[รีวิว] ร้านสุภัทรา ริมทะเล (supatra by the sea) อร่อยท่ามกลางบรรยากาศล้านนาริมทะเล @ประจวบคีรีขันธ์

          สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน โดยเฉพาะคนที่รักการทานอาหารทะเลในร้านบรรยากาศดี ติดชายทะเลตามต่างจังหวัด ครั้งนี้ทีมงาน RyoiiReview ขออาสาพาไป ร้านอาหารสุภัทรา ริมทะเล ซึ่งตั้งอยู่ริมหาดหัวหิน เชิงเขาตะเกียบ @ประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่คู่กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นานนับสิบปี
          ร้านอาหารสุภัทรา ริมทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ แห่งนี้ มีอาหารหลายประเภท ทั้งต้มยำ, ยำ, พล่า, และอาหารทอด และในแต่ละประเภทยังมีรายการย่อยให้ได้เลือกอีกมาก โดยเน้นอาหารทะเลรสชาติแบบไทย เมนูต่างๆ ของร้านส่วนใหญ่ลูกค้าต่างชาติทั้งแถบยุโรป และเอเชียมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะที่นี่มีลูกค้าหลายสัญชาติแวะเวียนเข้ามาประจำครับ

เมนู และราคา
          เมนูของทางร้านมีหลากหลายประเภท ที่นี่คิดเมนูเตรียมรอลูกค้าอย่างครบเครื่อง เปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะไม่มีเมนูโปรดของลูกค้าที่หลงใหลอาหารทะเลรสชาติแบบไทย

 

          รายการอาหารมีให้เลือกหลากหลายครอบคลุมทุกประเภทอาหาร แต่ราคาก็สูงขึ้นมาพอสมควรครับ อาจเป็นเพราะร้านตั้งอยู่บริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นร้านขึ้นชื่อที่เปิดมานาน เป็นที่รู้จักกว้างขวางของคนหลายๆ พื้นที่ ราคาอาหารจึงพุ่งสูงอยู่หลายเมนู

 

บรรยากาศภายในร้าน
          นอกจากได้มาทานอาหารทะเลแบบใกล้ชิดชายหาด ชมทิวทัศน์ของชายทะเลเพลินๆ ภายในร้านยังออกแบบสไตล์ไทยล้านนา และบริเวณภายนอกร้านยังมีดอกไม้สีสันต่างๆ นานาชนิดให้ได้เดินชมตามรายทาง ทำให้ได้อารมณ์เหมือนขึ้นมาทางภาคเหนือ ส่วนสนามเด็กเล่นขนาดย่อมช่วยสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับทุกวัยที่มาเยือน

แค่ทางเข้าร้าน สุภัทรา ริมทะเล ก็มีดอกไม้สวยๆ รอต้อนรับทุกท่าน 

 

ใครอยากแวะหยิบโบชัวร์ หรือถ่ายรูปมุมเก๋ เชิญด้านนี้ได้ครับ

 

มุมนั่งทานข้าวโปร่งสบายตรงนี้เรียกว่า ศาลาใหญ่

 

ต่อให้มากันหลายท่าน ที่นั่งก็เพียงพอ มีบริเวณมากพอที่จะต่อโต๊ะเพิ่มได้สบาย

 

ไม่ใช้ห้อง VIP นะครับ แต่เป็นห้องแอร์ เผื่อว่าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวขึ้น

 

มุมเอาใจน้องๆ หนูๆ

นั่งรับลมทะเลริมหาดตอนกลางคืนน่าจะชิล และโรแมนติกไม่น้อย

 

มุมนี้เอาใจคนรักเสียงเพลงตอนกลางคืน 

 

ที่จอดรถดูกว้างกว่าร้านอื่นๆ

          มุมรับประทานอาหารทางร้านมีให้เลือกด้วยกันคือ โซนห้องแอร์แบบส่วนตัวจำนวน 3 หลัง และOpen Air ซึ่งที่นี่จะเรียกว่าศาลาใหญ่ อีกโซนที่น่าสนใจคือลานกว้างริมทะเล ซึ่งจะทำการเล่นดนตรีสดทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ และช่วงวันหยุดยาว ในช่วงเวลา 18.30-21.30 น. ขนาดมาที่ร้านตอนกลางวันก็ว่าสวยแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เห็นวิวที่ร้านยามค่ำคืน ถ้าได้มาเห็นวิวสวยน่านั่ง พร้อมสัมผัสอากาศเย็นๆ จากริมหาดช่วงเวลานั้น มีหวังได้ลืมอาหารร้านเด็ดของกรุงเทพฯ แน่เลยครับ

 

อาหาร
          ขึ้นชื่อว่ามาทะเล เราก็ต้องสั่งอาหารที่เกี่ยวข้องกับทะเลมาทานกันใช่ไหมครับ อาจจะสั่งได้ไม่มากตามที่หลายคนคิดไว้ อย่างนั้นขออนุญาตเลือกบางรายการที่ทางร้านแนะนำมาแล้วกันนะครับ

ข้าวผัดปู
          เริ่มกันที่เมนูหนักข้าวอย่างข้าวผัดปู ที่ปริมาณจานกับปริมาณข้าวใหญ่พูนจานอยู่ครับ เนื้อปูที่แทรกมาถือว่าสด แต่ปริมาณของเนื้อปูไม่ได้เยอะมากสักทีเดียว

ข้าวผัดปู (370 ฿)

ความรู้สึกต่อข้าวผัดปู :
          ข้าวผัดปูจานนี้สำหรับคนที่ทานรสจัดจะรู้สึกว่ารสชาตินี้อาจจะค่อนข้างจืดไปสักนิด ใครต้องการให้ข้าวผัดปูมีรสชาติขึ้น ต้องเพิ่มเครื่องปรุงตามความต้องการทีหลังหลังจากชิมรสแล้วล่ะครับ และเนื้อปูยังเบาบางเพราะมีจำนวนน้อยถ้าเทียบกับข้าวที่มีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด หากสั่งมาทานหลายคน เนื้อปูที่มีในจานอาจจะยังไม่พอทานกันก็ได้ครับ 

 

ปูนึ่ง
          ปูนึ่งที่ได้รูปร่างที่เห็นไม่ใหญ่ ไม่โต สักเท่าไรครับ แต่ละตัวในจานมีขนาดเท่ากัน แต่สำหรับเนื้อปูยังให้ความรู้สึกแน่นพอประมาณ

ปูนึ่ง (350 ฿)

 

กล้ามปูแน่นๆ จะมีรสชาติมากขึ้นต้องมีน้ำจิ้มซีฟู้ดคอยเติมเต็ม

ความรู้สึกต่อปูนึ่ง :
          รสชาติอร่อย แต่ขนาดปูน่าจะใหญ่กว่านี้หน่อย น้ำจิ้มออกไปทางเค็มอยู่บ้าง แต่น่าจะกำลังพอดีสำหรับคนทานเค็ม เรื่องเผ็ดหายห่วงได้เพราะไม่เผ็ดจนเกินไปครับ ทำให้ดูเข้ากับเนื้อปู ทานได้เพลินไม่แสบร้อน

                   

ปลากระพงทอดน้ำปลา
          ปลากระพงทอดน้ำปลามีขนาดตัวปานกลาง โดยทางร้านผ่าเป็นร่องบนตัวปลากระพงเพื่อให้ตักทานได้สะดวกขึ้นครับ

ปลากระพงทอดน้ำปลา (450 ฿) ​

 

ลำตัวปลาตักทานสะดวกดีครับ

ความรู้สึกต่อปลากระพงทอดน้ำปลา :
          การตักทานปลากระพงสะดวกง่าย ตักแล้วเนื้อปลาไม่เละ ยังดูเป็นรูปทรง เนื้อปลาข้างในสีขาวนุ่มแน่นน่าทาน แต่ว่าหนังปลายังดูแห้ง ผิวออกกร้านๆ แข็งๆ มากเกินไป คือยังไม่กรอบเท่าที่ควรครับ

 

กุ้งแช่บ๊วยมะขาม
          กุ้งมีหลายตัวประมาณ 7-8 ตัว แต่ละตัวล้วนมีขนาดจัมโบ้ ใส่กระเทียมเจียวพอให้กุ้งทั้งจานหอมกรุ่น

กุ้งแช่บ๊วยมะขาม (650 ฿)​

 

ใครชอบทานมันกุ้ง เมนูนี้ไม่มีมันไหลเยิ้มให้ลิ้มลองนะครับ เหลือไว้แต่ความเปรี้ยวหวานของเปลือกกุ้ง

ความรู้สึกต่อกุ้งแช่บ๊วยมะขาม :
          เริ่มจากลองใช้ช้อนกดลงที่ตัวกุ้งแช่บ๊วยมะขาม ได้พบว่ามีน้ำมันออกมาเยอะอยู่ทีเดียว แต่ว่าทานไปสัก 3-4 ตัว ก็ไม่ได้เลี่ยนอะไรมากครับ แต่ถ้าเลือกได้อยากให้น้ำมันไม่อมตัวกุ้งมากขนาดนี้ครับ แนะนำควรทานโดยกัดเปลือกกุ้งกับเนื้อกุ้งข้างในไปพร้อมกัน เพราะเนื้อกุ้งข้างในให้แต่ความจืด เพราะรสชาติความเปรี้ยวหวานรวมตัวอยู่แค่เปลือกกุ้งเท่านั้น คนสุขภาพฟันแข็งแรงอาจไม่มีปัญหาในการทานเปลือกกุ้ง แต่ใครฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควรอาจทานตรงเปลือกลำบาก เพราะกุ้งตัวโตได้น้ำหนักขนาดนี้เปลือกจึงค่อนข้างหนาครับ

 

พล่าปลาแซลมอน
          พล่าปลาแซลมอน เนื้อปลาแซลมอนจะมีสีส้มอ่อน ขนาดของปลาแซลมอนหั่นชิ้นกว้างดีครับ ไม่หนาไม่บางจนเกินไป เมื่อแซลมอนรวมตัวกับสมุนไพรเครื่องเทศของไทย จึงได้อารมณ์ทานอาหารญี่ปุ่นประยุกต์ความเป็นไทย

พล่าปลาแซลมอน (320 ฿) ​

 

ความรู้สึกต่อพล่าปลาแซลมอน :
           แม้พริกที่ราดตรงกลางดูพูนหนา แต่ส่วนพริกไม่ได้เผ็ดมาก ตัวเนื้อแซลมอนก็ไม่ได้เปรี้ยวมาก แต่ความเปรี้ยวจะอัดอยู่ข้างใต้ของผักมากกว่า ถ้าอยากทานแซลมอนจานนี้ให้เปรี้ยว ต้องตักผักจากใต้ล่างไปจนถึงปลาแซลมอนที่อยู่ด้านบนไปพร้อมกัน แต่ถ้าใครไม่อยากได้ความรู้สึกเปรี้ยว ทานแค่แซลมอนเพียวๆ ก็พอครับ ส่วนเนื้อปลาแซลมอนถือว่าใช้ได้ ไร้กลิ่นคาว แต่เนื้อไม่แน่นเท่าไหร่นัก แต่อยากให้ลองสั่งกันครับ

 

หอยเชลล์อบกระเทียม
          หอยเชลล์อบกระเทียม เนื้อกลมหนาแน่นพอดีคำ เปลือกแผ่นกว้างจับถือได้ง่าย สามารถดึงหอยเชลล์ออกจากเปลือกสะดวก

หอยเชลล์อบกระเทียม (290 ฿) 

 

เปลือกที่ติดกับหอยเชลล์ช่วยให้ง่ายต่อการตักน้ำจิ้ม หมดห่วงในเรื่องการทำหก

ความรู้สึกต่อหอยเชลล์อบกระเทียม :
          หอยเชลล์จานนี้หากมาทานมากกว่า 3 คน จะดูปริมาณน้อยลงทันตา เพราะในจานมีเพียง 8 ชิ้นเท่านั้นครับ แต่ความอร่อยจัดว่าอยู่เกณฑ์ดี ได้กลิ่นกระเทียมเข้ากันกับหอยเชลล์ มีน้ำจิ้มช่วยเพิ่มทั้งความเปรี้ยว ความเผ็ด บางทีน้ำจิ้มอาจจะเผ็ดมากไปสำหรับบางคนด้วยซ้ำ ขนาดผมทานเผ็ดอยู่แล้วยังรู้สึกว่าจานนี้มีความเผ็ดปานกลางถึงมาก แต่โดยรวมหอยเชลล์กับน้ำจิ้มถ้วยนี้รสชาติจัดจ้านเหมาะสมสำหรับคนทานเผ็ดครับ

 

ทอดมันกุ้ง
          ทอดมันกุ้งทอดออกมาสีเหลืองให้ความกรอบ เป็นเมนูของทานเล่นที่อิ่มท้องหยิบทานสะดวก แต่หากทานปริมาณมากไปมีสิทธิ์อิ่มตัดกำลัง ก่อนทานอย่างอื่นได้ครับ เพราะขนาดของทอดมันกุ้งชิ้นใหญ่หนาดูให้พลังงานสูง

ทอดมันกุ้ง (200 ฿)​

ความรู้สึกต่อทอดมันกุ้ง :
          ทอดมันกุ้งจานนี้นอกจากทอดได้อย่างเหลืองสวยงาม รสชาติยังคงความกลมกล่อม อร่อยถูกปากครับ

 

ต้มยำทะเลน้ำข้น
          ปิดท้ายกับต้มยำทะเลน้ำข้น หม้อใหญ่ แถมไฮไลท์เด็ดคือใส่ปูมาเต็มๆ ต้มยำหม้อนี้จึงเหมาะกับคนที่ตั้งใจมาทานอาหารซีฟู๊ด เพราะได้ทานทั้งกุ้ง ปลาหมึก และปู ครบถ้วนกันเลยครับ

ต้มยำทะเลน้ำข้น ( 250 ฿) ​

ความรู้สึกต่อต้มยำทะเลน้ำข้น :
          ทั้งกุ้ง ปลาหมึก และปู คุณภาพอาหารทะเลสมเป็นเจ้าถิ่นกับการเป็นร้านอาหารริมหาด เพราะสด สะอาด มีขนาดใหญ่ แต่น้ำต้มยำยังหวานเกินไป ขาดความเผ็ด หาความเปรี้ยวไม่มีเลยครับ

 

เครื่องดื่ม
          นอกจากเมนูอาหารมีประเภทรายการต่างๆ ให้เลือกคับคั่ง ยังมีเมนูเครื่องดื่มมากมาย เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยครับ ครั้งนี้สั่งไป 3 อย่างคือ มะพร้าวอ่อน, ชามะนาว และน้ำส้มปั่น

มะพร้าวอ่อน

มะพร้าวอ่อน (50 ฿) ​

ความรู้สึกต่อมะพร้าวอ่อน : 
          น้ำมะพร้าวไม่หวานมาก แต่เนื้อมะพร้าวแข็ง และหนา ไม่ได้อ่อนตามชื่อครับ แต่มีอุปกรณ์ดีอย่างช้อนด้ามยาวช่วยให้ตักเนื้อได้อย่างถนัด ถ้าใครที่ชอบทานเนื้อมะพร้าวหนาๆ กรอบๆ กันอยู่แล้วน่าจะถูกใจเครื่องดื่มมะพร้าวอ่อนของที่นี่กันครับ

 

ชามะนาว

ความรู้สึกต่อชามะนาว : 
          ค่อนข้างไปทางฝาด และออกจะจืดอยู่พอสมควร ควรเพิ่มความเข้มข้นให้ได้รสชาติของชามะนาวมากขึ้นครับ

 

น้ำส้มปั่น

ความรู้สึกต่อน้ำส้มปั่น : ขาดความหวาน และเปรี้ยวไปนะครับ ยังสามารถเติมรสชาติให้น้ำส้มแก้วนี้มีรสหวาน และเปรี้ยว เพื่อได้มาตรฐานดียิ่งขึ้นครับ

 

การเดินทาง

          ใครนะครับที่เดินทางมาจากหัวหิน และต้องการมาที่ร้านอาหารสุภัทรา ริมทะเล จ. ประจวบคีรีขันธ์ แห่งนี้ ให้ขับตรงเข้ามาสุดทางเขาตะกียบ จากนั้นจะเจอสามแยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาอีก 50 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือครับ และสามารถจอดรถในร้านได้เลยครับ โดยมีที่จอดรถรองรับได้ถึง 30 คัน

 

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	3.6
บรรยากาศ	4.4
การบริการ	4.1
ความคุ้มค่า	3.6
คะแนนเฉลี่ย	3.9

 

          แม้ว่าทางร้านจะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย แต่รสชาติอาหารบางอย่างก็ยังติดหวานไปอย่างต้มยำทะเลน้ำข้น ควรเพิ่มระดับความเผ็ดเปรี้ยวกว่านี้ และข้าวผัดปูที่ยังดูจืดอยู่ควรมีรสชาติเข้มข้นได้มากกว่านี้ ทำให้บางคนที่เคยทานที่อื่นแบบได้ความเข้มข้นกว่า อาจต้องแปลกใจกับรสชาติบางเมนูที่นี่  
          แต่สาเหตุที่รสชาติอาหารจะไม่เน้นรสจัดมากนักอาจจะเป็นเพราะลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ ทางร้านอาจต้องการนำเสนอรสชาติที่ทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเข้าถึงได้ง่ายก็เป็นไปได้ 
          ในการบริการที่นี่ส่งอาหารได้ค่อนข้างรวดเร็ว และยังไม่ค่อยมีอะไรผิดพลาด เรื่องความสะอาดภายในบริเวณร้านยังไม่มีปัญหาอะไร ดูสะอาดสบายตา แต่เรื่องภาชนะอย่างจาน ช้อน-ส้อม แม้กระทั่งโต๊ะ ดูจะยังมีฝุ่น หรือเม็ดทรายริมหาดลอยปลิวเข้ามา จึงสัมผัสได้ว่าภาชนะต่างๆ ไม่ได้เรียบเนียนเกลี้ยงหมดจด จึงอยากรบกวนให้ทางร้านช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดเรื่องโต๊ะ และภาชนะมากขึ้นครับ
          เรื่องสถานที่ของที่นี่ผมประทับใจมาก มีหลายมุมให้เห็นแล้วรู้สึกชิลสบายใจ ด้านกิจกรรมดนตรีสดเชื่อว่าคนมาตอนกลางคืนคงชอบ ด้วยบรรยากาศภายในร้านแสนโรแมนติกแบบไทยล้านนา เมื่อมีดนตรีสดมาสร้างสีสัน เหมาะกับอากาศเย็นๆ ริมทะเลที่จะได้ทานอาหารพร้อมกับฟังเพลงไพเราะๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่น และสนุกสนานกันเลยทีเดียว

 

จุดเด่นของร้านอาหารสุภัทรา ริมทะเล
          1. มีอาหารทะเลให้เลือกหลากหลายเมนู
          2.ร้านทำเลดี ติดริมหาดหัวหิน และใกล้สถานที่ไหว้พระ ทำให้คนที่มาทานเดินทางสะดวกที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
          3. การตกแต่งดูเป็นไทยล้านนา เหมือนได้อารมณ์มาเที่ยวภาคเหนือด้วย
          4. ภายในร้านกว้างขวางรองรับลูกค้าได้มาก มีหลายมุมให้เลือก โซนห้องแอร์ซึ่งเป็นบ้านแต่ละหลังให้ความเป็นส่วนตัว และมีขนาดกว้างขวาง
          5. สถานที่จอดรถรองรับรถได้หลายคัน
          6. มีมุมดนตรีสดช่วยสร้างความบันเทิงในค่ำคืน ไม่ใช่แค่เอาใจตามความชอบผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว ยังนึกถึงลูกค้าวัยเด็กอีกด้วย เพราะมีมุมสนามเด็กเล่นขนาดย่อม
          7. ใครที่อยากจัดงานเลี้ยงในโอกาสพิเศษ ที่นี่ก็มีบริการ เชื่อว่าถ้าใครเลือกมาจัดงานที่ร้าน งานออกมาน่าจะสวยไม่ใช่น้อยครับ

 

ข้อเสนอแนะ
          1. อาหารประเภทต้มยำควรใส่ความเผ็ดเพิ่มขึ้น เพราะถ้าปรุงน้ำต้มยำให้หวาน หรือจืดมากไป รสชาติที่ได้จะดูผิดเพี้ยนครับ
          2. เมนูปลากระพงทอดน้ำปลา ส่วนของหนังปลายังไม่กรอบเท่าที่ควรครับ หนังปลายังดูแห้งเกินไป
          3. กาแฟ อยากให้เพิ่มรสเข้มของกาแฟมากกว่านี้ครับ เพราะรสชาติของกาแฟเย็นยังขาดรสชาติเข้มข้นของกาแฟ
          4. ต้องคอยระมัดระวังเรื่องเม็ดทราย ผงฝุ่นที่มักจะปลิวตามมาติดกับภาชนะ เนื่องจากมีลมทะเลพัดเข้ามาบ่อยครั้ง อาจดูแลยาก ควรหมั่นเช็ดภาชนะให้สะอาดอีกทีก่อนลูกค้าจะมาถึงโต๊ะครับ
          5. ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอาหารซีฟู้ดอื่นๆ

        

          ถ้าใครมีโอกาสไปหัวหินก็อย่าลืมลองมาฝากท้องสักมื้อกับร้านอาหารสุภัทรา ริมทะเล ก่อนกลับกรุงเทพฯ นะครับ บรรยากาศดีๆ แถมติดหาด มีที่เที่ยวใกล้ๆ พร้อมให้เพลิดเพลินหลังจากทานอาหาร ยิ่งใครรักการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ มาแล้วได้ภาพสวยหลายมุมจากพื้นที่แห่งนี้กลับไปหลายภาพแน่นอนครับ