[รีวิว] ร้าน The Coffee Bean & Tea Leaf (เดอะ คอฟฟี่ บีน แอนด์ ทีลีฟ) กาแฟทุกแก้วจากสายพันธุ์อาราบิก้า 100% เพลิดเพลินควบคู่กับกาแฟกับอีกหลายเมนูที่ไม่อ้วนอย่าง สลัดแซลมอนซันไรซ์ ทูน่าต้มยำแซนด์วิช @เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

          สายกาแฟ สายเฮลท์ตี้ จะต้องรู้สึกดีกับมื้อวันใหม่จากร้าน The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand นอกจากมีกาแฟที่คัดสรรคุณภาพ ยังมีเมนูดีต่อสุขภาพอีกหลายรายการ แถมมีเบเกอรีอย่างเค้กรสชาติน่าลองเพียบ

 

          สำหรับ The Coffee Bean & Tea Leaf  ถือกำเนิดขึ้นในปี คศ. 1963 ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเป็นความตั้งใจจากทางร้านที่ต้องการสรรหากาแฟและใบชาที่ดีที่สุดในโลกเพื่อลูกค้าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จนปัจจุบันเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ The Coffee Bean & Tea Leaf  ได้พัฒนาและเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจกาแฟและชากับปณิธานที่ยึดมั่นมาโดยตลอด Simply the Best™ เพื่อสรรหากาแฟและชาที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ

          จนถึงตอนนี้ The Coffee Bean & Tea Leaf  มีทั้งหมด 8 สาขา ครั้งนี้ทีมงานได้มารีวิวที่สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 3 เมนูอาหารที่ได้ลองบอกเลยคนรักเทรนด์สุขภาพไม่ควรพลาด แถมมีเมนูเหมาะกับการทานอาหารมื้อเช้าพร้อมกับดื่มกาแฟแก้วโปรดในแบบคุณ และกาแฟของที่นี่จะเป็นสายพันธุ์อาราบิก้า 100% ค่ะ

การเดินทาง

          สำหรับใครที่มาด้วยรถส่วนตัวถ้าวิ่งจากเส้นสุขุมวิทให้ขับตรงยาวมาเรื่อยๆ ค่ะ ถ้ามาจากฝั่งอโศกและนานา จะเห็นห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จะอยู่ทางฝั่งขวามือ แต่ถ้ามาจากทางราชดำริ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ส่วนใครมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีเพลินจิต ทางออกที่ 5 และใช้ทางเชื่อมโดยตรงจากสถานีเพลินจิตเข้าสู่เซ็นทรัล เอ็มบาสซีค่ะ

 

 

 

 

เมนูและราคา

          มาแล้วจะได้พบกับหลากหลายรายการทั้งเครื่องดื่มและกาแฟสูตรพิเศษจากต้นตำรับอเมริกา พร้อมทั้งเมนูเหมาะกับฝากท้องช่วงสายๆ หรือจะทานเบาๆ แต่ได้คุณค่าจากสลัด แถมมีเบเกอรีและเค้กต่างๆ เพียบ ท้องว่างเมื่อไรมาที่ The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand อิ่มอร่อยหายหิวได้ดีเลยค่ะ

เครื่องดื่มกาแฟร้อนของทางร้านราคาอยู่ที่ (105-155 บาท)

 

เครื่องดื่ม Ice Blended หรือเมนูปั่นราคาอยู่ที่ (140-205 บาท)

 

หมวดสลัดกับแซนด์วิชราคาอยู่ที่ (149-165 บาท) ส่วนเมนูซุปจะมีราคา (105 บาท)

 

ส่วนใครที่เป็นสมาชิกบีนการ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น การสะสม Points รับส่วนลดในวันเกิด รับของรางวัลพิเศษในช่วงเทศกาลพิเศษ เป็นต้น

          และที่ทีมงานได้ลองก็มีหลายรายการด้วยกันคือ ทูน่าต้มยำแซนด์วิช (Tuna Tomyum Sandwich) (155 บาท) สลัดแซลมอนซันไรซ์ (Salmon Sunrise Salad) (149 บาท) สปาเกตตีพริกกระเทียมผัดน้ำมันมะกอก ไก่และเห็ด (Spaghetti Aglio Olio Peperoncino with Chicken and Mushroom) (165 บาท) ซุปครีมไก่ (Chicken Cream Soup) (105 บาท) Chicken Pie (85 บาท) ส่วนสายของหวานต้องลอง Apple Crumble (110 บาท) Chicago Cheesecake (125 บาท) สำหรับคอกาแฟต้องลอง วานิลลาลาเต้ (Vanilla Latte) ขนาด REG = 12 ออนซ์ (130 บาท) มอคค่าปั่น ออรจินัล (The Original Mocha) ขนาด LRG = 16 ออนซ์ (155 บาท)

บรรยากาศภายในร้าน

          ก้าวแรกที่เข้ามาภายในร้านจะพบกับบรรยากาศการตกแต่งภายในที่ดูสวยงาม มาแล้วรู้สึกโปร่งโล่งสบาย อบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือถ้าใครชอบมองวิวด้านนอกแนะนำให้นั่งมุมริมกระจกค่ะ ส่วนพื้นที่ด้านนอกร้านจะมีที่นั่งอีกประมาณ 3 โต๊ะ ทั้งหมดสามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 50-70 ท่านค่ะ

The Coffee Bean & Tea Leaf สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งอยู่ชั้น 3 อยู่ติดกับ Zara ค่ะ

 

ที่นั่งทางด้านนอกก็มีค่ะ

 

 

กล่องกาแฟ แคปซูลกาแฟ ทางร้านบอกว่าได้ขายเครื่องชงกาแฟแคปซูล กาแฟแคปซูล และกล่องชาด้วยนะคะ

 

 

เข้ามาจากหน้าร้านจะเจอที่นั่งโซนใกล้เคาน์เตอร์ก่อนเป็นอันดับแรก

 

ใครที่ชอบมุมส่วนตัวมากขึ้นเข้ามาทางด้านนึงนะคะ ด้านนี้คนจะเดินพลุกพล่านน้อยลง เหมาะกับคนชอบความสงบ

 

ผ่านเคาน์เตอร์ก็ขอแวะชมตู้เค้กซะเลย

 

 

ทูน่าต้มยำแซนด์วิช (Tuna Tomyum Sandwich)

          เป็นเมนูที่เห็นแล้วดูอิ่มทั้งได้คุณค่าโปรตีนจากไข่มากค่ะ มีไข่ต้มหั่นเรียงๆ กันตั้งหลายชิ้น แถมใครเป็นคอต้มยำก็ยังได้มาลองอะไรแปลกใหม่อย่างทูน่าที่คลุกเคล้าเป็นต้มยำมาแล้ว วางบนผักสลัดที่อยู่บนขนมปัง ดูเป็นการผสมผสานระหว่างความอร่อยแบบไทยและตะวันตกอย่างลงตัวค่ะ

ทูน่าต้มยำแซนด์วิช (Tuna Tomyum Sandwich) (155 บาท)

 

ไข่ต้มและทูน่ารสชาติลงตัวกับเครื่องต้มยำ

 

ทานขนมปังไปพร้อมทูน่าต้มยำก็ยังสัมผัสความเข้มข้นของเครื่องต้มยำได้ลงตัวค่ะ

 

 

สลัดแซลมอนซันไรซ์ (Salmon Sunrise Salad)

          เมนูนี้บอกเลยยิ่งทานยิ่งหุ่นสวยผิวใส เพราะมีทั้งผักสลัด มะเขือเทศ เนื้อส้ม แซลมอนรมควัน ส่วนน้ำสลัดทำจากน้ำส้มสูตรพิเศษของทางร้าน เมนูนี้กินได้กินดีไม่มีคำว่าอ้วนแน่นอนค่ะ

สลัดแซลมอนซันไรซ์ (Salmon Sunrise Salad) (149 บาท)

 

สปาเกตตีพริกกระเทียมผัดน้ำมันมะกอก ไก่และเห็ด

(Spaghetti Aglio Olio Peperoncino with Chicken and Mushroom)

          สปาเกตตีพริกกระเทียมผัดน้ำมันมะกอก ไก่และเห็ดที่หั่นชิ้นเล็กๆ พอทานแบบน่ารักๆ ใครที่ทานสปาเกตตีคาโบนาร่ากันบ่อยแล้ว ลองเปลี่ยนมาทานสปาเกตตีแบบผัดกับพริกกระเทียมดูบ้าง ดูเป็นรสชาติไทยอย่างสร้างสรรค์มากขึ้นค่ะ

 

สปาเกตตีพริกกระเทียมผัดน้ำมันมะกอก ไก่และเห็ด (Spaghetti Aglio Olio Peperoncino with Chicken and Mushroom) (165 บาท)

 

 

 

ซุปครีมไก่ (Chicken Cream Soup)

          ใครที่อยากทานซุปแบบรสชาติกลางๆ ไม่เน้นความจัดจ้าน ทานแล้วลื่นคอก็ต้องมาลองค่ะ แถมมีขนมปังชิ้นใหญ่ให้ทานคู่กัน ไม่รู้ว่าขนมปังหรือซุปอย่างไหนจะหมดก่อนกันนะ

ซุปครีมไก่ (Chicken Cream Soup) (105 บาท)

 

 

Chicken Pie

          ใครชอบพายไก่เนื้อแน่น แป้งพายกรอบๆ ไม่หนาเกิน ไม่บางไป น่าจะติดใจเลย จะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องทานกับซอสมะเขือเทศถึงจะเข้ากันค่ะ

Chicken Pie (85 บาท)

 

ไก่เนื้อแน่นตู้มซุกซ่อนในแป้งพาย​

 

Chicago Cheesecake และ Apple Crumble 

          "Chicago Cheese Cake" นับเป็นหนึ่งใน Signature ของ The Coffee Bean & Tea Leaf ด้วยเนื้อสัมผัสของเค้กที่แน่น เนียนละเอียด และรสชาติที่เข้มข้น ถือว่าเป็นเมนูขายดีของทางร้านค่ะ ขายดีแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร ส่วน "Apple Crumble" เป็นเค้กที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบจากครัมเบิ้ล มีรสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อเค้กแต่ละคำที่ทานแทบละลายในปากค่ะ

 

Chicago Cheesecake  ซ้าย (125 บาท) และ Apple Crumble ขวา (110 บาท) 

 

Chicago Cheesecake เมนูขายดีของทางร้านแล้วจะพลาดได้ยังไง

 

 

ครีมซอสที่ราดบน Apple Crumble  เพิ่มความหวานหอมยั่วใจให้เค้กและครัมเบิ้ลด้านบน

 

Apple Chai Tea ขนาด 16 ออนซ์     

          เมนูพิเศษ Apple Chai Tea เป็นการผสมไซรัปกลิ่นแอปเปิ้ลเข้าไป มีทั้งแบบร้อน เย็น และปั่น เป็นเครื่องดื่มที่จำหน่ายเฉพาะช่วงกลางเดือนสิงหาคม-กลางเดือนตุลาคม 2561 เท่านั้นค่ะ

 

Apple Chai Tea (ซ้าย) แบบปั่น (165 บาท) และ (ขวา) แบบเย็น (155 บาท)

 

วานิลลาลาเต้ (Vanilla Latte) ขนาด REG = 12 ออนซ์

          กาแฟร้อนเสิร์ฟลงในแก้วกาแฟทรงสูงถูกใจคอกาแฟจริงๆ ค่ะ ซึ่งกาแฟทุกอย่างทางร้านบอกว่าใช้อาราบิก้า 100% ค่ะ กาแฟมีความหอมนุ่ม แต่กลิ่นวานิลลามีความบางเบาไปนิดนึงนะคะแต่ก็ยังสัมผัสถึงรสวานิลลาอยู่ค่ะ

วานิลลาลาเต้ (Vanilla Latte) ขนาด REG = 12 ออนซ์ (130 บาท)

 

มอคค่าปั่น ออริจินัล (The Original Mocha) ขนาด LRG = 16 ออนซ์

          มอคค่าปั่น ออริจินัล ของทางร้าน  The Coffee Bean & Tea Leaf จะใส่ Double Chocolate ค่ะ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กาแฟมีสีสันมากยิ่งขึ้น

มอคค่าปั่น ออรจินัล (The Original Mocha) ขนาด LRG = 16 ออนซ์ (155 บาท)

สรุปเมนูรสชาติอาหาร

ทูน่าต้มยำแซนด์วิช (Tuna Tomyum Sandwich) (155 บาท) : ส่วนตัวเป็นคนทานแป้งขนมปังได้ไม่มากก็อิ่ม แต่ถ้าใครทานแป้งเก่งๆ จะถูกอกถูกใจกับทูน่าต้มยำแซนด์วิชชุดนี้ ที่แป้งชิ้นใหญ่กรอบนอกนุ่มใน มีไข่ต้มเรียงแถวจัดเต็ม แถมเป็นทูน่าที่พกพารสชาติแซ่บๆ เข้าถึงรสต้มยำ เมื่อทานทูน่าที่คลุกเคล้าสไตล์ต้มยำมาแล้วจะได้ความอร่อยแบบไทยและตะวันตกอย่างลงตัว ถ้าคนชอบรสชาติจัดจ้านกว่านี้จะรู้สึกรสชาติของต้มยำเผ็ดน้อยไปนิดนึงแต่มีความเปรี้ยวจี๊ดแบบต้มยำชัดดีค่ะ เนื้อทูน่าละเอียดทานง่ายเข้ากับเครื่องต้มยำ

สลัดแซลมอนซันไรซ์ (Salmon Sunrise Salad) (149 บาท) : เมนูนี้นอกจากไม่อ้วนยังดูรักสุขภาพมากๆ ค่ะ จานนี้เต็มไปด้วยผักสลัด มะเขือเทศ น้ำสลัดเป็นน้ำส้มสูตรพิเศษรสชาติเปรี้ยวนำชัดเจน รวมทั้งเนื้อส้มที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน มีขนาดชิ้นเล็กๆ กำลังน่าทาน เห็นเนื้อส้มเล็กๆแต่ความเปรี้ยวจี๊ดไม่เบานะคะ เหมาะกับคนทานรสเปรี้ยวตัวจริงแบบนี้วิตามินซีสูงแน่ๆ เลยค่ะ ส่วนตัวอยากให้เพิ่มปริมาณแซลมอนรมควันอีกหน่อยค่ะ แต่เรื่องรสชาติของแซลมอนรมควันที่ปรุงรสอย่างกลมกล่อมเข้ากันกับสลัดจานนี้มากค่ะ

ซุปครีมไก่ (Chicken Cream Soup) (105 บาท) : เนื้อซุปอิ่มนุ่มละมุนลิ้น เนื้อซุปข้นๆ มีความหอมเบาๆ ตัวซุปรสชาติออกจะกลางๆ กลมกล่อมติดลิ้น รสชาติโดยรวมไม่ใช่สายของคนชอบทานแบบปรุงรสมากนัก ใครท้องว่างๆ ลองสั่งมาทานนะคะ บางทีลองหันมาทานเมนูที่รสไม่จัดบ้างก็จะดีต่อกระเพาะเรานะคะ ยิ่งลูกค้าชาวต่างชาติและคนไทยที่ไม่ชอบทานรสจัดมากน่าจะชื่นชอบรสชาติแนวนี้ค่ะ

สปาเกตตีพริกกระเทียมผัดน้ำมันมะกอก ไก่และเห็ด (Spaghetti Aglio Olio Peperoncino with Chicken and Mushroom) (165 บาท) : รสชาติผัดพริกกระเทียมมีรสชาติสไตล์ไทยๆ ดีค่ะ ไก่และเห็ดขนาดเล็กพอดีคำ แต่สปาเกตตีน้ำมันเยอะไปหน่อยนะคะ

Chicken Pie (85 บาท) : กัดกี่คำก็เจอความเนื้อแน่นของไก่ด้านใน พายไก่เนื้อแน่น แป้งพายกรอบๆ ไม่หนาเกิน ไม่บางไป ต้องลองนะคะ ทานตอนอุ่นๆ ยิ่งฟิน ได้ทานสักชิ้นจะติดใจ ทาน 2 คนคิดว่าปริมาณไม่มากไม่น้อยเกินไปนะคะ ผ่าครึ่งแบ่งกันทานก็อิ่มอร่อยกำลังดี จะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องทานกับซอสมะเขือเทศถึงจะเข้ากันค่ะ 

Apple Crumble (110 บาท) : ครัมเบิ้ลด้านบนหอมหวานกรอบดีค่ะ และได้ปริมาณเยอะใช้ได้เลย ช่วยเพิ่มรสชาติให้ด้านบนน่าทานยิ่งขึ้น ช่วงกลางของเนื้อเค้กคือแอปเปิ้ลครีมมีรสเปรี้ยวเด่นชัด ถ้าใครลองตักแต่ส่วนแอปเปิ้ลครีมอาจรู้สึกเปรี้ยวไปบ้าง ต้องลองทานพร้อมๆ กับเนื้อเค้กตั้งแต่ด้านบนลงล่างพร้อมๆ กันจึงจะรู้สึกเปรี้ยวปนหวานกลมกล่อมพอดีค่ะ

Chicago Cheesecake (125 บาท) : ถือว่าเป็นเมนูขายดีของทางร้านด้วยค่ะ เนื้อเค้กหนานุ่มแป้งหอม ที่เข้มข้นเต็มรสชีสทุกคำ ทานคู่กับเมนูพิเศษ Apple Chai Tea หอมทั้งเค้กและเครื่องดื่มไปพร้อมๆ กัน ฟินสุดๆ เลยค่ะ

Apple Chai Tea แบบปั่น (165 บาท) : Apple Chai Tea จะผสมด้วยไซรัปกลิ่นแอปเปิ้ล ส่วนตัวชอบทานแบบปั่นมากกว่าค่ะ เพราะได้ความหอมมากกว่าแบบเย็น รสชาติเครื่องดื่มหอมละมุนแบบสดชื่นจากไซรัปกลิ่นแอปเปิ้ลจริงๆ ค่ะ

Apple Chai Tea แบบเย็น (155 บาท) : Apple Chai Tea แบบเย็นยังคงความหอมละมุนอยู่ แต่อย่าปล่อยจนน้ำแข็งละลายนะคะ เดี๋ยวจะได้เจอความหอมเจือจางลงแล้วจะพลาดของดี สำหรับ Apple Chai Tea เครื่องดื่มเมนูพิเศษก็อยากให้รีบมาลองกันนะคะ เพราะมีถึงแค่ช่วงกลางเดือนตุลาคมเท่านั้นค่ะ

วานิลลาลาเต้ (Vanilla Latte) ขนาด REG = 12 ออนซ์ (130 บาท) : วานิลลาลาเต้จะได้กลิ่นวานิลลาอ่อนๆ แอบเบาบางไปนิดนึงนะคะ อยากให้เพิ่มความเข้มข้นของรสวานิลลามากกว่านี้ค่ะ สรุปแล้วเมนูนี้ถือว่าเป็นกาแฟที่ไม่เข้มมาก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟเข้มจนเกินไป ฟองด้านบนนุ่มๆ ฟองเยอะรู้สึกละมุนลิ้นมากค่ะ เสิร์ฟมาตอนอุ่นๆ ยิ่งฟินกับฟอง ต้องลองสักแก้วนะคะกับกาแฟสูตรนี้

มอคค่าปั่น ออรจินัล (The Original Mocha) ขนาด LRG = 16 ออนซ์ (155 บาท) : แก้วนี้จะเข้มข้นมากกว่าวานิลลาลาเต้ สำหรับมอคค่าปั่น ออรจินัลได้ใส่ Double Chocolate คอช็อกโกแลตอาจต้องร้องว้าว เพราะรสชาติเข้ากับกาแฟมากค่ะ ส่วนวิปครีมได้เยอะและนุ่มมากค่ะ

 

 

การประเมิน และให้คะแนน

          รสชาติอาหารของทางร้านหลายเมนูเพื่อดึงดูดและเอาใจลูกค้าต่างชาติ แต่หลายเมนูก็ถูกปากคนไทยอย่าง “ทูน่าต้มยำแซนด์วิช” ที่ยังคงรสชาติความเป็นไทยแม้จะเป็นเมนูสไตล์ฝรั่งก็ตาม ส่วนตัวชอบเมนูนี้ค่ะเพราะไม่ค่อยได้เห็นเมนูทูน่านำมาทำสไตล์ต้มยำ และ “สลัดแซลมอนซันไรซ์” ทางร้านทำเพื่อคนรักสุขภาพจริงๆ น้ำสลัดก็ไม่มีไขมันเพราะทำจากน้ำส้ม ใครไดเอทคุมน้ำหนักจะพลาดจานนี้ไม่ได้นะคะ “Chicken Pie” พายไก่จานนี้อารมณ์เหมือนได้ทานของคาวผสมกับขนมเลยค่ะ ได้ลองผ่าครึ่งเห็นเนื้อไก่แล้วรู้สึกคุ้มค่ากับจานนี้จริงๆ

          ส่วนกาแฟที่ได้ลองทั้งคู่ “วานิลลาลาเต้” และ “มอคค่าปั่น ออรจินัล” รสชาติหอมกลมกล่อมเท่าเทียมกัน ต่างกันแค่รูปลักษณ์ เหมาะกับคนชอบดื่มกาแฟที่ไม่แรง ไม่ขม ซึ่งถ้าคนชอบดื่มกาแฟแรงๆ ประมาณว่าแก้วเดียวถึงกับทำให้หายง่วงได้ทันที อาจคิดว่ากาแฟที่นี่มีความแรงน้อยไปนิดนึงนะคะ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนค่ะ

          บรรยากาศร้านเป็นไปแบบนั่งชิลๆ มองดูวิวด้านนอกสบายๆ ที่นั่งถือว่าเยอะใช้ได้ค่ะ 50-70 ที่นั่ง ยิ่งมาช่วงบ่ายของสาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี รู้สึกสงบได้ความเป็นส่วนตัว ดื่มกาแฟทานอาหารอย่างสบายใจค่ะ และยังมีกล่องกาแฟ แคปซูลกาแฟและกล่องชาเผื่อว่าใครอยากอุดหนุนก่อนกลับด้วยค่ะ

          ราคากาแฟ เครื่องดื่ม อาหาร ถือว่าเป็นราคาทั่วไปของร้านในห้างสรรพสินค้า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานกับราคาที่ทางร้านตั้งไว้ถือว่าเป็นที่ยอมรับได้ของกลุ่มลูกค้าทางร้านค่ะ ทั้งเมนูกาแฟและอาหารถือว่ามีตัวเลือกเยอะใกล้เคียงกัน ทำให้คนทานมีโอกาสเลือกทานได้แบบไม่มีเบื่อค่ะ

          สำหรับวันที่ทีมงานไปเป็นช่วงสายๆ ของวันธรรมดา จึงได้รับการบริการที่รวดเร็วสามารถเลือกที่นั่งจนพอใจ ยิ่งพอได้นั่งชมวิวริมหน้าต่างพอดื่มกาแฟจะรู้สึกดีมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

 

จุดเด่นของร้าน The Coffee Bean & Tea Leaf  @เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

1. คอกาแฟมาแล้วจะสะดุดตากับเมนูกาแฟหลากหลายรูปแบบ ในส่วนของ Ice Blended หรือแบบปั่นถือว่าปริมาณคุ้มมีหลากหลายขนาดให้เลือกดื่มตามความต้องการ นอกจากกาแฟยังมีอีกสารพัดเมนูที่เหมาะทานเติมพลังเป็นมื้อแรกๆ ของวันค่ะ หลายเมนูทานแล้วแทบไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย เช่น สลัดแซลมอนซันไรซ์ เพราะมีทั้งผักสลัด มะเขือเทศ เนื้อส้ม แซลมอนรมควัน ส่วนน้ำสลัดทำจากน้ำส้มสูตรพิเศษของทางร้านค่ะ 

2. เมล็ดกาแฟที่ใช้ชงกาแฟทุกแก้วมาจากเมล็ดกาแฟสดสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% ทำให้ลูกค้าไม่พลาดความหอมละมุน กาแฟทุกแก้วมีรสชาติกลมกล่อมและไม่เข้มจนเกินไปค่ะ

3. ความอร่อยของเมนูเด็ดจากร้านนี้เริ่มที่ “ทูน่าต้มยำแซนด์วิช” ที่ยังคงรสชาติความเป็นไทยแม้จะเป็นเมนูสไตล์ฝรั่งก็ตาม ส่วนตัวชอบเมนูนี้ค่ะเพราะไม่ค่อยได้เห็นเมนูทูน่านำมาทำสไตล์ต้มยำ ทูน่าที่คลุกเคล้าเป็นต้มยำมาแล้วรสชาติจัดจ้านกำลังดี เมื่อทานพร้อมผักสลัดที่อยู่บนขนมปังยิ่งเข้ากัน ดูเป็นการผสมผสานระหว่างความอร่อยแบบไทยและตะวันตก “สลัดแซลมอนซันไรซ์” ทางร้านทำเพื่อคนรักสุขภาพจริงๆ น้ำสลัดก็ไม่มีไขมันเพราะทำจากน้ำส้มสูตรพิเศษของทางร้าน ใครไดเอทคุมน้ำหนักจะพลาดจานนี้ไม่ได้นะคะ และ “Chicken Pie” พายไก่จานนี้อารมณ์เหมือนได้ทานของคาวผสมกับขนมเลยค่ะ ได้ลองผ่าครึ่งเห็นเนื้อไก่แล้วรู้สึกคุ้มค่ากับจานนี้จริงๆ แป้งพายกรอบกำลังดีและไม่แข็งด้วยค่ะ

4. เมนูเค้กที่จัดว่าขายดีของทางร้าน ลองแล้วรสชาติเยี่ยมจริงๆ คือ Chicago Cheesecake เนื้อเค้กหนานุ่มแทบละลายในปากแป้งหอม เมื่อตักทานแล้วจะได้ความเข้มข้นเต็มรสชีสทุกคำค่ะ

5. บรรยากาศภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวางดูโปร่งโล่งสบาย เมื่อเข้ามาที่ร้านรู้สึกมองหาที่นั่งเลือกได้ตามใจชอบ มีที่นั่งรองรับลูกค้าได้เยอะมาก 50-70 ที่นั่ง และยังสามารถมองเห็นวิวภายนอกลงไปจากมุมสูงได้สบายตาเพราะติดรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต 

6. รูปจากเมนูของทางร้านในภาพจะเหมือนของจริงมากค่ะ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งอาหารในเมนูที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

7. เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS แค่ลงสถานีเพลินจิต ทางออกที่ 5 และใช้ทางเชื่อมโดยตรงจากสถานีเพลินจิตเข้าสู่เซ็นทรัล เอ็มบาสซีค่ะก็ถึงร้านแบบหมดปัญหารถติดแล้วค่ะ

 

ข้อเสนอแนะ

1. เส้นสปาเกตตีมีน้ำมันค่อนข้างเยอะไปนิดนึงอาจจะยังไม่ถูกใจกลุ่มคนรักสุขภาพมากนัก อยากให้ทางร้านลดความมันของน้ำมันอีกหน่อยเพื่อคนรักเทรนด์สุขภาพจะได้ทานเส้นสปาเกตตีรสชาติที่ถูกใจมากกว่านี้ค่ะ

2. อาหารส่วนใหญ่ของทางร้านจะถูกปากและถูกใจคนต่างชาติอยู่ไม่น้อย ซึ่งรสชาติอาหารของที่นี่ในบรรดาคาเฟ่สไตล์เดียวกันก็จะทำอาหารรสชาติแนวนี้กันอยู่แล้ว สำหรับคนที่ชอบทานอาหารรสจัดจ้านสไตล์ไทยๆ ถ้าได้ลองบางเมนูอาจจะยังรู้สึกไม่ถูกปากเท่าไรนักนะคะ

3. สำหรับรสชาติกาแฟของทางร้านจะมีรสชาติไม่ได้ออกไปทางแนวเข้มหรือขม อาจจะยังไม่ตรงกับความต้องการสำหรับคอกาแฟที่ต้องการความเข้มมากๆ ค่ะ
    

          เตรียมชาร์จแบตชีวิตให้เต็มแล้วกลับมาสู้ใหม่กับกาแฟและชาที่ดีที่ทางร้านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาเพื่อให้ลูกค้าได้รับแต่ของคุณภาพดี และมีอาหารหลากหลายให้ลองทาน หลายเมนูต้องบอกว่าสายคนรักสุขภาพด้วย ที่ร้าน The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่ต้องแวะมานั่งพักทานอาหารกันชิลๆ จะมานั่งทำงานหรือทานอย่างเดียวสบายๆ ถ้าลองมาสักครั้งจะประทับใจจนกลับมาอีกแน่นอนค่ะ