รีวิว Dookki Topokki บุฟเฟ่ต์เกาหลี ราคา 299 Net ทานได้ 1.30 อิ่มไม่อั้น พร้อมสัมผัสรสชาติซอสเกาหลีถึง 7 รสชาติ @สาขาอาคารสยามกิตติ์

        안녕하십니까. (อันนยองฮาชิมนีกา) ทักทายกันด้วยภาษาเกาหลีแบบนี้แน่นอนว่าวันนี้ Ryoii มีร้านอาหารเกาหลีมาฝากเพื่อนๆ กันอีกเช่นเคย  และแน่นอนว่ามาครั้งนี้บอกเลยว่าคุ้มสุดคุ้ม เพราะว่าจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับร้าน Dookki Topokki ร้านอาหารเกาหลีบุฟเฟ่ต์ที่นอกจากราคาจะสุดคุ้มแล้ว ทางร้านยังโดดเด่นไปด้วยน้ำซอสถึง 7 รสชาติด้วยกัน และมาพร้อมรายการอาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่มรวมทั้งหมดนี้ราคา 299 บาท Net รู้แบบนี้แล้วก็ตามมาดูกันค่ะว่ามีเมนูไหนน่าทานบ้าง 

 

พากินบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลี Dookki Topokki ราคา 299 บาท Net‼️ @สาขาสยามกิตติ์

 

การเดินทาง

        สำหรับการเดินทางไปร้าน Dookki Topokki สาขาสยามกิตติ์ ร้านตั้งอยู่ย่านสยามสแควร์ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม จากนั้นเดินเข้าไปที่อาคารสยามกิตติ์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสยามสแควร์ ซอย 7 โดยร้านจะอยู่บริเวณชั้น G จุดสังเกตคือหน้าร้านมีบันไดเลื่อนขึ้น-ลงค่ะ 

 

แผนที่ร้าน : 486/5 สยามสแควร์ ซอย 7 ต. ปทุมวัน อ. เขตปทุมวัน จ. กรุงเทพมหานคร 

 

บรรยากาศภายในร้าน

        เมื่อเดินทางมาถึงหน้าร้าน Dookki Topokki สาขาสยามกิตติ์ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศร้านที่เน้นโทนสีขาว และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลายไม้สีน้ำตาลอ่อน โดยไลน์อาหารของทางร้านจะมีให้เลือกหลายรายการ ซึ่งสามารถเดินตักเองได้เลยค่ะ 

 

บริเวณหน้าร้านค่ะ

ทางร้านมีที่นั่งให้เลือกหลายโซน ถูกใจโซนไหนก็จัดเลยค่ะ

 

เมนูอาหารและราคา

        ร้าน Dookki Topokki เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลีในราคา 299 บาท Net ทานได้ 1.30 ชั่วโมง โดยคอนเซ็ปต์ของที่ร้านจะเป็นการอิ่มอร่อยแบบ 2 สเต็ป คือ สเต็ปแรกเป็นการอิ่มไปกับเมนูสไตล์ต๊อกโบกี ที่มีรายการอาหารให้เลือกมากกว่า 20 รายการ และสเต็ปต่อไปเป็นการนำข้าวไปผัดกับน้ำซุปที่เหลือ จากนั้นใส่เครื่องเคียงได้เองตามความชอบ โดยเครื่องเคียงก็จะมีให้เลือกทั้ง ข้าวโพด แฮม หัวไชเท้าดอง สาหร่ายเส้น และกิมจิ 

        โดยจุดเด่นที่สำคัญของทางร้านอีกอย่างคือ "น้ำซอส" ที่มีให้เลือกถึง 7 รสชาติ โดยเพื่อนๆ สามารถเลือกผสมซอสได้เองตามใจชอบ หรือถ้าใครที่เลือกผสมไม่ถูก ทางร้านก็จะมีสูตรผสมซอสเขียนบอกไว้ค่ะ โดยจะมีอยู่ 4 สูตรด้วยกัน สูตรต้นตำรับ, สูตรสุดยอดซอส, สูตรมาเนีย และสูตรพุกทัน ซึ่งวันนี้เลือกเป็นสูตรมาเนียที่เป็นสูตรยอดนิยมมากที่สุดค่ะ 

 

สำหรับใครที่อยากทานมาม่าเกาหลีทางร้านก็มีพนักงานคอยให้บริการค่ะ

ไลน์อาหารต๊อกโบกีมีให้เลือกทั้งเส้น ผัก เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล

โซนซอสที่มีให้เลือกมากกว่า 7 รสชาติชอบแบบไหนก็จัดเลยค่ะ

 

        และนี่ก็คือหน้าตาเมนูที่เราเลือกมาในวันนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ผักสด เส้นต๊อก สามชั้น สันคอหมูสไลซ์ อกไก่สไลซ์เผ็ด ปลาหมึกบั้ง ลูกชิ้นปลา และเมนูทานเล่นอีกมากมาย ส่วนที่เด็ดที่ห้ามพลาดเลยคือ "ฟองดูว์ชีส" ราคา 120 บาท ทานคู่กันอร่อยสุดๆ ไปเลยค่ะ  

 

ไลน์อาหารสดที่ตักมาค่ะ

ผักของทางร้านค่อนข้างสด และมีให้เลือกหลากหลาย

แนะนำให้เพื่อนๆ เลือกน้ำซอสสูตรมาเนียนะคะ เป็นสูตรที่ทางร้านแนะนำเลยค่ะ

 

เมนูทานเล่น

ไก่ทอดซอสเกาหลี และไก่ทอดกรอบ 

        ทางร้านเลือกใช้เป็นเนื้อไก่ไม่มีกระดูก ชุปแป้งทอดกรอบกำลังดี รสชาติกลมกล่อม มีให้เลือกทั้งไก่ทอดธรรมดา และไก่ทอดซอสเกาหลี คลุกเคล้ามาด้วยซอสเกาหลีแบบฉ่ำๆ บอกเลยว่าใครที่ชอบทานไก่ทอดเกาหลีต้องจัดค่ะ 

 

 

มันเทศญี่ปุ่น, ยากี้มันดู, วุ้นเส้นห่อสาหร่าย 

        เป็นอีกเมนูที่อยู่ในโซนของทอด สำหรับใครที่ชอบทานของทอดแนะนำเลยค่ะ ​

 

 

ข้าวปั่นทูน่า, เต้าหู้ทอดห่อข้าวสไตล์เกาหลี, คิมบับ

        หากใครที่ชอบทานเมนูสไตล์ข้าวปั่น ทางร้านก็มีให้เลือก 3 อย่างด้วยกันคือ ข้าวปั่นทูน่า, เต้าหู้ทอดห่อข้าวสไตล์เกาหลี, คิมบับ ชอบเมนูไหนก็จัดเลยค่ะ 

 

 

โอเด้ง

        โอเด้งจะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ โอเด้งธรรมดา และโอเด้งเผ็ด ใครที่ชอบเผ็ดจัดจ้านต้องเลือกโอเด้งเผ็ดค่ะ รับลองถูกใจอย่างแน่นอน  

 

แนะนำสำหรับใครที่ตักน้ำโอเด้งระวังร้อนนะคะ เพราะที่ร้านใช้เป็นถ้วยสเตนเลส

 

ฟองดูว์ชีส ราคา 120 บาท (เพิ่มเติมจากราคาบุฟเฟ่ต์)

        หากใครที่ชอบทานชีสอยู่แล้ว แนะนำให้สั่งฟองดูว์ชีสมาด้วยค่ะ โดยชีสจะจัดมาในกระทะชีสอย่างดี ทานคู่กับเมนูไหนก็ฟินค่ะ 

 

 

ข้าวผัด 

        สำหรับข้าวผัดจานนี้เป็นฝีมือของเราเองค่ะ หน้าตาน่าทานมากเลยใช่ไหมค่ะ บอกเลยว่ารสชาติดีมากเลยค่ะเพื่อนๆ 

 

สรุปรสชาติอาหาร

น้ำซุปมาเนีย : น้ำซุปมีความเข้มข้นจากซอส รสชาติหวานนำตามด้วยรสชาติเค็มนิดๆ และให้ความรู้สึกเผ็ดอ่อนๆ โดยส่วนตัวชอบซุปรสชาตินี้ เพราะรู้สึกว่าเข้ากับทุกเมนูที่นำลงไปต้ม

ต๊อกโบกี : ต๊อกโบกีของที่ร้านมีให้เลือก 7 แบบด้วยกัน เมื่อน้ำเส้นต๊อกลงไปต้มกับน้ำซุปจนสุก ต๊อกจะมีความเหนียวนุ่ม ไม่เหนียวเกินไป 

สันคอหมู : สไลซ์มากำลังดีไม่หนาเกินไป เมื่อนำไปต้มกับน้ำซุป น้ำซุปซึมเข้าไปในเนื้อหมู ทำให้มีความรู้สึกหวานนำ ตามด้วยรสเค็มนิด เผ็ดอ่อนๆ 

สามชั้น : โดยส่วนตัวชอบสามชั้นสไลซ์ สามชั้นสไลด์มาบางกำลังดี ไม่หนาเกินไป น้ำซุปซึมเข้าไปได้ง่าย 

อกไก่สไลซ์เผ็ด : อกไก่ถูกหั่นมาชิ้นกำลังดีหมักด้วยซอสเผ็ด เมื่อนำลงไปต้มในน้ำซุป ตัวน้ำซุปซึมเข้าไปในเนื้อไก่ รสชาติตามด้วยรสเผ็ดนิดๆ โดยส่วนตัวรู้สึกว่ารสชาติการหมักยังไม่ชัด เพราะรสชาติน้ำซุปค่อนข้างเข้มข้นจนกลบรสชาติของอกไก่หมัก

ปลาหมึกบั้ง : ปลาหมึกมีความกรอบ น้ำซุปซึมเข้าได้ดี และถูกหั่นมาชิ้นพอดีคำ 

ผัก : ผักของที่ร้านมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ ซึ่งผักจะมีความสด สะอาด และถูกหั่นมากำลังดี

ลูกชิ้นปลา : ลูกชิ้นปลามีความเหนียวนุ่ม และมีความหวานนิดๆ เมื่อทานพร้อมน้ำซุปเข้ากันได้ดี

ไก่ทอดซอสเกาหลี : ไก่ไม่มีกระดูก ทอดกรอบ และคลุกเคล้าด้วยซอส โดยซอสมีรสชาติค่อนข้างหวานนำ ตามด้วยความเผ็ดอ่อนๆ มาตัดเลี่ยนของความหวาน สำหรับเมนูนี้ใครที่ชอบทานหวานอาจจะถูกใจ

ไก่ทอดกรอบ : ไก่ทอดกรอบ ไม่มีกระดูก รสชาติกลมกล่อม แนะนำให้ใส่ไปในหม้อน้ำซุปมาเนีย เมื่อน้ำซุปเข้าไปในเนื้อไก่ จะช่วยเพิ่มรสชาติให้เนื้อไก่มากขึ้น 

ยากี้มันดู : เป็นลักษณะแป้งเกี๊ยวซ่า เมื่อกัดเข้าไปข้างในให้ความรู้สึกถึงเครื่องเทศอ่อนๆ โดยส่วนตัวมองว่าเมื่อทานเปล่าๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ แนะนำให้ใส่ลงไปในหม้อต้ม เมื่อน้ำซุปซึมเข้าไปข้างใน ช่วยเพิ่มรสชาติให้มากขึ้น

วุ้นเส้นห่อสาหร่าย : ข้างในเป็นวุ่นเส้นที่ห่อด้วยสาหร่ายชุปแป้งทอด เมื่อทานคำแรกรู้สึกถึงความแน่นของวุ้นเส้น นุ่มนิ่ม ไม่เหนียว ทานเป็นเครื่องเคียงกำลังดีค่ะ 

ข้าวปั่นทูน่า : ข้าวปั่นมาคำใหญ่กำลังดี สัมผัสได้ถึงเนื้อของทูน่า ซึ่งตัวข้าวมีความหอม และกลมกล่อมกำลังดี 

เต้าหู้ทอดห่อข้าวสไตล์เกาหลี : โดยส่วนตัวมองว่าเมนูนี้ทั้งข้าวและเต้าหู้รสชาติออกหวานนำไปนิด สำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานอาจจะไม่ถูกใจ 

โอเด้ง : โอเด้งของที่ร้านเนื้อแน่น นุ่ม และมีรสชาติค่อนข้างดี โดยจะมีให้เลือก 2 แบบคือ โอเด้งแบบเผ็ดกับธรรมดา ใครที่ต้องการความเผ็ดจัดจ้านต้องทานโอเด้งรสเผ็ดเลยค่ะ

ฟองดูว์ชีส : ชีสของที่ร้านมีรสชาติค่อนข้างดี แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ เข้ากันได้ทุกเมนูเลยค่ะ

ข้าวผัด : เมื่อนำข้าวไปผัดกับน้ำซุปที่เหลือ น้ำซุปจะเข้าไปซึมในตัวข้าว ให้รสชาติกลมกล่อม มีความเข้มข้นของซอส แบบเต็มๆ คำ

กิมจิ : กิมจิรสชาติเข้มข้น ไม่เค็ม และไม่เปรี้ยวเกินไป 

 

การประเมิน และให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.25
บรรยากาศ	4.00
การบริการ	4.00
ความคุ้มค่า	3.90
คะแนนเฉลี่ย	4.037

 

จุดเด่นของร้าน Dookki Topokki

1. ร้าน Dookki Topokki เป็นร้านอาหารเกาหลีสไตล์บุฟเฟ่ต์ราคา 299 บาท Net ราคานี้รวม VAT แล้ว ทานได้ 1.30 ชั่วโมงไม่อั้นทุกเมนู

2. ทางร้านโดดเด่นเรื่องน้ำซอสที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน และมีให้เลือกถึง 7 ซอสด้วยกัน โดยสามารถเลือกผสมเองได้ตามต้องการ หรือจะเลือกผสมตามสูตรที่ร้านแนะนำ เช่น สูตรต้นตำรับ, สูตรสุดยอดซอส, สูตรมาเนีย และสูตรพุกทัน 

3. ในส่วนของรายการอาหารทานเล่น ของที่ร้านรสชาติค่อนข้างดี เช่น โอเด้งที่มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ทั้งโอเด้งธรรมดา และโอเด้งเผ็ด รวมไปถึงน้ำซุปโอเด้งสามารถตักมาซดร้อนๆ ได้ 

4. เครื่องดื่มรีฟิลเป็นรูปแบบให้บริการตัวเอง โดยจะมีตู้กดน้ำและถังน้ำแข็งไว้บริการ

5. พนักงานภายในร้านให้บริการค่อนข้างดี และคอยให้คำแนะนำตามโซนอาหารจุดต่างๆ

6. บรรยากาศของที่ร้านค่อนข้างโปร่ง นั่งสบาย ไม่แออัด และไม่ได้กลิ่นควันจากหม้อต้ม

ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ

1. เนื่องจากร้านเป็นรูปแบบบุฟเฟ่ต์ โดยส่วนตัวมองว่าไลน์อาหารส่วนเนื้อสัตว์มีให้เลือกค่อนข้างน้อย แต่ถ้าเทียบกับราคาก็ถือว่าคุ้มค่า 

2. ราคาบุฟเฟ่ต์ผู้ใหญ่ 299 บาท Net /เด็กราคา 199 บาท Net (ส่วนสูงต่ำกว่า 110 ซม. ทานฟรี)

3. สำหรับใครที่อยากเพิ่มเติมในส่วนของฟองดูว์ชีส ราคา 120 บาท เป็นรายการนอกเหนือจากราคาบุฟเฟ่ต์ 

4. ไลน์บุฟเฟ่ต์ของทางร้านไม่มีของหวานให้บริการ

 

        เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับร้าน Dookki Topokki ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลีที่ Ryoii นำมาฝากในวันนี้บอกได้เลยว่าน่าทานมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ หากใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายอาหารเกาหลีตัวจริงบอกเลยว่าต้องตามไปค่ะ เพราะที่ร้านมีความโดนเด่นเรื่องน้ำซอสที่มีให้เลือกถึง 7 รสชาติด้วยกัน เลือกทานกันแบบฟินๆ ได้เลยค่ะ และวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน ถ้าครั้งหน้ามีร้านไหนเด็ดๆ ดังๆ จะนำมาฝากเพื่อนๆ อีกนะคะ