมปันนีแบบดั้งเดิมมาประยุกต์กับของหวานขึ้นชื่อจากตะวันตกอย่างช็อกโกแลต โดยเลือกใช้ช็อกโกแลตเบลเยียมที่มีระดับความเข้มข้นถึง 63% ทำให้ได้รสชาติของช็อกโกแลตที่เข้มข้นละลายในปาก และหอมควันเทียนควบคู่กันไปในคำเดียว 

 

 

ขนมเปียกปูน (35 บาท)

          ขนมไทยที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยทางร้านมีให้เลือกถึง 2 รสชาติคือ กลิ่นอัญชันและกลิ่นใบเตย นอกจากนี้ยังไม่มีการใส่สีใดๆ เพิ่มเติม จะใช้สีธรรมชาติจากใบเตยและอัญชันเพียงเท่านั้นค่ะ 

 

 

ทองเอก (4 ชิ้น/ 55 บาท, 8 ชิ้น/ 105 บาท)

          ขนมไทยมงคล ด้านบนแต้มด้วยทองคำเปลวบริสุทธิ์ มีส่วนผสมแป้ง ไข่แดง น้ำตาล และกะทิ ในหนึ่งชิ้นจึงจะได้ความหวานหอมมันของไข่แดงและกะทิควบคู่กันไป

ทองเอกช็อกโกแลต (4 ชิ้น/ 84 บาท)

          เมนูนี้จะเป็นเมนูขนมไทยประยุกต์อีกหนึ่งเมนู โดยนำขนมทองเอกมาสอดไส้ช็อกโกแลตเข้มข้น เมื่อทานเข้าไปแล้วจะได้ทั้งรสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลต ความหวานมันของไข่ และกลิ่นหอมของควันเทียนในคำเดียวกันเลยค่ะ 

 

 

ช็อกโกแลตยิ้มได้ ซิกเนเจอร์ Signature Smiley Iced Chocolate (138 บาท)

          สำหรับเมนูนี้จะเป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้าน ในส่วนของช็อกโกแลตนั้นมีความเข้มข้นและได้รสชาติช็อกโกแลตแบบเต็มคำ และพิเศษด้วยท็อปปิ้งน้ำแข็งที่กำลังส่งยิ้มให้ ซึ่งเมื่อทานเข้าไปแล้วจะได้รสชาติช็อกโกแลตเข้มข้น นอกจากจะรสชาติดีเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังช่วยเพิ่มความสดใสในแต่ละแก้วอีกด้วยค่ะ 

 

 

ชานมเย็นยิ้มได้ ซิกเนเจอร์ Signature Smiley Thai Milk Tea (138 บาท)

          อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องดื่มอย่างชานมเย็น ขอให้แนะนำให้ลองเมนูซิกเนเจอร์ของร้านแก้วนี้เลย ชานมของทางร้านจะออกรสชาติเข้มข้น ไม่หวานเกินไป ด้านบนของแก้วจะท็อปด้วยน้ำแข็งรูปหน้ายิ้มที่ทำจากนมเช่นเดียวกัน

ชานมเอิร์ลเกรย์กุหลาบ Earl Grey Rose Milk Tea (138 บาท)

          เมนูเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดของทางร้าน ในหนึ่งแก้วจะได้ทั้งรสชาติและความหอมของชาเอิร์ลเกรย์ ความหวานของนม และกลิ่นหอมของกุหลาบที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้รู้สึกสดชื่น

สตรอว์เบอร์รี โซดา Strawberry Soda (165 บาท)

          สาวๆ ที่ชื่นชอบความหวานอมเปรี้ยวของสตอรว์เบอร์รีต้องสั่งแก้วนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากเนื้อสตรอว์เบอร์รีที่อัดแน่นอยู่ด้านล่างของแก้วแล้ว ด้านบนยังท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีเชื่อมอีกหนึ่งลูกเต็มๆ และยังได้ความซ่าของโซดา ช่วยเพิ่มความสดชื่นในยามบ่ายได้ดีเลยค่ะ

 

(จากซ้าย) ช็อกโกแลตยิ้มได้ ซิกเนเจอร์, ชานมเอิร์ลเกรย์กุหลาบ,ชานมเย็นยิ้มได้ ซิกเนเจอร์ และสตรอว์เบอร์รี โซดา

 

ลาเต้ร้อนกลิ่นกุหลาบ Latte With Rose Aroma (90 บาท)

          สำหรับเมนูนี้คอกาแฟไม่ควรพลาด เพราะรสชาติลาเต้ร้อนของทางร้านนั้นเข้มข้น แต่หอมด้วยกลิ่นกุหลาบอย่างชัดเจนเลยค่ะ และสำหรับใครที่อยากจะได้กลิ่นหอมของกุหลาบในเครื่องดื่มอื่นๆ ก็สามารถเลือกเพิ่มได้ตามความต้องการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

 

 

ชารอยบอส์เป็ปเปอร์มิ้นต์ Rooibos & Peppermint Infusion Tea (200 บาท) 

          ชารอยบอส์เป็ปเปอร์มิ้นต์จะอยู่ในเซ็ตชาอังกฤษร้อน โดยในเซ็ตชาอังกฤษร้อน ทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมน้ำตาลและมะนาวหั่น เพื่อให้ลูกค้าปรับรสชาติได้ตามต้องการ แต่สำหรับชาเซ็ตรอยบอส์เป็ปเปอร์มิ้นจะมีนมสดเพิ่มเข้ามา

 

สรุปรสชาติอาหาร

ส้มปันนี (3 ชิ้น/ 28 บาท, 8 ชิ้น/ 75 บาท) : ขนาดชิ้นพอดีคำ มีความกรอบ ในส่วนของรสชาติมีความหวานกำลังดีและได้กลิ่นหอมของเทียนอย่างชัดเจน จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่รูปทรงและสีภายนอก ที่ทางร้านตั้งใจลงสีในแต่ละส่วนอย่างประณีตและพิถิพิถัน แต่ละชิ้นจึงออกมาสวยงามน่ารับประทาน

สัมปันนีช็อกโกแลต (3 ชิ้น/ 60 บาท, 8 ชิ้น/ 160 บาท) : รสชาติหวานกำลังดีและกลิ่นหอมของเทียนเช่นเดียวกับสัมปันนีเมนูแรก ในส่วนของไส้ช็อกโกแลตนั้นเข้มข้นและออกขม หวานกำลังดี ใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลตแบบเข้มข้นน่าจะประทับใจ เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมไทยประยุกต์ที่แนะนำให้ลองค่ะ 

ชุดอาลัวดอกไม้ 8 ชิ้น (1 ชิ้น/ 18 บาท, 8 ชิ้น/130 บาท) : เมื่อทานเข้าไปแล้วจะได้สัมผัสที่กรอบนอกนุ่มในแบ่งชั้นอย่างชัดเจน มีกลิ่นหอมเทียนเช่นเดียวกับขนมตัวอื่นๆ สำหรับรสชาติอาจจะติดหวานไปนิดนึง แนะนำให้ทานคู่กับชาร้อนจะช่วยปรับรสชาติให้พอดี แต่เมนูนี้จะโดดเด่นที่การตกแต่งและขึ้นรูปหน้าขนมดอกไม้อย่างพิถีพิถัน ทำให้ออกมาสวยและมีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน

บัวหิมะสอดไส้ถั่ว (72 บาท) : ไส้ถั่วของทางร้านบดละเอียดและมีปริมาณเยอะ แป้งด้านนอกมีความนุ่ม แต่อาจจะบางไปนิดนึงสำหรับคนชอบทานแป้ง และมีกลิ่นหอมของมะลิในแต่ละคำอย่างชัดเจนค่ะ 

บัวหิมะสอดไส้ไข่เค็ม (72 บาท) : ไส้มีปริมาณเยอะ นิ่ม โดดเด่นที่รสชาติของไข่เค็ม เข้ากันได้ดีกับแป้งด้านนอก ในส่วนของแป้งมีความนุ่มหนึบคล้ายกับแป้งโมจิ หากใครที่มองหาขนมไทยที่รสชาติหวานไม่มาก แนะนำให้ลองทานเมนูนี้เลยค่ะ

บัวหิมะรูปกุหลาบ (35 บาท) : ไส้ถั่วละเอียดเช่นเดียวกับบัวหิมะตัวอื่นๆ แต่พิเศษตรงที่มีกลิ่นหอมของกุหลาบชัดเจน 

อาลัวดอกไม้ขนมชั้น (59 บาท) : ตัวอาลัวสดมีสัมผัสนิ่มคล้ายกับครีม ในส่วนของขนมชั้นรสชาติไม่หวานมากเกินไป รวมไปถึงมีกลิ่นหอมชัดเจนทั้งใบเตยและอัญชัน แต่ขนมชั้นใบเตยจะออกหอมมากกว่า เมื่อทานขนมชั้นและอาลัวคู่กันแล้วถือว่ารสชาติเข้ากันได้ดี ไม่ออกหวานมากเกินไป

ทองเอก (4 ชิ้น/ 55 บาท, 8 ชิ้น/ 105 บาท) : เนื้อขนมมีความหนึบและนิ่ม มีความหวานมันของไข่และมีกลิ่นหอมของควันเทียน

ทองเอกช็อกโกแลต (4 ชิ้น/ 84 บาท) : ไส้ช็อกโกแลตเข้มข้น คนที่ชอบทานช็อกโกแลตน่าจะถูกใจ อีกทั้งเมื่อทานคู่กันกับตัวแป้งด้านนอกยังคงหวานกำลังดีเลยค่ะ

ขนมเปียกปูน (35 บาท) : เนื้อสัมผัสของตัวเปียกปูนจะมีความนุ่มและนิ่ม ในส่วนของกลิ่นใบเตยมีความหอมชัดเจน แต่ในส่วนของอัญชันกลิ่นอาจจะอ่อนไปนิดนึงค่ะ แต่ยังคงความหวานกำลังดีทั้งคู่ 

ชานมเย็นยิ้มได้ ซิกเนเจอร์ Signature Smiley Thai Milk Tea (138 บาท) : ชานมรสชาติเข้มข้น ไม่หวานเกินไป ในส่วนของน้ำแข็งรูปยิ้มด้านบน รสชาตินมหวานมันชัดเจน คนชอบนมน่าจะชื่นชอบ แต่ถ้าตั้งไว้นานตัวน้ำแข็งด้านบนจะละลาย อาจจะต้องรีบทานก่อน 
 
ช็อกโกแลตยิ้มได้ ซิกเนเจอร์ Signature Smiley Iced Chocolate (138 บาท) : ทั้งช็อกโกแลตและน้ำแข็งช็อกโกแลตต่างก็มีรสชาติเข้มข้น ไม่ออกหวานมากเกินไป หากใครที่ชอบช็อกโกแลตแบบเข้มข้นขอแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ

ชานมเอิร์ลเกรย์กุหลาบ Earl Grey Rose Milk Tea (138 บาท) : ตัวชานมรสชาติหวานกำลังดี ถึงแม้กลิ่นกุหลาบอาจจะยังไม่หอมชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่ในส่วนของปริมาณถือว่าเหมาะสมกับราคา เพราะทางร้านเสิร์ฟมาในแก้วใหญ่เลยทีเดียว

สตรอว์เบอร์รี โซดา Strawberry Soda (165 บาท) : เนื้อสตรอว์เบอร์รีมีปริมาณเยอะ รสชาติออกเปรี้ยวหวานกำลังดี และยังมีสตรอว์เบอร์รีท็อปมาเป็นชิ้นแบบเต็มคำอีกด้วย สตรอว์เบอร์รีเข้ากันได้ดีกับโซดา ไม่มีส่วนไหนรสชาติอ่อนเกินไป เป็นอีกหนึ่งเมนูที่รสชาติดีเลยค่ะ

ลาเต้ร้อนกลิ่นกุหลาบ Latte With Rose Aroma (112 บาท) : รสชาติกาแฟเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟแบบไม่หวานมากเกินไป รวมไปถึงกลิ่นกุหลาบนั้นหอมชัดเจน

ชารอยบอส์เป็ปเปอร์มิ้นต์ Rooibos & Peppermint Infusion Tea (200 บาท) : ทางร้านจะเสิร์ฟมาเป็นเซ็ต พร้อมน้ำตาล มะนาว และนมสด ลูกค้าสามารถเลือกปรับรสชาติได้ตามชอบ แต่ในส่วนของชารอยบอส์นั้นมีกลิ่นมิ้นต์ที่ชัดเจน เมื่อใส่มะนาวลงไปแล้ว จะมีความเปรี้ยวช่วยตัดเลี่ยนได้ สำหรับเมนูนี้เมื่อทานคู่กับขนมชนิดอื่นๆ จะช่วยลดความหวาน เข้ากันได้ดีเลยค่ะ 

 

การประเมิน และให้คะแนน 

 

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.1
บรรยากาศ	4.0
การบริการ	4.0
ความคุ้มค่า	4.1
คะแนนเฉลี่ย	4.05

 

จุดเด่นของร้าน Cafe At Ease 

1. ขนมไทยโฮมเมดของทางร้านผ่านการออกแบบและทำออกมาอย่างพิถีพิถัน โดยทางร้านนำขนมไทยประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงรสชาติและเอกลักษณ์ของขนมไทยไว้เป็นอย่างดี เช่น กลิ่นหอมมะลิ กลิ่นหอมควันเทียน ทำให้ขนมไทยแต่ละชิ้นของทางร้านมีรสชาติดีและสวยงามมีเอกลักษณ์ของทางร้านโดยเฉพาะค่ะ

2. เมนูของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายทั้งของหวานและเครื่องดื่ม รวมไปถึงราคาในแต่ละเมนูไม่สูงมากเกินไป เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพ 

3. พิกัดร้านสะดวกต่อลูกค้าที่เดินทางโดยรถสาธารณะ เพราะร้านอยู่ใกล้ BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติและเข้าซอยเพียง 150 เมตรเท่านั้น

4. ร้านเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ เพราะในแต่ละส่วนของทางร้านมีการออกแบบและตกแต่งเป็นอย่างดี โดยตกแต่งออกมาในสไตล์หวานๆ และมีความเป็นธรรมชาติ ในแต่ละมุมของร้านจึงน่าจะถูกใจคนที่รักการถ่ายภาพค่ะ

5. ร้านเหมาะสำหรับนั่งพูดคุยกับเพื่อนๆ และนั่งพักผ่อน เพราะทางร้านมีบริการ WIFI และมีที่นั่งให้เลือกนั่งได้หลากหลายโซนทั้งด้านนอกและด้านในที่มีเครื่องปรับอากาศ 

 

ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ

1. ทางร้านมีบริการรับออกแบบสั่งจองเค้กและขนมไทยแบบ Custom Made ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสีและแบบได้ตามที่ต้องการ โดยสามารถติดต่อได้ทาง IG: @cafeateasebkk และ Line: cafeateasebkk

2. โปรโมชั่นร่วมกับ Ryoii สำหรับลูกค้าที่เลือกสั่งชาในเซ็ตชาอังกฤษร้อน (200 บาท) หรือชาร้อนตะวันออกคลาสสิค (165 บาท) คู่กับขนมเมนูใดก็ได้ภายในร้าน จะได้ลดราคา 15% จากราคารวมขนมและเครื่องดื่มทั้งหมดในรายการ

3. ทางร้านไม่มีบริการที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา ลูกค้าอาจจะต้องจอดฝั่งตรงข้ามร้านค่ะ

4. ราคาในเมนูทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (VAT) และค่าบริการ 10% (Service Charge)

 

          ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เปรียบขนมไทยนั้นเป็นสมบัติอันแสนหอมหวาน ขนมแต่ละชิ้นจึงได้รับความใส่ใจและทำออกมาสวยงามมีเอกลักษณ์ก่อนถึงมือลูกค้า ดังนั้นหากใครอยากจะลิ้มลองชิมรสชาติความหวานกะทิ ความหอมกลิ่นเทียนกลิ่นมะลิแบบไทยๆ และช็อกโกแลตเข้มข้นละลายในปาก พร้อมจิบชาร้อนๆ คลอด้วยเพลงสากลในยามบ่าย ไม่ควรพลาดที่จะไปนั่งพักผ่อนที่ Cafe At Ease โอเอซิสใจกลางเมืองแห่งนี้เลยค่ะ