[รีวิว] Lady L Garden Bistro ร้านเลดี้แอล​ ปาร์คนายเลิศ พบกับอาหารสไตล์ตะวันตกบรรยากาศอบอุ่นละมุนทุกมุมที่บ้านปาร์ค นายเลิศ @ถนนเพลินจิต

          Lady L Garden Bistro หรือร้านเลดี้แอล บรรยากาศคลาสสิกที่ภายในร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบหรูดูดีและทันสมัย ช่วยเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกระหว่างมื้ออาหารให้อบอุ่น เหมาะชวนครอบครัว ชวนคนที่รักมาฉลองแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งร้าน Lady L Garden Bistro Lady ก่อตั้งขึ้นเพื่ออุทิศถึงท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ โดยที่มาชื่อร้านคำว่า Lady หมายถึง ท่านผู้หญิง ส่วน L ย่อมาจากเลอศักดิ์ ซึ่งเมนูอาหารและการตกแต่งร้านทั้งหมดได้แรงบันดาลใจจากท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ โดยอาหารที่ร้านเป็นอาหารตะวันตกสไตล์ Home Cook (โฮมคุ๊ก) เน้นอาหารฝรั่งอย่าง สตู สปาเกตตี ซุป สลัด เค้ก ครัวซ็องสไตล์ฝรั่งเศส เป็นต้น

 

 

          โดยสูตรของอาหารของที่นี่ก็มาจากสูตรของที่บ้านท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ ที่ท่านทำทานประจำ จากแต่ก่อนมีเฉพาะลูกค้าระดับผู้ใหญ่นิยมเข้ามาทาน แต่ปัจจุบันหลายครอบครัวพาลูกๆ มาทาน จึงมีเด็กรุ่นใหม่แวะมาทานที่ร้านมากกว่าเดิม ทางร้านจึงได้มีการปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นค่ะ  

 

การเดินทาง

          สำหรับลูกค้าที่เดินทางมาด้วยรถส่วนตัวให้วิ่งเส้นถนนเพลินจิตมุ่งหน้าถนนสุขุมวิทค่ะ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสมคิด (ข้างเซ็นทรัลชิดลม) และตรงเข้ามาประมาณ 300 เมตร ร้านจะอยู่ทางด้านขวามือค่ะ

 

ภาพจากเฟสบุ๊คร้าน Lady L Garden Bistro

          ถ้าหากโดยสารด้วยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีชิดลม ประตูทางออก 3 แล้วเดินมาทางเซ็นทรัลชิดลม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสมคิด และเดินต่อเข้ามาอีก 300 เมตร จุดสังเกตคือสะพานไม้ข้ามคลองค่ะ หากมาในช่วงเวลาที่เซ็นทรัลชิดลมเปิดทำการ สามารถใช้ประตูทางออก 5 เพื่อเดินไปยังซอยสมคิดได้ค่ะ

 
 

เมนูและราคา

          Lady L Garden Bistro หลายเมนูทางร้านได้ใช้น้ำมันมะกอกที่คัดสรรอย่างดีในการปรุงอาหาร ประโยชน์น้ำมันมะกอกจะช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล แถมช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารทำงานมีประสิทธิภาพ ถือว่าเป็นผลดีต่อลูกค้าที่ค่อนข้างมีอายุเลยค่ะ ที่สำคัญทางร้านเลือกวัสดุคุณภาพใช้ทำอาหารอย่างเนื้อแกะนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย และจะมีเนื้อบางชนิดที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ

          สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะมีสตูหางวัว สปาเกตตี ซุปข้นปู ครัวซ็องสไตล์ฝรั่งเศสที่ทางร้านบอกว่าเน้นความกรอบนอกนุ่มใน เป็นต้น สำหรับราคาเมนูอาหารที่ร้านเริ่มต้นที่ 300 บาทขึ้นไปค่ะ

 

บรรยากาศภายในร้าน

          ใครมาที่ร้าน Lady L Garden Bistro จะต้องผ่อนคลายอารมณ์ไปกับสีเขียวสบายตาของต้นไม้ภายในร้าน กับการตกแต่งที่เรียบหรูสบายตา และอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารตะวันตกแบบ Home Cook (โฮมคุ๊ก) เหมือนมีเชฟมาทำให้อาหารให้ทานที่บ้านค่ะ ยิ่งมาตอนสาย เจอแสงแดดอ่อนๆ มุมโซฟานุ่มๆ นั่งสบายๆ ทานกันไปคุยกันเพลิดเพลินกับอาหารสไตล์ตะวันตกมากขึ้น และภายในร้านยังมีบริการ Wi-Fi และที่จอดรถฟรีประมาณ 40 คันค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าดูสง่าและแฝงด้วยความสงบ

 

 

แสงสว่างด้านนอกทำให้ภายในร้านดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

 

 

 

 

 ภาพวาดท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ ดึงดูดความสนใจให้หยุดมองเลยค่ะ

 

 

 

 

Parma Ham, Mozzarella, Nectarines and Figs พามาแฮม ชีสมอสซาเรลล่า เนคทารีนและลูกฟิก (550 บาท)

          ใครอยากลองพามาแฮม แฮมชิ้นบางใสกำลังน่าทาน และมีมอซซาเรลล่าชีสเพิ่มความสดชื่น ตามมาด้วยประโยชน์จากผักอย่างมะเขือเทศ มะเดื่อ ลูกฟิก เมนูนี้ห้ามพลาดค่ะ

พามาแฮม ชีสมอสซาเรลล่า เนคทารีนและลูกฟิก (550 บาท)

Braised Oxtails with Mashed Potatoes and Sauteed Vegetables หางวัวตุ๋นไวน์แดง มันฝรั่งบดและผักรวม (750 บาท)

          หางวัวตุ๋นไวน์แดงจัดว่ามีความนุ่มละมุนเฉพาะตัวค่ะ ใครสั่งมาทานเตรียมซึมซับรสชาติความนุ่มเลยค่ะ

หางวัวตุ๋นไวน์แดง มันฝรั่งบดและผักรวม (750 บาท) 

 

 

Beef Wellington, Red Wine sauce แป้งพายสอดไส้ เนื้อสันใน เห็ด ตับบด ไวน์แดง (1,380 บาท)

          คนชอบทานพายและยังการทานเนื้อ เมื่อได้มาลองเนื้อสันในที่ซุกซ่อนอยู่บนแป้งพายรับรองเตรียมติดใจได้เลยค่ะ

 แป้งพายสอดไส้ เนื้อสันใน เห็ด ตับบด ไวน์แดง (1,380 บาท)

 

Crab Bisque ซุปข้นปู (360 บาท)

          ซุปข้นปูทางร้านใช้เนื้อปูทั้งตัวรวมถึงกระดองเป็นส่วนประกอบ และได้กรองเอาเปลือกออกโดยข้างในจะมีส่วนผสมของครีม เกลือ พริกไทย ส่วนซุปเหมาะกับคนชอบทานออกรสเค็มนิดๆ โดยรวมเมนูนี้อารมณ์เหมือนได้ทานขนมปังชั้นดี พร้อมซุปสูตรพิเศษกับเนื้อปูค่ะ

Crab Bisque ซุปข้นปู (360 บาท)

 

 

Homemade Angel Hair with Truffle Cream Sauce เส้นแองเจิลแฮร์ ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล (460 บาท)

          สปาเกตตีซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล เส้นสุกกำลังดี และราดซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล น่าจะถูกใจคนรักสปาเกตตีมากทีเดียว

เส้นแองเจิลแฮร์ ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล (460 บาท)

Carpaccio of Scallop, Lemon Vinaigrette (450 บาท)

          หอยเชลล์สดคาร์ปาชโช่ เลมอนวินีเกรท จะเป็นเมนูที่ทำช่วงเทศกาล Mediterranean Flavours at Lady L Garden Bistro ค่ะ

Carpaccio of Scallop, Lemon Vinaigrette (450 บาท)

 

Sticky Toffee Pudding with Homemade Salted Caramel Ice Cream พุดดิ้งอินทผลัม ซอสบัทเตอร์สก๊อตซ์ (320 บาท)

          ทางร้านบอกว่าพุดดิ้งอินทผลัม ซอสบัทเตอร์สก๊อตซ์ นับว่าเป็นเมนูหมวดของหวานที่ขายดีของร้านค่ะ

พุดดิ้งอินทผลัม ซอสบัทเตอร์สก๊อตซ์ (320 บาท)

 

 

เมลอนเค้ก 320 บาท ต่อชิ้น

          เมลอนเค้กน่าจะเป็นสวรรค์ของคนรักเค้กยามบ่าย เจออากาศร้อนๆ เข้าไป แวะเข้ามาพักผ่อนทานเค้กและเครื่องดื่มเพลินๆ ฟินค่ะ ยิ่งเจอเมลอนจากญี่ปุ่นที่มีความหอมโดยธรรมชาติ ซึ่งทางร้านบอกว่าไม่ได้ปรุงแต่งกลิ่นเพิ่ม และมีไอศกรีมโฮมเมด แถมด้านในเป็นครีมสด น่าจะเป็นของหวานที่ตอบโจทย์ทั้งคนชอบเค้กและไอศกรีมในเมนูเดียวกัน สำหรับเมนูนี้ลูกค้าต้องสั่งล่วงหน้า 1-2 วัน เพราะทางร้านบอกว่าเค้กทำสดทุกวันค่ะ

เมลอนเค้ก 320 บาท ต่อชิ้น

 

 

ครัวซ็องอีกเมนูที่ขึ้นชื่อของที่นี่

 

 

เค้กของทางร้านทำสดใหม่ทุกวันค่ะ

 

 

 

เครื่องดื่ม

          ทางร้านมีน้ำเปล่าจำหน่ายในราคาขวดละ 35 บาท แต่ถ้าใครอยากดื่มน้ำชาทางร้านจะมีเสิร์ฟเป็นเหยือก ราคามีตั้งแต่ 140-150 บาทค่ะ

น้ำเปล่าขวดละ (35 บาท)

 

น้ำชาจะเสิร์ฟเป็นเหยือก ราคามีตั้งแต่ (140-150 บาท)

 

 

สรุปเมนูรสชาติอาหาร

Parma Ham, Mozzarella, Nectarines and Figs พามาแฮม ชีสมอสซาเรลล่า เนคทารีนและลูกฟิก (550 บาท) : พามาแฮมเค็มกำลังดี และยังมีผักนานาชนิดอย่างมะเขือเทศสด ลูกมะเดื่อรสชาติออกหวาน ลูกฟิกยิ่งทานยิ่งรู้สึกสดชื่น มอซซาเรลล่าชีสรสนุ่มสดชื่นไปอีกแบบค่ะ

Braised Oxtails with Mashed Potatoes and Sauteed Vegetables หางวัวตุ๋นไวน์แดง มันฝรั่งบดและผักรวม (750 บาท) : หางวัวตุ๋นไวน์แดงมีความนุ่มเฉพาะตัว มันไม่เยอะ ทานแล้วไม่เลี่ยน ยิ่งทานกับมันฝรั่งบดที่เนื้อเนียน และยังมีผักรวมที่คอยเพิ่มรสชาติให้หางวัวตุ๋นกลมกล่อมยิ่งขึ้นค่ะ

Beef Wellington, Red Wine sauce แป้งพายสอดไส้ เนื้อสันใน เห็ด ตับบด ไวน์แดง (1,380 บาท) : แป้งพายไม่แข็งแป้งมีความนุ่ม ส่วนเนื้อสันในย่างมาสุกระดับแรร์ซึ่งเนื้อด้านในจะเป็นเนื้อแดงๆ อยู่บ้าง สำหรับคนชอบการย่างที่มีความสุกมากกว่านี้ต้องรีบแจ้งทางร้านนะคะ ถ้าคนไม่ชอบทานสุกจนเกินไป ความสุกระดับนี้นุ่มชุ่มฉ่ำโดนใจมากค่ะ ทานกับซอสที่มีความเค็มเบาๆ มีเครื่องเคียงมันกับหน่อไม้ฝรั่งที่เข้ากันดีทั้งแป้งพายและเนื้อสันในค่ะ

Crab Bisque ซุปข้นปู (360 บาท) : ซุปข้นปูเนื้อปูแน่นและมีความหอมชัด ได้ทานเนื้อปูแบบเน้นๆ ซุปมีส่วนผสมครีม เกลือ พริกไทย แถมเหมาะกับคนชอบรสชาติออกไปทางเค็ม ยิ่งตอนซุปเริ่มเย็นจะเริ่มเค็มไปนิดนึง ทางร้านแนะนำให้ทานตอนร้อนๆ นะคะ แนะนำให้ทานคู่กับแป้งพายร้อนๆ ด้านบนถึงจะได้รสชาติพอดีกันค่ะ

Homemade Angel Hair with Truffle Cream Sauce เส้นแองเจิลแฮร์ ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล (460 บาท) : สปาเกตตีซอสเห็ด แองเจิ้ลครีมซอสทางร้านใส่น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลเข้าไปช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซอสนัวและชุ่มกำลังดีก็ช่วยเพิ่มความนุ่มให้กับเส้นด้วยค่ะ

Carpaccio of Scallops, Lemon Vinaigrette หอยเชลล์สดคาร์ปาชโช่ เลมอนวินีเกรท (450 บาท) : อาหารเมดิเตอร์เรเนียนฟู้ดจะเน้นที่ซอสโอลีฟ เมนูนี้มีส่วนผสมจากน้ำมันมะกอก และมีผิวเลมอนเพิ่มความเปรี้ยวนิดๆ ส่วนหอยเชลล์สีขาวถูกสไลซ์แบบบางๆ ทานง่าย และยังมีแตงกวาญี่ปุ่นวางด้านบน โดยรวมเมนูนี้ให้อารมณ์เหมือนทานน้ำมันมะกอกคู่กับหอยเชลล์ ทานสดชื่นคล้ายทานเมนูยำสไตล์ไทยๆ ค่ะ

Sticky Toffee Pudding with Homemade Salted Caramel Ice Cream พุดดิ้งอินทผลัม ซอสบัทเตอร์สก๊อตซ์ (320 บาท) : ทางร้านบอกว่าพุดดิ้งทำจากอินทผลัม เนื้อหนึบน่าทานกำลังดี ซอสบัทเตอร์สก๊อตซ์ที่ราดมีความหวานจากคาราเมลซอส ส่วนไอศกรีมทีมงานได้ทานรสชาติคาราเมล ความหวานของไอศกรีมทานแล้วเข้าคู่กับพุดดิ้งอินทผลัม แต่ใครที่อยากทานไอศกรีมรสอื่นยังมีรสช็อกโกแลตและวานิลลาให้ได้ลองค่ะ สำหรับไอศกรีมอาจมีการเปลี่ยนแปลงรสชาติในแต่ละวันได้ค่ะ ลูกค้าโปรดสอบถามพนักงานก่อนสั่งได้นะคะ

เมลอนเค้ก 320 บาท : เมลอนของทางร้านเป็นของญี่ปุ่น เนื้อเลมอนนุ่มหอมและหวานอย่างธรรมชาติ เข้ากันดีกับเนื้อเค้กเนียนๆ ที่ทางร้านทำสดใหม่ค่ะ

 

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.0
บรรยากาศ	4.1
การบริการ	4.0
ความคุ้มค่า	3.9
คะแนนเฉลี่ย	4.0

 

 

จุดเด่นของร้าน Lady L Garden Bistro

1. ในเรื่องของเมนูทางร้านเลือกสรรและทำวัตถุดิบด้วยตัวเอง เช่น เส้นสปาเกตตี ขนมปัง ซอสต่างๆ หรือไอศกรีมที่เป็นแบบโฮมเมด ส่วนบางเมนูนำเข้ามาจากต่างประเทศอย่าง เนื้อแกะนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย และจะมีเนื้อบางชนิดที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ ส่วนของหวานเมลอนเค้ก เมลอนถูกนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และทางร้านใช้เทคนิคการปรุงโดยเอาความชื่นชอบของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์และครอบครัวเป็นหลักในการรังสรรค์แต่ละเมนูค่ะ

2. Lady L Garden Bistro ทางร้านใส่ใจสุขภาพลูกค้าโดยเลือกใช้น้ำมันมะกอกที่คัดสรรอย่างดีปรุงอาหาร ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากน้ำมันมะกอกเช่น ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล ช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไปในตัวด้วยค่ะ

3. สำหรับเมนูที่ทีมงานประทับใจคือ “แป้งพายสอดไส้ เนื้อสันใน เห็ด ตับบด ไวน์แดง” ยิ่งคนที่ชอบทานแป้งพายและเนื้ออยู่แล้ว เมื่อได้มาลองเนื้อสันในสุกระดับแรร์ที่อยู่ข้างในแป้งพาย จะรู้สึกทั้งนุ่มทั้งฉ่ำเต็มคำ ทานแล้วเข้าคู่กับแป้งพายนุ่มกรอบดีค่ะ ส่วนเมนูเอาใจคนรักผักแต่ยังได้ความอร่อยคือ "พามาแฮม ชีสมอสซาเรลล่า" พามาแฮมเนื้อบางกำลังดีเข้ากับรสชีส ทานพร้อมลูกเดื่อ ลูกฟิก แล้วเข้ากันมาก ส่วนหางวัวตุ๋นไวน์แดงจะมีกลิ่นของเนื้อชัดแต่ไม่คาวค่ะ เนื้อนุ่ม ไม่แห้งและไม่เหนียว ทานแล้วเข้ากับมันบดที่เนื้อเนียนและหอม ส่วนของหวานอย่าง “เมลอนเค้ก” ที่เลมอนจากญี่ปุ่นจะมีความนุ่มและหอม และหวานอย่างเป็นธรรมชาติ อีกเมนูของหวานที่โดนใจคือ “พุดดิ้งอินทผลัม” ที่ความหอมหวานจากเนื้ออินทผลัมจะไม่หวานมาก ทานแล้วไม่เลี่ยน พุดดิ้งกับอินทผลัมเป็นการผสมกันแบบลงตัวเลยค่ะ

4. ร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวและเขียวเป็นสีที่ดูกลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติของร้านที่มีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ หลังคามีความโปร่งแสง แสงสามารถผ่านลงมาทำให้ร้านดูสว่างและดูโปร่งมากขึ้น มองแล้วไม่ทึบตาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งภายในและภายนอกก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตาระหว่างรับประทานอาหารค่ะ

5. ทางร้านมีบริการ Wi-Fi ฟรี พร้อมที่จอดรถรองรับได้ประมาณ 40 คันค่ะ

6. พนักงานต้อนรับด้วยรอยยิ้มตั้งแต่หน้าประตู ซึ่งในวันที่ทีมงานไปรีวิวเป็นวันที่ฝนตก พนักงานก็มีความกระตือรือร้นที่จะบริการทุกสถานการณ์โดยทำหน้าที่ต้อนรับได้อย่างดี และมีพนักงานคอยเก็บโต๊ะตลอด หากลูกค้าต้องการทราบข้อมูลเมนูใดพนักงานก็พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ค่ะ

ข้อเสนอแนะ

1. ทางร้านเน้นทำอาหารสไตล์ตะวันตกและฝรั่งเศส สำหรับใครที่อาจไม่คุ้นชินอาหารสไตล์ตะวันตก แนะนำให้ทานคู่กับผักและผลไม้ที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน จะช่วยตัดเลี่ยนได้ระดับหนึ่งโดยที่ไม่กลบรสชาติอาหารค่ะ แถมผักและผลไม้นอกจากช่วยตัดเลี่ยนได้ดี ยังเพิ่มสีสันให้อาหารแต่ละเมนูดูน่าทานมากขึ้นค่ะ 

2. สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ค่อยได้มาร้านอาหารสไตล์นี้อาจมองว่าราคาอาหารของทางร้านสูงอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่มีใจรักการถ่ายรูป และชื่นชอบการถ่ายภาพวิวหรือภาพตัวเองกับบรรยากาศเรียบหรูแบบเปิดโล่งรับธรรมชาติ แค่ได้มาเก็บภาพสวยๆ ก็รู้สึกคุ้มค่ากับการได้มาที่นี่แล้วค่ะ

          ร้านอาหาร Lady L Garden Bistro บรรยากาศอบอุ่นทุกมุม เหมาะกับการนั่งทานอาหารสบายๆ เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ตะวันตกสูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งเมนูอาหารและการตกแต่งร้านสไตล์เรียบหรูผสมผสานความคลาสสิกที่ได้แรงบันดาลใจจากท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ และครอบครัว หากชอบสไตล์นี้ก็อยากให้มาลิ้มลองกันได้ที่ร้าน Lady L Garden Bistro แล้วคุณจะสุขและสนุกกับบรรยากาศร้านและเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ