[รีวิว] ร้านหนีบเนื้อ (Neepneua) ชาบูไทย-อีสานแห่งแรกฝั่งธนฯ เนื้อเกรดพรีเมี่ยม+น้ำจิ้มรสแซ่บ@กัลปพฤกษ์

          สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านอีกครั้งค่ะ วันนี้พามาไกลถึงฝั่งธนฯ แต่เพื่อความอร่อย และความสุขของท่านผู้อ่านบอกเลยว่าแค่นี้จิ้บๆ! หลังๆ นี้เห็นเขาแชร์กันเยอะบนหน้าเฟสบุ๊คว่ามีจุ่มหนีบหรือจิ้มจุ่มที่ดูน่ากิ๊นน่ากินแบบชาบูไทยอีสานอยู่แถวฝั่งธนฯ ไม่รอช้าค่ะที่จะมาพิสูจน์ว่าอร่อยเหมือนอย่างที่แชร์กันไหม กับจุ่มหนีบ และจุ่มจี่ย่างแบบอีสานแต่สไตล์ฟิวชั่น พร้อมด้วยน้ำจิ้มรสแซ่บที่ร้านหนีบเนื้อ @กัลปพฤกษ์

การเดินทาง
           ร้านหนีบเนื้อ ตั้งอยู่ในโครงการ Kozy Corner ในซอย กำนันแม้น ซึ่งโครงการนี้จะตั้งอยู่ตรงข้ามกับซอย กำนันแม้น 17 ค่ะ หาได้ไม่ยากค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ติดถนนกำนันแม้น 

            สำหรับท่านที่สนใจอยากทานแต่อยู่ในฝั่งพระนคร สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานี วุฒากาศ (Wutthakat) เลือกทางออกที่ 2 (Exit No.2) จากนั้นเรียกแท็กซี่มายังซอยกำนันแม้น-แยกขวาจากถนนกัลปพฤกษ์ ค่ะ (ค่าแท็กซี่จากBTS ถึง Kozy Corner ประมาณ 60 บาท) 

 

เมนู และราคา

          ร้านหนีบเนื้อ ให้บริการอาหารแบบจานเดียวค่ะ ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ โดยทางร้านมีเป็นเซทหรือชุดจุ่มหนีบให้เลือก 3 เซตค่ะ ได้แก่
จุ่มหนีบเนื้อ (ใบพาย, สันนอก, ลูกชิ้นหนีบเนื้อ, ชุดผัก)            ราคา 250 บาท
จุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยม (ใบพาย, สันนอก, หนอก, ริบอาย, ชุดผัก)  ราคา 430 บาท
จุ่มหนีบหมู (สันคอ, สันนอก, เบคอน, ตับหมู, ชุดผัก)               ราคา 250 บาท

          นอกจากนั้นก็มีเมนูของสดอื่นๆ ให้สั่งเพิ่มด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู อาหารทะเล และผักสดค่ะ หากใครรู้สึกว่าอาหารในเซตทานไม่พอ ก็สามารถสั่งเป็นจานเดียวเพิ่มได้ค่ะ

          ในส่วนของอาหารจานเดียวก็มี “จี่” หรือกระทะร้อน ที่มีเนื้อริบอาย หมูสันคอ หมูสันนอก และหมูเกาหลีให้เลือก และหากใครเปรี้ยวปากอยากกินอาหารแซ่บๆ ทางร้านก็มีให้บริการค่ะในเมนู "หนีบสะดุ้ง" ไม่ว่าจะเป็นยำต่างๆ และเห่าดง (เนื้อหรือหมู) ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทางร้าน พร้อมด้วยเมนู "หนีบสลัด" สลัดผักต่างๆ และเมนู "หนีบกินเพลิน" พวกอาหารทอดเช่น หมู และไก่ทอดไว้กินเป็นกับแกล้ม และถ้าหากไม่อิ่มท้องก็สามารถสั่งเมนูข้าวหรือเรียกมาทานเพิ่มได้ค่ะ

 

บรรยากาศภายในร้าน

          สำหรับบรรยากาศภายในร้านหนีบเนื้อ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนค่ะ คือโซนในร้าน และโซนนอกร้านซึ่งจะนั่งบริเวณหน้าร้านแต่ไม่ร้อนค่ะ เพราะมีหลังคาคุ้ม แต่อาจจะรู้สึกเหนอะหนะตัวตามอากาศอันอบอ้าวของบ้านเรา 

 

 

          โดยส่วนตัวคิดว่าโซนภายในร้านค่อนข้างมืด ดังนั้นหากอยากนั่งชิล และอยากถ่ายรูปอาหารให้ดูสวย คิดว่านั่งข้างนอกดีกว่าค่ะ และตอนกลางคืนทางร้านก็จะเปิดไฟตรงต้นไม้ซึ่งดูสวยไปอีกแบบค่ะ

 

หนีบสะดุ้ง

          อาหารของเมนูหนีบสะดุ้งจะเป็นพวกยำต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเมนูค่ะ ทั้งยำเนื้อน่องลาย, ยำสันคอหมูย่าง และยำทะเล พร้อมด้วยเมนูลาบ และน้ำตก แต่คราวนี้ลองสั่ง เห่าดงหมู ค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ไม่เคยได้ยิน และไม่เคยกินมาก่อน พร้อมด้วย ยำเนื้อน่องลาย มาลองค่ะ

เห่าดงหมู (79 ฿)

ความรู้สึกต่อเห่าดงหมู: จานนี้ถือว่าอร่อยค่ะ รสชาติคล้ายๆ กับน้ำตกหมู แต่เห่าดงจะใช้พริกแห้งแทน คลุกเคล้าให้เข้ากับเนื้อหมูที่หั่นมาบาง แต่บางชิ้นก็หนาไปสักนิด อย่างไรก็ตามเนื้อหมูมีความนุ่มมากค่ะ

           โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนทานเผ็ด ดังนั้นถือว่ารสชาติ และระดับความเผ็ดอยู่ในขั้นพอดี แต่อาจจะออกเค็มไปสักนิด แต่ถือว่าเป็นอีกหนึงเมนูที่น่าลองค่ะ

 

ยำเนื้อน่องลาย (89 ฿)

ความรู้สึกต่อยำเนื้อน่องลาย: สำหรับยำจานนี้ รสชาติออกไปทางหวาน และไม่ค่อยเผ็ดสักเท่าไหร่ แต่เนื้อหั่นมาบางดีค่ะ แต่น่าจะปรุงรสชาติให้เข้มข้นมากกว่านี้ เพราะหากเปรียบเทียบกับเห่าดงหมูแล้ว จานนั้นมีความเข้มข้นของรสชาติมากกว่าค่ะ 

  

หนีบกินเพลิน

          เมนูหนีบกินเพลินคือ เมนูอาหารทอด ได้แก่หมูคลุกฝุ่น หมูทอดน้ำปลา หมูทอดเบรกแตก หมูย่างจิ้มแจ่ว ไก่shake และเฟรนช์ฟรายส์

          แต่วันนั้นทางร้านได้ให้ลอง 2 เมนูขายดี อย่างหมูคลุกฝุ่น และไก่shake มาดูกันค่ะว่าจะอร่อยไหม

 

ไก่shake (79 ฿)

ความรู้สึกต่อไก่shake:  ไก่ทอดชิ้นเล็กที่คัดมาเฉพาะส่วนปีก คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษของทางร้านจึงทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นมากกว่าไก่ทอดทั่วไปค่ะ อร่อยดีค่ะ เนื้อไก่ไม่แห้งจนเกินไป ยังคงไว้ซึ่งความกรอบ แต่ทานไปทานมารู้สึกว่าค่อนข้างเค็มไปสักนิด 

 

หมูคลุกฝุ่น (79 ฿)

ความรู้สึกต่อหมูคลุกฝุ่น: หมูทอดคลุกด้วยข้าวคั่วแล้วทอดให้กรอบเหมาะกับเมนูทานเล่นมากค่ะ แต่เนื้อหมูไม่แห้งมาก พร้อมกับสัมผัสความกรุบกรอบของข้าวคั่วไปในตัว จานนี้ถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ

         

จี่กระทะร้อน

          อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของทางร้านกับ “จี่” หรือกระทะร้อน ถึงแม้จะมีให้เลือกทั้งหมู และเนื้อ แต่คราวนี้ขอสั่ง จี่เนื้อริบอาย มาลองค่ะ

 

จี่เนื้อริบอาย (130 ฿)

 

ความรู้สึกต่อจี่เนื้อริบอาย: ก่อนหน้านี้เคยได้ลองกินเนื้อกระทะร้อนมาแล้วครั้งหนึ่งค่ะ รู้สึกว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะเนื้อมีความเหนียว และค่อนข้างแห้ง แต่จี่เนื้อริบอายของร้านนี้ถือว่าอร่อยเลยค่ะ เพราะเนื้อไม่เหนียว แถมมีรสชาติคล้ายๆ พริกไทยที่เพิ่มความหอม และเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อมากขึ้นค่ะ 

          แต่! ทุกเมนูที่ทานมา รู้สึกว่าเป็นเมนูอาหารที่ต้องทานกับข้าวเหนียวค่ะ โดยเฉพาะเห่าดงหมู ที่หากได้ข้าวเหนียวร้อนๆ ทานคู่กับอาหารรสแซ่บคงจะอร่อย และฟินกว่านี้ ทางร้านควรเพิ่ม "ข้าวเหนียว" ค่ะ เพราะเมนูของที่ร้านส่วนใหญ่ออกแนวอีสาน ดังนั้นการทานคู่กับข้าวเหนียวจะถือว่าอร่อยกว่าทานคู่กับข้าวสวย

 

จุ่มหนีบ 

          มาถึงไฮไลท์สำคัญของวันนี้กับจุ่มหนีบ หรือจิ้มจุ่มที่เรารู้จักกัน แต่เป็นสไตล์ฟิวชั่นเพราะแทนที่จะนำทุกอย่างลงหม้อ แล้วรอให้เดือดเหมือนอย่างเคย แต่คราวนี้เราจะกินกันแบบชาบู! ตามคอนเซ็ปต์ “หนีบ(เนื้อ)แล้วจุ่ม” 

         โดยได้เลือกเซทจุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยม มาลอง “หนีบ” แล้ว “จุ่ม” ค่ะ

จุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยม (430 ฿) และอาหารอื่นๆ 

 

           หม้อของที่นี้คล้ายๆ หม้อต้มยำขนาดเล็กค่ะ โดยจะต้องใช้แอลกอฮอล์แข็งเพื่อจุดให้ความร้อน ซึ่งทำให้มีข้อเสียคือ จะต้องเติมแอลกอฮอล์แข็งบ่อยๆ ค่ะ

โดยในเซตจุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยม จะประกอบไปด้วยเนื้อใบพาย สันนอก หนอก ริบอาย และชุดผักพร้อมไข่

 

เนื้อริบอาย และใบพาย 

 

สันนอก และหนอก

 

ชุดผัก

ความรู้สึกต่อเซตเนื้อพรีเมี่ยม และชุดผัก: สำหรับเนื้อในเซตจุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยมถือว่าได้คุณภาพ และมาในปริมาณที่เยอะพอสมควรค่ะ ถือว่าคุ้มกับราคา 430 บาท ส่วนคุณภาพถือว่าดีเลยค่ะ เนื้อมีความบาง จึงทำให้ "จุ่ม" ทานได้แบบชาบู และมีความนุ่มในตัวของมันอยู่แล้ว หากใครชอบเนื้อ แนะนำให้สั่งเซตเนื้อพรีเมี่ยมค่ะ 

          โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าชุดผักให้มาในปริมาณที่พอดีกับหม้อค่ะ เนื่องจากหม้อมีขนาดเล็กอยู่แล้ว อีกทั้งเน้นการทานแบบชาบูด้วยแล้ว หากใส่ผักเยอะไปก็จะดูล้นหม้อไปค่ะ แต่ทางร้านน่าจะเพิ่มผักกาดขาวด้วยค่ะ เพราะรู้สึกว่าพอต้มแล้วรสชาติของผักกาดขาวอร่อยกว่ากะหล่ำปลี 

 

หนีบนุ่ม (50 ฿)

ความรู้สึกต่อหนีบนุ่ม: กินจิ้มจุ่มแล้วขาดหมูนุ่มไม่ได้ค่ะ แต่อาจจะต้องปล่อยให้สุกเองในหม้อมากกว่าจะจุ่มแบบเนื้อ อร่อยดีค่ะ และให้ในปริมาณที่เยอะพอสมควร 

 

เบคอน(60 ฿)

 

สันนอก (60 ฿)

 

สันคอ (60 ฿)

ความรู้สึกต่อสันคอ สันนอก และเบคอม: มีเนื้อแล้วก็ต้องมีหมูตามมาค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นถาดๆ ที่มีแค่ชิ้นสองชิ้นแบบร้านอื่นๆ แต่ในราคา 60 บาทนี้ได้ทั้งถาดเลยค่ะ ในเรื่องปริมาณถือว่าร้านนี้ให้เยอะพอสมควร เกือบทุกเมนูเลย แต่ก็มีคุณภาพในเวลาเดียวกันค่ะ ส่วนที่ชอบน่าจะเป็นความบางของเนื้อ ที่เพียงจุ่มก็สุกแล้ว 

 

หมึกสด (65 ฿)

 

กุ้งสด (65 ฿) 

ความรู้สึกต่อหมึกสด และกุ้งสด: มีเนื้อ มีหมูแล้วก็ต้องมีอาหารทะเลตามมาค่ะ ในเรื่องของคุณภาพถือว่ากลางๆ ใช้ได้ค่ะ ขอแค่ไม่มีกลิ่นคาวมาทำให้กังวลใจก็พอ ส่วนกุ้งสดของที่นี้เป็นกุ้งกรอบค่ะ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วชอบกุ้งแบบนี้ รู้สึกว่าพอนำไปต้มแล้วอร่อย และกรอบกว่า 

 

น้ำจิ้ม

          น้ำจิ้มที่ร้านหนีบเนื้อ มีให้เลือก 3 แบบค่ะ ได้แก่จุ่มสุกี้ จุ่มแซ่บ และจุ่มหวาน อยากจุ่มอันไหนก็เลือกเลยค่ะ 

 

ความรู้สึกต่อน้ำจิ้ม: บางคนชอบกินจิ้มจุ่มกับน้ำจิ้มสุกี้ แต่บางคนชอบกินกับน้ำจิ้มแจ่ว ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบทานกับน้ำจิ้มแจ่วมากกว่า และชอบจุ่มแซบมากค่ะ มันเผ็ดดีจริง และเมื่อเทียบกับจุ่มหวาน กลายเป็นว่าชนิดหลังรสชาติออกอ่อนไปเลย แต่โดยรวมแล้วน้ำจิ้มทั้ง 3 ชนิดถือว่าใช้ได้ค่ะ มีความเข้มข้นในตัวทุกชนิด ขึ้นอยู่ว่าชอบทานจิ้มจุ่มกับน้ำจิ้มแบบไหน 

 

ชีส

          นอกจากนี้ทางร้านยังได้เพิ่ม "ชีส" ลงในเมนูอาหารด้วยค่ะ ให้ทันกับกระแสชีสที่มาแรง 

ชีส (39 บาท)

 

ความรู้สึกต่อชีส: สำหรับบางคนที่ชอบชีสอยู่แล้ว อาจจะชอบค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหากจะเป็นจิ้มจุ่มแนวอีสานแล้ว ชีสไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่นัก แต่ใน 1 ถ้วยก็มีชีสในปริมาณที่เยอะพอสมควรค่ะ 

           เมื่อทุกอย่างมาครบแล้ว งั้นมา "หนีบ" และ "จุ่ม" กันเลยดีกว่าค่ะ! 

 

 

 

SPONSORED

 

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4
บรรยากาศ	3
การบริการ	4
ความคุ้มค่า	4.5
คะแนนเฉลี่ย	3.8

           

          เปลี่ยนแนวจากชาบูหรือปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ มาลอง "จิ้มจุ่มหม้อไฟแห่งแรกฝั่งธนฯ" เอาใจผู้ที่ชื่นชอบอาหารอีสานรสแซ่บที่ร้านหนีบเนื้อ @กัลปพฤกษ์ แห่งนี้ค่ะ ซึ่งเขาได้เปลี่ยนการกินจิ้มจุ่มแบบเก่าๆ ให้ทันสมัยตามกระแส "ชาบู" ด้วยการใช้เนื้อวัวหรือหมูที่คุณภาพดี หั่นบางๆ พร้อม "หนีบ" และ "จุ่ม" ลงหม้อไฟ พร้อมด้วน้ำจิ้มแจ่วสุดแซ่บ 

          สิ่งหนึ่งที่ชอบเกี่ยวกับร้านนี้คือ มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดที่ทานกับจิ้มจุ่ม และอาหารจานเดียว แต่ที่น่าเสียที่ไม่มี "ข้าวเหนียว" และ "ส้มตำ" ซึ่งหากมีจะครบเครื่องอาหารอีสานรสแซ่บค่ะ อย่างไรก็ตามราคาอาหาร และปริมาณอาหารถือว่าไปด้วยกันได้ ไม่ถือว่าถูกหรือแพงเกินไป แต่ปริมาณอาหารก็เยอะพอสมควรค่ะ อย่างเซตจุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยม (430 ฿) ที่เสิรฟ์มาในถาดไม้ 2 ถาดใหญ่ บอกเลยว่าอิ่มแน่นอนสำหรับทานกัน 2 คนค่ะ 

           ส่วนเรื่องรสชาติอาหาร ใครชอบทานอาหารรสเข้มข้นน่าจะชอบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มหรืออาหารก็มีครบทุกรสทั้งเปรี้ยว เค็ม และหวาน โดยเฉพาะเห่าดงหมู (79  ฿) ที่ยอมรับเลยว่าอร่อย และความเข้มข้นของรสชาติ หรือจี่เนื้อริบอาย (130 ฿) ที่เนื้อไม่เหนียว แถมอร่อย และหอมด้วยพริกไทยดำ และไก่shake (79 ฿) ที่ทอดกรอบพร้อมปรุงรสมาเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีบ้างเมนูที่รสชาติออกหวานอย่างยำเนื้อน่องลาย (89 ฿) ที่ไม่ค่อยเผ็ด และออกหวานค่ะ อย่างไรก็ตามรสชาติโดยรวมถือว่าใช้ได้ อร่อยสำหรับผู้ที่ชอบความแซ่บรสไทยอีสาน 

 

          ราคาอาหารทั้งหมด 1149 บาทค่ะ (ลดไป 10%) โดยได้สั่งเซตจุ่มหนีบเนื้อพรีเมี่ยมราคา 430 บาท สันคอ สันนอก และเบคอนอย่างละ 60 บาท
          หนีบนุ่ม 50 บาท พร้อมด้วยหมึกสด และกุ้งสดอย่างละ 65 บาท ต่อด้วยจี่เนื้อริบอายราคา 130 บาท ยำเนื้อน่องลาย 89 บาท
          เห่าดงหมู 79 บาท และชีส 39 บาท ตามด้วยน้ำแข็ง 1 ถังราคา 20 บาท น้ำเปล่า 1 ขวด และลิปตัน 1 ขวดอย่างละ 15 บาท
          (หมูคลุกฝุ่น และไก่shake ทางร้านให้ลองชิมฟรีค่ะ) 
 

จุดเด่นของร้านหนีบเนื้อ

          1. นำเสนอจิ้มจุ่มแบบอีสานในรูปแบบชาบูสไตล์ฟิวชั่น แปลกใหม่ และสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้าน

          2. ทางร้านมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายค่ะ และมีการคิดค้นเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอย่าง หมูทอดเบรกแตก ไก่shake และหมูคลุกฝุ่น

          3. ปริมาณ และราคาอาหารถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ อย่างเซตจุ่มหนีบเนื้อพรี่เมี่ยมที่ราคาค่อนข้างสูง (430 ฿) แต่ปริมาณเนื้อเยอะพอสมควร และเนื้อหมู (60 ฿) ที่ไม่ได้มาเป็นถาดเล็กๆ 

          4. ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Kozy Corner ซึ่งหาได้ง่ายติดถนนซอยกำนันแม้น และมีที่จอดรถไว้ให้บริการ 

          5. การบริการของพนักงานถือว่าน่าพอใจค่ะ ค่อยเติมแอลกอฮอล์ให้ตลอดเมื่อไฟมอดลง 

          6. ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นจิ้มจุ่มหรืออาหารจานเดียว 

 

ข้อเสนอแนะ

          1. บริเวณด้านนอกมีแมลงวันเยอะค่ะ ทางร้านควรหาวิธีจัดการไม่ให้แมลงวันบินมาตอมอาหาร

          2. ทางร้านไม่มี "ข้าวเหนียว" ซึ่งน่าจะเพิ่มลงในเมนูอาหารค่ะ เพราะทางร้านเป็นอาหารแนวอีสานซึ่งทานคู่กันกับข้าวเหนียวอยู่เลย 

          3. การใช้เตาในลักษณะนี้ ทำให้ต้องใช้แอลกอฮอล์แข็งในการเพิ่มความร้อนตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้ต้องเติมแอลกอฮอล์แข็งอยู่เรื่อยๆ 

          4. ไม่มีเมนูของหวานหรือไอศครีม

          5. เมนูอาหารจานเดียวไม่มีเมนูส้มตำ ซึ่งทางร้านน่าจะเพิ่มค่ะ จะได้ทานคู่กับจิ้มจุ่มแบบเพลินๆ 

          5. การเดินทางอาจจะลำบากสำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เพราะต้องเข้าไปในซอยกำนันแม้น 

          หากใครเบื่อแล้วกับชาบูแบบญี่ปุ่น ลองเปลี่ยนมาทานจิ้มจุ่มหม้อไฟที่ทานแบบ "ชาบู" เหมือนกัน แต่ในสไตล์ไทยๆ กับเนื้อนุ่มๆ บางๆ พร้อมด้วยน้ำจิ้มรสแซ่บที่รับรองว่าเข้มข้น และแซ่บ อีกทั้งในราคาที่สมเหตุสมผลกับปริมาณเต็มอิ่มที่ร้าน หนีบเนื้อ @กัลปพฤกษ์ ได้แล้ววันนี้ค่ะ