[รีวิว] บ้าน บ้าน ชาบู-ปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ไม่จำกัดเวลาในราคา 199฿++ เครื่องดื่มรีฟีล30฿ (เป็น 229฿/คน net.)

          มาแล้วๆ ไหน ไหน ใครกำลังรอการรีวิวบุฟเฟ่ต์แบบจุใจ แถมไม่จำกัดเวลาอยู่บ้างงง อิอิ และแน่นอนว่าวันนี้ Ryoii จะมาสนอง need ให้ทุกๆ คนกันค่าาาา กับร้าน "บ้าน บ้าน ชาบู - ปิ้งย่าง" ย่านร่มเกล้า บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์ร้านนี้เค้าไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะมีให้เลือกทั้งแบบปิ้งย่าง และชาบู ในราคา 229฿ net/คน (รวมเครื่องดื่มรีฟีล 30฿ ราคาบุฟเฟ่ต์อย่างเดียว 199฿/คน) **ทานได้ไม่จำกัดเวลา

          ร้านบ้าน บ้าน ชาบู - ปิ้งย่าง ร้านนี้อยู่ย่านร่มเกล้าค่ะ เป็นร้านชาบู - ปิ้งย่างที่สามรถทานได้แบบไม่จำกัดเวลา ตั้งแต่ 12:00 - 24:00น. เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นแค่วันอังคารค่ะ (แต่ถ้าวันอังคารตรงกับวันหยุดนนักขัตฤกษ์ทางร้านก็จะเปิดให้บริการตามปกติค่ะ) ไลน์อาหารของทางร้านมีให้เลือกทั้งหมู เนื้อ ท้องแซลมอน ซีฟู้ด กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นและผักต่างๆ ค่าา

การเดินทาง

          การเดินทางมาที่ร้าน ร้านนี้อยู่ที่ถนนเคหะร่มเกล้า ซ.ร่มเกล้า 24 ค่ะ สามารถใช้เส้นทางถนนร่มเกล้า และเลี้ยวซ้ายแยกเคหะร่มเกล้าเข้า ซ.ร่มเกล้า 24 เลยโลตัสเอ็กเพรส ให้สังเกตร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

บรรยากาศร้าน

          บรรยากาศร้านมีให้เลือกทั้งในห้องแอร์ และโซนด้านนอก โซนด้านในจะมีโต๊ะประมาณ 6 โต๊ะค่ะ ด้านในร้านตกแต่งโดยเน้นโทนสีที่จัดจ้าน คือสีเหลือง และสีส้ม ด้วยความที่ทางร้านมีให้เลือกทั้งแบบชาบู และปิ้งย่างส่วนตัวที่สัมผัสได้คือโต๊ะ และเก้าอี้แอบเหนี่ยวจากการกระเด็นของน้ำมันอยู่บ้างค่ะ อาจจะเป็นเพราะทางร้านไม่มีที่ดูดควัน แต่ทั้งโซนห้องแอร์ และโซนด้านนอกทางร้านก็ยังมีพัดลมคอยบริการแบบทั่วถึงเลยค่ะ ใครที่อยากนั่งด้านนอกก็ไม่ต้องกลัวร้อนเลยยยย อิอิ

มีโปรโมชั่นพิเศษด้วยน๊าาา

มีเมนูอะไรน่าทานบ้างเอ่ยยย ...

           เมื่อเข้ามาในร้านแล้วเราก็จัดแจงเลือกที่นั่งให้เรียบร้อย บนโต๊ะจะมีใบเมนูไลน์อาหารให้เราสามารถเลือกได้ตามใจเลยค่ะ อะ อะ อะ ร้านนี้อย่างที่บอกว่ามีให้เลือกทั้งชาบู และปิ้งย่าง หรือจะเอาเป็นแบบปิ้งย่าง + หม้อชาบูอยู่ตรงกลางก็ได้ ทั้ง 3 แบบนี้ราคาเท่ากันหมดค่ะ คือ 199฿/คน ใบรายการเมนูที่เห็นเราสามารถสั่งได้ทั้งหมด เมนูปิ้งย่าง และชาบูเป็นเมนูเดียวกันค่าาา

          สำหรับเมนูเครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกแค่แบบรีฟิลค่ะ ในราคา 30฿ ก็จะมีทั้งน้ำเปล่า น้ำชา กีวี่ พันซ์ ใบเตย และเก็กฮวย แถมมีน้ำอัดลมอีกด้วยค่ะ #ที่ไม่มีน้ำดื่มแบบแยกขวดขายน๊าาา

มาร้านนี้สั่งอะไรดี?

          และนี่คือเมนูทั้งหมดที่เราสั่งมาในรอบแรกกก ท๊าดาาา!!! เยอะมากกก อิอิ ในการสั่งเมนูอาหารรอบแรกส่วนใหญ่จะไม่ได้เสิร์ฟมาแบบจานๆ นะคะ ทางร้านจะจัดแบบรวมมาในจานใหญ่ size บึ้ม อย่างที่เห็น เรียกได้ว่าเราเลือกเมนูอะไรไป เค้าก็จัดมาให้แบบเต็มๆ เด้อ

          จานนี้ประกอบด้วยสามชั้น เบคอน หมูสไลด์ ปลาดอลลี่ หมูไม้ไผ่ กุ้ง ปลาหมึก ปลาหมึกกรอบ และเต้าหู้ คือเยอะมากจริงๆ อิอิ 

บ้าน บ้าน ชาบู ปักมาในก้อนมันหมู สำหรับกระทะย่างค่าาา

ในส่วนของซีฟู้ดก็มาแบบเต็มๆ

หมูไม้ไผ่

เนื้อสไลด์บางนุ่ม

          เมนู 2 จาน ที่เห็นนี้เรียกว่า หมูแซ่บ และเนื้อพริกไทยดำ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาและน่าจับตามองมากๆ อิอิ เดี๋ยวเราจะมาชิม และเฉลยความอร่อยให้ได้ฟังกันว่าเป็นยังไงงง ><

ท้องแซลมอนนนนน

           สำหรับเมนูปลา ที่ร้านก็มีให้เลือกทั้งท้องแซลมอน และปลาดอลลี่สดค่ะ

เบคอนพันเห็ดเข็มทอง 

และแน่นอนว่าจะทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ต้องมีผักด้วยนะทุกคน อิอิ

          ที่นี่เค้าก็มีหมี่หยก และสาหร่ายวากาเมะด้วยน๊าาา ส่วนตัวชอบทานสาหร่ายบอกเลยว่าโดนใจมากกก เย้!! 

           บางคนถามว่ามีของทานเล่นมั้ย? ตอบเลยว่ามีเจ้าค่ะ แต่มีแค่หนึ่งเมนูคือ "เฟรนช์ฟรายส์" อะ อะ อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย โวยวายกันไปใหญ่ว่าทำไมมีน้อยจัง อยากจะให้ลองชิมเฟรนช์ฟรายส์ของทางร้านก่อนหนา เพราะที่ของนี่เค้าทอดใหม่โต๊ะต่อไม่มีการที่ว่าทอดทิ้งไว้คือจะบอกว่ากรอบมากกก ไม่อมน้ำมัน ต่อให้ทานบุฟเฟ่ต์จนหมดโต๊ะก็ยังกรอบอยู่! เรื่องนี้น้องจิ๊บผู้ชอบทานของทอดเป็นพยานได้ค่ะ ฮ่าๆ

น้ำจิ้มเป็นไงน๊าา ??

          และสำหรับน้ำจิ้มของทางร้านมีให้เลือก 2 แบบค่ะ คือน้ำจิ้มสุกี้ และซีฟู้ด แอบเสียดายน่าจะมีน้ำจิ้มพอนสึด้วยเนอะ ทั้งสองแบบนี้เป็นสูตรของทางร้านเอง น้ำจิ้มสุกี้สามารถจิ้มได้ทั้งชาบู และปิ้งย่างเลยค่ะ ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มสุกี้มาก!! เพราะว่าจิ้มกับอะไรก็อร่อยเด้ออ รสชาติจะปรุงมาดีอยู่แล้วไม่เปรี้ยวโดด และไม่หวานจนเกินไป ใครที่ชอบทานเผ็ดก็สามารถเติมพริก และเพิ่มความหอมจากกระเทียมไปได้เลยค่ะ ^^ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดจะมีรสเปรี้ยวนำ และเผ็ดตามนิดหน่อย คนไม่ทานเผ็ดสามารถทานได้ค่ะ

เริ่มทานกันเลยยย

           เกริ่นมามากพอแล้วเรามาเริ่มทานกันดีกว่าเนอะๆ ป่าวหรอกความจริงคือเริ่มหิวแล้ว ฮ่าๆ จัดแจงใส่ผัก สามชั้น หมูไม้ไผ่ ใส่ไปให้แน่นๆ อิอิ สำหรับน้ำซุปชาบูของที่นี่มีให้เลือกทั้งหมด 4 ชนิดค่ะ คือ น้ำใส น้ำดำ ต้มยำน้ำข้น และต้มยำน้ำใส วันที่เราไปทานเจ้าของร้านแนะนำเป็นน้ำดำ สูตรขายดีของทางร้านเลยค่าาา อะ อะ *เคล็ดลับการทานหม้อชาบู+ปิ้งย่าง พี่เจ้าของร้านบอกว่าไม่แนะนำให้เลือกทานซุปต้มยำค่ะ เพระทานๆ ไปแล้วอาจจะเลี่ยนเด้อ

รอสุกสักพักน๊า...

           สามชั้นของชั้นมาแล้วววว สำหรับสามชั้นของทางร้านต้องบอกว่าค่อนข้างดีเลยค่ะ ชิ้นไม่บางมากและชั้นไขมันไม่หนาเกินไป ฟาดลงไปในน้ำจิ้มสุกี้ทานแล้วเข้ากันมากกก อิอิ #คนชอบสามชั้นต้องไม่พลาด

สาหร่ายวากาเมะของโปรดเราเองงงง เย่ๆ

          สำหรับใครที่ชอบทานสาหร่ายร้านนี้เค้าก็มาน๊าาา ทานคู่กับซุปดำบอกเลยว่าเด็ดมาก ซุปดำตัวนี้ที่เราสั่งมาก็เป็นสูตรของทางร้านที่คิดขึ้นมาเองอีกเช่นกันค่ะ ส่วนผสมหลักๆ คือ มิลิน โชยุ ปลาโอ น้ำสต๊อก ตัวน้ำซุปจะหอมโชยุและปลาโออ่อนๆ ส่วนตัวชอบตรงที่ต้มไว้นานๆ แล้วรสชาติไม่เปลี่ยน และไม่เค็มอีกด้วยค่ะ 

ซีฟู้ดที่เรารัก

ตักขึ้นมาก็จะน่าทานประมาณนี้เลย 

           อย่างที่บอกค่ะ ว่าไลน์อาหารของทางร้านมีให้เลือกแบบว่าเยอะมาก ในราคา 199฿/คน รวมถึงเมนูซีฟู้ดที่จะเรียกว่ามีครบเลยก็ว่าได้นะคะ อิอิ เพราะเค้ามีให้เลือกทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปลาหมึกกรอบ ปลาดอลลี่ แมงกระพรุน แถมท้องปลาแซลมอนอีกด้วยค่ะ

กุ้ง

           กุ้งของทางร้านจะเลือกใช้เป็นกุ้งขาวขนาดตัวไม่เล็ก ไม่ใหญ่ค่ะ เนื้อกุ้งไม่เละ และไม่เหม็นคาว ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันดีค่ะ

ปลาหมึกสด และปลาหมึกกรอบ

          ปลาหมึกสดของทางร้านเป็นแบบทำสุกมาแล้วรอบนึงค่ะ แต่ทานแล้วกรอบดี ไม่เหนี่ยวและไม่มีกลิ่นคาวค่ะ ส่วนปลาหมึกกรอบเนื้อแน่น ไม่เละ และกรอบดีค่ะ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันดี

หมูไม้ไผ่

          หมูไม้ไผ่ของที่จะเป็นหมูบดที่นำไปหมักตามสูตรของทางร้าน ต้มนานๆ แล้วไม่แข็งแถมยังนุ่มๆ เด้งๆ อีกด้วยค่ะ ทานกับน้ำจิ้มสุกี้ก็เริ่ด

หมูแซ่บ

          มาถึงเมนูเด็ดที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองพิสูจนั่นคือ "หมูแซ่บ และเนื้อพริกไทยดำ" บอกเลยว่าถูกใจมากๆ ค่ะ มาดูๆ ว่าถูกใจแบบไหน อิอิ

หมูแซ่บ (ซ้าย) เนื้อพริกไทยดำ (ขวา)

           สำหรับทั้งสองเมนูนี้คือ หมูแซ่บ และเนื้อพริกไทยดำ ทางร้านเลือกใช้ส่วนของสันคอทั้งหมูและเนื้อจึงมีความนุ่ม และไม่เหนียว บอกเลยว่าฟิน~ โดนไปหลายถาดเหมือนกันค่ะ ฮ่าๆ

เสร็จแล้วก็จับมัดรวมมาแบบนี้เลยยย

           ตัวหมูแซ่บทางร้านจะคลุกพริกป่นมาด้วย ทำให้มีรสเผ็ดและหอมกลิ่นพริกในตอนทาน ส่วนตัวเนื้อพริกไทยดำ ทางร้านก็คลุกมากับพริกไทยดำ (เห็นเม็ดโตๆ เลย) เมื่อย่างกับกระทะแล้วจะมีความหอมของพริกไทยดำ

           ฟาดลงไปกับน้ำจิ้มสุกี้ของเราอีกเช่นเคย พอทานคู่กับน้ำจิ้มแล้วรสชาติเข้ากันดีมากค่ะ ด้วยความหอมของกลิ่นน้ำจิ้มสุกี้ช่วยชูรสชาติความหอม ความนุ่มๆ แหม่ พูดแล้วก็ยิ่งนึกหิวขึ้นเลยเด้อออ ฮ่าๆ 

เบคอน

          เบคอนทางร้านเลือกใช้เป็นเบคอนรมควัน เวลาย่างจึงมีความหอม และเค็มนิดๆ มาในชิ้นพอดีคำ แถมมันไม่เยอะมากด้วยค่ะ

สามชั้นย่าง►►

ของอร่อยมาอยู่ตรงหน้า 

          สามชั้นเมนูที่ใครๆ ต่างหลงรัก คราวนี้มาในรูปแบบย่างๆ บ้าง อิอิ บอกเลยว่ากลิ่นเย้ายวนใจมาก ด้วยความที่ทางร้านเลือกแบบที่ชั้นมันหมูไม่เยอะจึงทำให้เวลาทานแล้วไม่เลี่ยนเท่าไร สามารถทานได้เรื่อยๆ เลยค่ะ อิอิ ยิ่งทานคู่น้ำจิ้มสุกี้ของทางร้านก็ยิ่งเข้ากัน และแน่นอนว่าหยุดทานไม่ได้!!! ​

เบคอนพันเห็ดเข็มทอง

วางเรียงสวยๆ รอย่างสักพักก็จะพร้อมทานนนน หอมมากก ≈

          และนี่คือสกิลการย่างเห็ดของเรา ฮ่าๆ หน้าตาไม่น่ารักเท่าไรแต่รสชาติดีนะไม่อยากจะคุย ตัวนี้โดยรวมแล้วจะหอมกลิ่นเบคอนและตัวน้ำซอสที่ราดมา (เป็นสูตรของทางร้าน) แถมมีความหนึบๆ ดึ๋งๆ จากตัวเห็ดเข็มทอง 

ท้องแซลมอน

ท้องแซลมอนของใครน๊าาา...

           มาถึงเมนูเกือบจะสุดท้ายคือ ท้องแซลมอน ส่วนตัวไม่ค่อยว้าวกับเมนูนี้เท่าไรค่ะ เพราะตัวท้องแซลมอนบางชิ้นมีส่วนของมันค่อนข้างเยอะ เราลองทั้งแบบต้มชาบู และแบบย่างกระทะ ก็ยังมีความเลี่ยนอยู่ แต่เมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วพอจะช่วยตัดเลี่ยนได้บ้างค่ะ

หมี่หยก

           หมี่หยกนี้ไม่ว่าจะต้มหรือจะทานกับสามชั้นก็เข้ากัน น้องจิ๊บของเราเลือกทานกับสามชั้นแบบนี้บอกเลยว่าเด็ดมาก หมี่หยกของทางร้านลวกมาได้กำลังดี ตัวเส้นไม่แข็งและไม่แห้งติดกัน แถมหอมกลิ่นกระเทียวเจียวที่โรยมาอีกด้วยเด้อ ><

สรุปรสชาติอาหาร

• น้ำซุปชาบู : ที่ร้านมีให้เลือกทั้งหมดสี่แบบ วันที่ไปเลือกทานเป็นซุปดำ รสชาติกลมกล่อมมาก หอมกลิ่นโชยุและปลาโอ จุดเด่นของน้ำซุปดำคือต้มนานแล้วรสชาติไม่เปลี่น และไม่เค็ม
• น้ำจิ้ม : ในส่วนของน้ำจิ้มมีมาให้สองแบบ คือ น้ำจิ้มสุกี้ ที่มีรสชาติดีไม่เปรี้ยวโดดสามารถทานได้ทั้งเมนูชาบู และปิ้งย่าง อีกแบบคือซีฟู้ด ตัวนี้นี้จะมีความเปรี้ยวนำและเผ็ดตาม แต่ไม่เผ็ดมากจนเกินไป ส่วนตัวคิดว่าคนไม่ทานรสจัดสามารถทานได้ค่ะ
• สามชั้น : สามชั้นของทางร้าน ทางร้านเลือกหมูสามชั้นแบบมันน้อย มาในชิ้นที่พอดีคำและไม่บางจนเกินไปเวลาต้มแบบชาบู หรือย่างในกระทำทำให้ได้รสชาติของสามชั้นอย่างชัดเจน สามารถทานได้เรื่อยๆ โดยไม่เลี่ยน
• สาหร่ายวากาเมะ : สาหร่ายเมนูนี้ส่วนตัวชอบทานสาหร่ายอยู่แล้วค่ะ สาหร่ายนิ่มและไม่เละแต่เมื่อทานคู่กับซุปดำของทางร้านแล้วเข้ากันดีมาก
• กุ้ง : สำหรับกุ้งที่นี่เลือกใช้เป็นกุ้งขาวค่ะ ขนาดตัวไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป กุ้งเมื่อต้มแล้วขนาดตัวจะหดเล็กลงมาบ้าง เนื้อกุ้งไม่เลและไม่มีกลิ่นคาวค่ะ
• ปลาหมึกสดและปลาหมึกกรอบ : หมึกสดของที่นี่มาแบบสุกแล้วค่ะ เมื่อนำมาต้มอีกรอบรสชาติก็ไม่เปลี่ยนและไม่มีความเหนี่ยว เนื้อกรอบเด้งดีค่ะ สำหรับปลาหมึกกรอบหั่นมาเป็นชิ้นยาวพอดีคำ เนื้อกรอบเด้ง ไม่เละและไม่เห็นคาว
• หมูไม้ไผ่ : เมนูนี้เป็นหมูบดที่คลุกกับเครื่องปรุงสูตรของทางร้านเอง ตัวเนื้อหมูมีความนุ่มๆ และหนึบ มีรสเค็มนิดๆ ตอนท้าย เมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้แล้วเข้ากันดีค่ะ
• หมูแซ่บ : หมูแซ่บทางร้านเลือกใช้ในส่วนที่เป็นสันคอ ส่วนตัวค่อนข้างชอบมาก เพราะทานแล้วเนื้อหมูนุ่มไม่เหนียวและหอมกลิ่นพริกที่คลุกเคล้ามาจนเข้าเนื้อค่ะ
• เนื้อพริกไทยดำ : และเมนูอีกหนึ่งเมนูที่เราแนะนำคือเนื้อพริกไทยดำ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว หอมและมีความเผ็ดนิดๆ จากพริกไทยดำ ตัวเนื้อทางร้านก็เลือกใช้ส่วนสันคอเช่นเดียวกันกับเนื้อหมูค่ะ
• เบคอน : เบคอนรมควันย่างหอมๆ มาในชิ้นที่พอดีคำ ส่วนของเนื้อเยอะกว่าไขมันย่างจนสุกทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันดีมากๆ เลยค่ะ
• เบคอนพันเห็ดเข็มทอง : เห็ดเข็มทองมาในชิ้นกำลังไม่ใหญ่เกินไป นำลงย่างในกระทะแล้วหอมกลิ่นเบคอน โดยรวมแล้วค่อนข้างโอเคเลยค่ะ
• ท้องแซลมอน : สำหรับท้องแซลมอนส่วนตัวคิดว่าเมนูนี้บางชิ้นมีส่วนของไขมันมากเกินไปทานแล้วรู้สึกเลี่ยนนิดหน่อยค่ะ แต่สามารถตัดเลี่ยนด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรของทางร้านค่ะ
• หมี่หยก : หมี่หยกของทางร้านเป็นเกรดมาตรฐาน แต่ทางร้านลวกได้กำลังดีเส้นไม่นิ่มไม่เละ และไม่ติดกันเป็นแพ เวลาทานจะหอมกลิ่นกระเทียมเจียวที่โรยมาด้านบน หรือจะเลือกทานคู่กับหมูสามชั้นและน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันดีค่ะ

การประเมิน และให้คะแนน

จุดเด่นของร้านบ้าน บ้าน ชาบู - ปิ้งย่าง

• ในราคา 229฿/คน (รีฟีลเครื่องดื่ม 30฿ ราคาบุฟเฟ่ต์ 199฿/คน) สามารถทานได้แบบไม่จำกัดเวลา มีเมนูอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะทั้งหมู เนื้อ และซีฟู้ด
• เมนูหมูแซ่บ และเนื้อพริกไทยดำ ทางร้านเลือกให้ส่วนที่เป็นสันคอ เนื้อจึงมีความนุ่ม ไม่เหนี่ยว ตัวหมูแซ่บจะการคลุกเคล้าน้ำพริกจนเข้าเนื้อเมื่อย่างออกมาแล้วจะมีกลิ่นและความอร่อยที่เฉพาะตัวค่ะ
• มีน้ำซุปให้เลือกหลายหลาย วันที่ไปเลือกทานซุปดำที่เป็นสูตรของทางร้าน มีรสชาติที่กลมกล่อมหอมโชยุ และปลาโอ ต้มนานแล้วรสชาติไม่เปลี่ยน และไม่เค็มขึ้นซึ่งแตกต่างจากที่อื่นที่อาจจะต้มนานแล้วรสชาติเค็มขึ้นค่ะ
• น้ำจิ้มสุกี้ ตัวนี้ก็เป็นสูตรของทางร้านอีกเช่นเดียวกัน สามารถทานได้ทั้งกับชาบูและปิ้งย่าง รสชาติไม่เปรี้ยวโดดและหอมกลิ่นกระเทียม

ข้อเสนอแนะ

• ด้วยด้านในตัวร้านไม่มีเครื่องระบายอากาศ และตัวดูดควัน จึงทำให้โต๊ะและเก้าอี้ของทางร้านค่อนข้างเหนียวจากการกระเด็นของน้ำมันที่มาจากกระทะย่างค่ะ
• น้ำจิ้มของทางร้านมีให้เลือก 2 แบบ คือน้ำจิ้มสุกี้และน้ำจิ้มซีฟู้ด อยากให้ทางร้านเพิ่มน้ำจิ้มพอนสึเข้าไปด้วย เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ลูกค้า และสำหรับลูกค้าที่อาจจะไม่ทานสุกี้ และน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ
• ในวันที่เราไปพนักงานบางคนหน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้ม และเจ้าของร้านแจ้งว่าพนักลาเกือบหมดจึงหรือเพียงสองคน แต่การบริการในแต่ละโต๊ะไม่มีตกหล่นค่ะ
• ในราคา 199฿/คน ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่มรีฟีล ซึ่งรวมแล้วจะเป็น 229฿/คน และทางร้านไม่มีน้ำดื่มขายแยกแบบเป็นขวดค่ะ

          สำหรับร้านนี้ต้องว่าเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่มีเมนูบุฟเฟ่ต์ให้เลือกค่อนข้างหลากหลายเลยค่ะ ทั้งหมู เนื้อ ซีฟู้ด และผัดชนิดต่างๆ ในราคา ในราคา 229฿/คน (รีฟีลเครื่องดื่ม 30฿ ราคาบุฟเฟ่ต์ 199฿/คน) ที่สำคัญคือไม่จำกัดเวลาอีกด้วย เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน ครอบครัวที่ต้องการอาหารแบบคุ้มๆ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเลือกได้ทั้งหม้อชาบู กระทะปิ้งย่าง หรือจะเป็นหม้อชาบู+กระทะปิ้งย่างก็ได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจค่ะ ^^

plapla

WHATEVER

จำนวนบทความที่รีวิว : 98

วันที่เขียนรีวิว : 2018/06/14