ร้านอะ ซี บาร์ (A Sea Bar) ทะเลปิ้งย่างแบบคัดคุณภาพ อร่อยแบบเลือกได้ ลิ้มลองกุ้งมังกรตัวโต หอยนางรมสดๆ @อุดมสุข 58
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักน่าหม่ำทุกท่าน และยินดีต้อนรับผู้ที่ชื่นชอบการกินเช่นเดียวกับพวกเรา ไม่ได้โม้แต่เจอทีมงาน RyoiiReivew ทีไรรับรองว่าหนีไม่พ้นเรื่องกินแน่นอนค่ะ เพราะพวกเราชอบนำความอร่อยมาฝากให้ผู้อ่านทุกท่านได้อิ่มแปล้ และอิ่มใจ หลังจากตระเวนหาร้านอาหารคุณภาพ รสชาติเลิศรส และคุ้มค่าสมราคา วันนี้พวกเราจะพาทุกท่านไปอิ่มท้อง (แบบพอดี) กับปิ้งย่างอาหารทะเลสดๆที่สดเหมือนเพิ่งขึ้นจากทะเล แถมไฮไลท์เด็ดด้วยกุ้งมังกรตัวยักษ์ และหอยนางรมชิ้นโตรสหวาน แต่ไม่ต้องไปไหนไกล ไม่ต้องขับให้เมื่อยเพราะอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆกันที่ร้าน A Sea Bar ซอยอุดมสุข 58 นี้เองค่ะ!
สามารถไปฝากท้องกับปิ้งย่างอาหารทะเลสดๆกันตั้งแต่เวลา 16.00 - 22.00 เป็นประจำทุกวันเลยค่ะ แถมทางร้านเขาชอบมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ยั่วน้ำลายให้หิวกันตลอดทั้งเดือน สามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook ของทางร้านได้เลยหรืออยากสอบถามข้อมูลก็สามารถทำได้ เจ้าของร้านใจดีมากคอนเฟริม์!
Share
Share
Share
Share
Share
บรรยากาศภายในร้าน
ถึงร้าน A Sea Bar จะเล็ก แต่ก็อบอุ่นหัวใจ และปลอดโปร่ง สบายหู สบายตามากเลยค่ะ ด้วยการตกแต่งแบบวินเทจนิดๆ ผสมกลิ่นอายความเป็นโบราณหน่อยๆ แต่ลงตัวกันดีเหมาะกับการนั่งปิ้งย่างอาหารทะเลเพลินๆ และชิลๆแบบไม่แข่งกับเวลา
ถ้าวันไหนลมเย็น ลองนั่งนอกร้านรับลม รับรองว่าเพลินกับการปิ้งย่าง
โบราณนิดๆ วินเทจหน่อยๆด้วยประตูบานพับ เท่ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
SPONSORED
โดดเด่นด้วยบาร์สุดเก๋ ตกแต่งด้วยผนังอิฐเปล่า มองกี่ทีก็ดูดีมีสไตล์
ร้านแลดูสะอาดตา พร้อมด้วยโต๊ะขนาดพอดี มากันเยอะก็มีที่นั่งแน่นอน
หากเปรียบเทียบบรรยากาศภายในร้าน A Sea Bar กับร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างทะเลร้านอื่นๆที่เคยไปมา ร้านนี้ถือว่ามีความใส่ใจในเรื่องการตกแต่งร้านให้ดูน่านั่ง และสร้างเอกลักษณ์ของร้านไม่ให้ซ้ำใคร ถึงแม้โต๊ะจะไม่เยอะ แต่ด้วยจำนวนที่ไม่มากทำให้รู้สึกว่ายังคงความเป็นส่วนตัวได้ดี โต๊ะไม่แน่นหรือชิดกันเกินไป และรู้สึกว่ามีการแบ่งเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ดูไม่วุ่นวายเลยค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนหรืออบอ้าวขณะกิน เพราะประตูบานพับเปิดรับลมไว้ทุกด้าน นั่งข้างในก็เย็น นั่งข้างนอกก็ดีค่ะ แถมเพลินไปกับการเปิดเพลงคลอทำให้เอ็นจอยการกินยิ่งกว่าเดิม (สั่งเพิ่มแบบไม่รู้ตัวเลย)
รายละเอียดราคา
ต้องบอกก่อนว่าร้านนี้ไม่ใช่ร้านปิ้งย่างทะเลบุฟเฟต์แบบที่กำลังฮอตฮิตติดลมในขณะนี้ แต่ร้าน A Sea Bar นี้เขาเน้นขายเป็นเซต แต่มีจานเดียวให้เลือกด้วยจ้า แถมมีหลากหลายราคาให้เลือกตามความหิว และความจุของขนาดกระเพาะ
โดยราคาเริ่มต้นในแต่ละเซตเริ่มต้นที่ 399 บาท, 599 บาท และ 999 บาท และในแต่ละเซตจะมีปลาหมึก, หอยแครง,หอยแมลงภู่, หอยเชลล์, หอยหวาน และกุ้งก้ามกราม (ต่างกันที่ปริมาณของแต่ละเซต) และหากอยากสั่งอาหารทะเลเพิ่มก็สามารถสั่งได้ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 60 บาทเท่านั้นค่ะ
Platter S ราคา399 บาท – ระดับความอิ่มแบบเบาๆ ไม่หนักท้องหนักตาจนเกินไป แถมราคาก็เบากระเป๋าด้วย ด้วยปริมาณที่พอดิบพอดี แต่อาจจะเล็กเหมาะกับทาน 1 – 2 คนเท่านั้น แต่ถ้าอยากเพิ่มเติมความอิ่มก็สั่งจานเดียวเพิ่มได้เลย
Platter M ราคา599 บาท – ระดับความอิ่มแบบพอดีท้อง และราคากลางๆ วัตถุดิบดีเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือปริมาณ อร่อยกับครอบครัวหรือแกงค์เพื่อน 2-4 คนก็พอดีไม่มากไม่น้อย แต่ถ้าเครื่องไม่พอก็สั่งเพิ่มเลย!
Platter Lราคา 999 บาท – ระดับความอิ่มท้องแบบเกินพอดี ด้วยปริมาณที่มากกว่าเซตที่ผ่านมา โดยเพิ่มปลาหมึกเป็น 2 ตัว จุใจด้วยปริมาณหอย และกุ้งอีกเท่าตัว ที่กินเพลินๆก็หมดจานแบบไม่รู้ตัว
Spiny Lobster Platter ราคา 1899 บาท – มาถึงพระเอกของร้านกันดีกว่า เซตกุ้งมังกรตัวโต เนื้อแน่น และหวานนุ่ม แต่ไม่ได้มีเพียงแค่กุ้งมังกรอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมีกุ้งลายเสือ, กุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, หอยเชลล์, หอยหวาน, หอยแครง และหอยแมลงภู่ยกขบวนความอร่อยให้ท้องไม่ว่าง อิ่มอกอิ่มใจกันทั้งครอบครัว และผองเพื่อน
แต่ในวันที่ทีมงาม RyoiiReview ไปกิน ทางร้านเขามีโปรโมชั่นพอดีในเซตกุ้งมังกรค่ะ จากราคา 1,899 บาท ลดเหลือเพียง 1,399 บาทเท่านั้น! ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ เซตนี้มีกุ้งมังกรมากถึง 2 ตัวแนะ พร้อมด้วยหอยไม้ไผ่สุดแปลกที่ไม่มีในเซตอื่น อยากอร่อยพิเศษกว่าใครต้องสั่งเซตนี้ (สามารถดูโปรโมชั่นของทางร้านได้จาก Facebook)
น้ำจิ้มซีฟู้ด
กินอาหารทะเลทั้งที ถ้าขาดน้ำจิ้มก็เหมือนขาดใจ เพราะเนื้อหวานๆ สดๆของกุ้ง หอย ปลาหมึกนั้นต้องมาฟีเจอริ่งกับน้ำจิ้มแบบแซ่บๆ เปรี้ยวๆ เค็มๆ ถึงจะอร่อย และฟินจนกัดปาก!
แค่สีก็แซ่บ รับรองว่าสะท้านถึงทรวง กินเผ็ดได้หรือกินไม่ได้ ทางร้านเขามีให้เลือก
ทางร้าน A Sea Bar มีน้ำจิ้มให้เลือก 2 แบบ 2 สไตล์ค่ะ แบบแรกคือ น้ำจิ้มซีฟู้ด แบบสองคือ น้ำจิ้มซีฟู้ดค็อกเทล โดยสูตรแรกจะเผ็ด และแซ่บตามสไตล์น้ำจิ้มประเภทนี้ แต่แบบที่สองจะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานเผ็ดหรือเด็กเล็กที่ยังทานเผ็ดไม่ค่อยได้ค่ะ
ไม่อยากจะบรรยายความอร่อยของอาหารคำนี้ เพราะฟินมาก อร่อยกับความสดของหอย และน้ำจิ้มรสเข้ม
หากน้ำจิ้มไม่อร่อย อาหารทะเลมื้อนั้นก็จะไม่อร่อยตามไปด้วย แต่ที่ร้าน A Sea Bar ไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน ด้วยความแซ่บ และเผ็ดจากพริกเขียวปั่นละเอียด แต่อาจจะเผ็ดนำไปสักนิดค่ะ น่าจะชัดเจนเรื่องรสชาติว่าจะเค็มหรือจะหวานดี แต่โดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้ค่ะ ส่วนอีกอันคือน้ำจิ้มซีฟู้ดค็อกเทล อันนี้เหมาะกับคนไม่ทานเผ็ดจริงๆค่ะ เนื้อข้นๆ เค็มนิดๆ อาจจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครบางคน แต่พอดีทีมงานเป็นสายเผ็ด และแซ่บเวอร์จึงชอบน้ำจิ้มตัวแรกมากกว่าค่ะ!
เตา และอุปกรณ์อื่นๆ
นอกจากจะน้ำจิ้มที่ขาดไม่ได้แล้วเมื่อนึกถึงอาหารทะเล แต่ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่หากขาดแล้ว มื้อนี้จะเปลี่ยนไป๊ และกินไม่ได้! เตาย่างเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกเตาจะย่างแล้วอร่อยนะค่ะ จากประสบการณ์การตระเวนกินทั่วกรุงเทพ พบว่าเตาย่างที่ร้าน A Sea Bar ถูกใจใช่เลย เหมาะกับการย่างอาหารทะเลที่สุด!
เตากว้างได้อีก กว้างแบบนี้วางของสดได้เยอะ จุใจใช่เลย!
ไฟแรงกำลังดี เผลอแป็ปๆก็สุกละ อร่อย ฟินแบบไม่ต้องรอ
อุปกรณ์ครบครัน วางเป็นระเบียบ จัดเป็นระบบ ไม่เกะกะโต๊ะ
ด้วยความกว้างของเตาที่กว้างจุใจทำให้มีพื้นที่ให้การย่างได้เยอะ ไม่ว่าจะนำกุ้งลายเสือตัวบิ๊กมาวางหรือปลาหมึกตัวยาวมาย่างพร้อมกันก็สามารถทำได้ ตรงนี้ชอบมากเลยค่ะ ต่างจากร้านอื่นๆที่ต้องค่อยย่างทีละอยากเพราะพื้นที่มีน้อย อีกหนึ่งอย่างที่ชอบมากเกี่ยวกับเตาของร้านนี้คือการออกแบบเตาที่ดีทำให้ไม่มีเขม่าไฟจากถ่านลอยออกมาค่ะ ไม่ต้องค่อยนั่งหลบซ้าย หลบขวาให้เสียอารมณ์ในการกิน และระยะความสูงก็ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป อยู่ในระดับพอดี และสามารถนั่งไปปิ้งไปได้อย่างไม่มีปัญหา และไฟแรงดีไม่มีตกตลอดการย่าง
อีกหนึ่งข้อดีของร้านนี้คือการนำอุปกรณ์สำหรับการปิ้งมาไว้ที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรรไกรสเตนเลสตัดก้ามปูที่ตัดได้หมดไม่ว่าจะเป็นเปลือกกุ้ง ปลาหมึก และคีบที่มีบริการให้ทุกโต๊ะแบบไม่ต้องเรียกขอจากพนักงานให้วุ่นวาย และมีเครื่องปรุงต่างๆ เช่นเกลือ, พริกไทยป่น และซีอิ๊วขาว เตรียมพร้อมเพิ่มรสชาติให้น้ำจิ้ม และอาหารทะเล
อาหารทะเลสด
มากินอาหารทะเลทั้งที ต้องโชว์ของซะหน่อยว่าสด และอร่อยจริงไม่ได้โม้! พร้อมแล้วเริ่มถ่ายรูปอวดเพื่อน และครอบครัวเพื่อยั่วน้ำลายเล่นๆ
ยังไม่ทันจะย่าง น้ำลายก็สอเสียแล้ว สด ใหม่ ฟินตั้งแต่แรกเห็น
ซูมกันเน้นๆ ให้เห็นกันจะๆ ว่ามื้อนี้จะอร่อย และอิ่มใจแค่ไหน
พระเอกของเราในวันนี้ที่หล่อ และเนื้อแน่นได้ใจ
ไม่ได้กุ้งก้ามกรามไม่เป็นไร ได้กุ้งลายเสือเนื้อแน่น ตัวบิ๊กดีกว่าเยอะ!
รวมพลความอร่อย และความสดที่ฟินเกินร้อย
หลังจากถ่ายรูปเอาไปอวดเพื่อน อวดญาติ อวดคนข้างบ้าน โพสลงเฟซ และอัพลงไอจี โทรไปโม้กิีกแล้วก็ถึงเวลาโยนลงบนเตาเลยค่ะ! ด้วยไฟที่ร้อนพอดี ไม่ต้องรอ ไม่ต้องพัดให้เมื่อยแขน (ซึ่งเป็นข้อดีมาก ปกติรอกันไปสิ) ก็จับอาหารทะเลโยนลงไปเลยค่ะ จะกุ้งหรือหอยก็อร่อยเหมือนกัน
วันนี้รับรองว่าอิ่มแน่ กับความสดใหม่ของอาหารทะเลที่สัมผัสได้
เตากว้างได้ใจ ย่างปลาหมึกพร้อมหอยได้เลย
ย่างให้พอดีสุก เนื้อจะได้ไม่เหนียว ยังไว้ซึ่งความหนึบหนับของเนื้อปลาหมึก
จะหอยหวาน หรือหอยแครง รับรองว่าสะอาด ไร้กลิ่น ไร้โคลน กินได้เลยไม่ต้องกลัว!
กุ้งมังกรตัวโต ย่างแบบพอดี เนื้อจะแน่น และหวานความสดจากทะเล
จะกินเปล่าหรือจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อยทุกแบบ ฟินทุกสไตล์
เนื้อหอยหวาน ที่ต้องแงะ แต่ก็คุ้มกับเนื้อที่หวาน และสด
กุ้งลายเสือปิ้งย่าง แกะเปลือกโชว์เนื้อหวานน่ากิน
โชว์อีกนิดกับพระเอกสุดอร่อย ย่างแบบพอดี ให้มันกุ้งไหลเยิ้ม
ขอบอกว่าของที่นี้เขาสดจริงค่ะ ไม่ได้อวย ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น หอยเชลล์ที่เสิรฟ์มาทั้งเปลือก ถ้าหอยไม่สดจริงก็จะมีกลิ่นคาว และเนื้อก็จะยุ่ย และเหลว แต่ที่นี้เนื้อหอยใส ไม่มีกลิ่นคาวกังวลใจ แถมพอย่างเสร็จก็จะได้รสชาติแบบธรรมชาติ อร่อย และนุ่มอย่าบอกใคร ส่วนหอยชนิดอื่นๆก็อร่อยไปตามระเบียบค่ะ แต่เรื่องจะปิ้งอร่อยหรือไม่อร่อยอยู่ที่ฝีมือของคนปิ้งแล้วละค่ะ ต้องค่อยดูว่าอันไหนสุกกินได้แล้ว หรืออาหารชนิดใดปิ้งสุกมากเกินไปจะไม่อร่อย พวกหอยแครงหรือหอยแมลงภู่ ถ้าสุกมากไปเนื้อจะค่อนข้างเหนียว แต่แล้วแต่คนชอบค่ะ อยู่ที่ความชอบ และฝีมือล้วนๆ แต่รับประกันว่าอาหารทะเลเขามาแบบสดจริงๆ และไร้กลิ่นคาวรบกวนใจแน่นอน
ทางร้านได้แนะนำเทคนิคเล็กๆว่าย่างยังไงให้อร่อย โดยให้โรยเกลือลงไปบนกุ้ง ปลาหมึก และหอยเลย ย่างไปโรยไปแต่ต้องค่อยเบามือนะค่ะ มิฉะนั้นจะได้กินอาหารทะเลแบบเค็มปี๋ แต่วิธีนี้เวิรค์ค่ะ หลังจากได้ลองมากับตัวรู้สึกว่าได้รสชาติของอาหารมากขึ้น เข้ากันดีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเข้ม
ส่วนถ้าใครอยากได้เนยเอามาทาหอยเชลล์หรือเนื้อกุ้งเพื่อเพิ่มความมัน และรสชาติให้เข้มก็สามารถขอได้จากพนักงานได้เลยค่ะ ทางร้านก็จะนำมาบริการถึงโต๊ะพร้อมไม้พายทาเนย สะดวก สะอาด ง่ายต่อการปิ้ง และกุ้งมังกรสามารถบอกให้ที่ร้านย่างให้ได้เลยค่ะ จะได้เนื้อแน่น แต่ไม่แห้งหรือแข็งจนเกินไป อร่อยแบบพอดี
หอยนางรมสด
อีกหนึ่งอย่างที่ต้องลองเมื่อมาร้าน A Sea Bar คือหอยนางรมสด ที่มาสดๆพร้อมเปลือก แต่ที่น่าประทับใจคือ หอย (นางรม) ใหญ่มาก รู้เลยว่าอร่อย!
เสิรฟ์แบบเย็นๆ เนื้อแน่นๆ ไม่เหลว ไม่ยุ่ย
กินเย็นๆ จะได้เนื้อแน่นๆ และความกรอบของเนื้อหอยอย่างเต็มที่
เพิ่มความแซ่บ และรสชาติให้หอยที่กรอบ ด้วยการบีบมะนาวลงไป ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
หอยนางรมของที่ร้าน A Sea Bar มาในขนาดใหญ่มาก ตัวใหญ่กว่าท้องตลาดโดยทั่วไป สอบถามจากทางร้านได้ความว่าเป็นหอยนางรมที่ส่งตรงจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้หอยนางที่ใหญ่กว่าร้านอื่นๆ และทางร้านก็มีน้ำจิ้มมาเพิ่มอีกหนึ่งแบบสำหรับกินกับหอย โดยมีรสชาติที่ออกเปรี้ยวหน่อยๆเหมือนจิ๊กโฉ่ว แต่คิดว่าน่าจะเข้ากับน้ำจิ้มซีฟู้ดมากกว่า แถมเพิ่มความเปรี้ยว และแซ่บด้วยการบีบมะนาวลงไป อร่อยค่ะ กรอบได้ใจ เนื้อไม่คาวด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทางร้านน่าจะมีเครื่องเคียงมาให้ด้วย เช่นกระถิน หอมทอด จะได้เพิ่มความอร่อยให้กับหอยนางรมมากยิ่งขึ้น
ของหวาน
หลังจากอิ่มหนำสำราญไปแล้วกับอาหารทะเลปิ้งย่าง และหอยนางรมสดส่งตรงจากสุราษฎร์ คราวนี้มาถึงของหวานเพื่อล้างปากกันค่ะ แต่เมนูของหวานนี้ทางร้านแถมให้ทุกโต๊ะไม่เสียค่าบริการค่ะ
อร่อยไปกับ "พานาคอตต้า" เยลลี่รสนม หน้าเสาวรส และสตรอเบอร์รี่
เนื้อนมหอมมัน รสชาติหวาน เนื้อสัมผัสนิ่มๆ แต่แอบเปรี้ยวด้วยเสาวรส
ถ้าถามว่าชอบอันไหนมากกว่าระหว่างพานาคอตต้ารสเสาวรส และพานาคอตต้ารสสตรอเบอร์รี่ โดยส่วนตัวแล้วชอบรสสตรอเบอร์รี่มากกว่าค่ะ เพราะด้วยความที่พานาคอตต้าเป็นนม คล้ายๆเยลลี่ จะกินอร่อยกว่า และเข้ากันได้ดีกว่าหากได้อะไรหวานๆมากินคู่กัน แต่แล้วแต่คนชอบเลยค่ะ รสเสาวรสอาจจะเปรี้ยวไปสักหน่อย แต่อาจจะอร่อยถูกใจใครบางคนก็เป็นได้
การเดินทาง
การเดินทางมายังร้าน A Sea Bar ง่ายนิดเดียวกันค่ะ โดยหากมาจากถนนศรีนครินทร์ก็ตรงมาเรื่อยๆ และผ่านห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ (Seacon Square) และศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค (Paradise Park) และยังคงขับตรงต่อไป จนกระทั่งเจอสี่แยกถนนอุดมสุข จากนั้นให้เลี้ยวขวาค่ะ (ก่อนเจอสี่แยก จะเจอทางลงใต้ดิน ห้ามลงใต้ดินค่ะ ให้เบี่ยงออกซ้าย จากนั้นจะเจอสี่แยก)
หลังจากเลี้ยวขวามาแล้ว ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ แต่ยังคงชิดซ้ายไว้อยู่ โดยซอยแรกที่จะเห็นคือซอยอุมดมสุข 60 โดยมีป้ายบอกไว้ชัดเจน จากนั้นจึงเป็นซอยอุดมสุข 58
ป้ายบอกชัดเจน ไม่หลงแน่นอน
สามารถเข้าได้ 2 ทางค่ะ จากซอยอุดมสุข 58 หลังจากเลี้ยวเข้าซอยแล้ว จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ใกล้กับถนนใหญ่เลยทีเดียว มีที่จอดบริเวณข้างร้านประมาณ 2 - 3 คัน
ส่วนอีกทางหนึ่งคือ เลี้ยวเข้าโครงการอุดมสุข มาร์เก็ต เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเจอก่อนถึงซอยอุดมสุข 58 ค่ะ เมื่อเข้ามาในโครงการแล้ว ให้ขับตรงไปก่อน เมื่อเจอลานจอดรถให้เลี้ยวขวาไปตามทางค่ะ ร้าน A Sea Bar จะอยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดเหลือเฟือในโครงการ และหน้าร้านก็มีที่จอดค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
4 |
|
บรรยากาศ |
4.5 |
|
การบริการ |
4.5 |
|
ความคุ้มค่า |
3.5 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
4.1 |
หลังจากเพลิดเพลินไปกับอาหารทะเลหลายชนิด ฟินสุดๆด้วยกุ้งมังกรตัวโตเนื้อแน่น หรือจะเป็นกุ้งลายเสือตัวใหญ่ที่ยิ่งปิ้งยิ่งอร่อย และได้รสชาติความสดใหม่ หรือจะเอาหอยนานาชนิดปิ้งเตาถ่าน หอม หวาน และอร่อยทุกคำ ยิ่งจิ้มน้ำจิ้มรสแซ่บยิ่งอร่อยอย่างบอกใคร ทีมงาน RyoiiReview ขอบอกว่าร้าน A Sea Bar สอบผ่านทั้งในเรื่องบรรยากาศร้าน วัตถุดิบ รสชาติอาหาร และการบริการค่ะ
โดยเฉพาะการบริการที่พนักงานค่อนข้างเอาใจใส่ลูกค้า ค่อยสอบถามว่าต้องการความช่วยเหลือไหม และค่อยนำเศษเปลือกกุ้ง และหอยนำไปทิ้งสม่ำเสมอ แถมยังช่วยปิ้งอีกด้วย (เพราะดูท่าแล้วปิ้งเองน่าจะไม่รอด) เผลอๆอาจจะอร่อยกว่าที่ปิ้งเองซะอีก แต่น้ำจิ้มยังต้องพัฒนาสูตรอีกนิดนะค่ะ เอาให้แซ่บเวอร์กว่าร้านอื่นๆ แต่ถ้ากลัวลูกค้าเผ็ดก็ลองทำหลายๆแบบหรือแบ่งเป็นอันไหนเผ็ดน้อย เผ็ดปานกลางหรือเผ็ดมากจะดีมาก มีให้เลือกเยอะดีกว่ามีขาดนะค่ะ และเพิ่มเครื่องเคียงให้กับเมนูหอยนางรมสดด้วยจะดีมากค่ะ เพราะจะได้กินกับหอยแบบเพลินๆ แถมดึงความหวานจากตัวเนื้อหอยให้มากขึ้นอีก
ในเรื่องของราคา หลายท่านอาจจะมองว่าราคาค่อนข้างสูง หากเปรียบเทียบกับบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่เริ่มต้นราคา 499 บาทต่อท่าน ในข้อนี้ทีมงาน RyoiiReview เห็นด้วยค่ะว่าราคาค่อนข้างสูง และโดดมาจากร้านอื่นๆ แต่ด้วยจุดเด่นของร้านที่เน้นการกินแบบชิลๆ ไม่จำกัดเวลา ปิ้งแบบเพลินๆ พร้อมการบริการที่เต็มที่ และวัตถุดิบที่รับรองว่าสดใหม่ และคุณภาพดี ก็ถือว่าราคานี้ใช้ได้ค่ะ แถมมีกุ้งมังกรที่ราคาประมาณ 1,200 หรือมากกว่านั้นต่อหนึ่งกิโลกรัม หากสั่งเซตกุ้งมังกรถือว่าคุ้มค่ะ แต่ที่น่าจะมัดใจลูกค้ามากกว่านี้คือเครื่องดื่มค่ะ ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง หากในเพิ่มรายการเครื่องดื่มเข้ามาในเซตด้วย แบบรีฟิลหรือเติมได้ไม่อั้นจะดีมากค่ะ
แต่โดยรวมแล้ว ร้าน A Sea Bar ถือว่าสอบผ่านในเกณฑ์ดีค่ะ ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ เห็นแล้วต้องตาลุกวาว เพราะมันสดจริงๆ และอุปกรณ์ เตา และงานบริการที่ชนะเลิศ แต่อาจจะมีข้อบกพร่องบ้างในเรื่องของน้ำจิ้ม และราคาซึ่งสามารถปรับปรุงกันได้ ร้าน A Sea Bar อุดมสุข 58 เป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าลอง แวะไปชิมกุ้งมังกรตัวบิ๊ก และอาหารทะเลสดๆแบบปิ้งย่างในเวลาชิลๆค่ะ
ศุกร์ - อาทิตย์ 16.00 - 23.00 น.
