[รีวิว] ร้านอัญชันคาเฟ่ วิภาวดี 16 เสน่ห์อาหารไทยสี่ภาค มาแล้วจะรักอาหารไทย ได้บรรยากาศเหมือนมีคุณแม่มาทำอาหารให้ทาน ราคาอาหารหลักสิบแต่บรรยากาศดีงาม @ถนนวิภาวดีรังสิต

          มาเริ่มเปิดฉากความสุขในการทานเหมือนได้ทานอาหารฝีมือแม่คิดถึงทีไรก็สุขใจทุกครั้ง มาแล้วจะหลงเสน่ห์อาหารไทย 4 ภาค ที่ล้วนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ของร้าน “อัญชันคาเฟ่” โดยตั้งอยู่ระหว่างซอยวิภาวดีรังสิต 16-18 และสำหรับทางร้านอัญชันคาเฟ่ อาหารทุกจานได้รับการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยรสชาติที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เลือกใช้อัญชันเป็นส่วนประกอบอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม เมื่อมานั่งทานอาหารที่อัญชันคาเฟ่ มาเมื่อไรความรู้สึกเหมือนได้รับรู้เวลาเห็นคุณแม่เข้าครัวโชว์เสน่ห์ปลายจวักฝีมือการทำอาหารเลยจริงๆ ค่ะ

          ทีมงานได้สั่ง อัญชันคลุกเกลือ ลาบหมูคั่ว ออเดิร์ฟเมือง แกงปูใบชะพลู ใบเหลียงผัดไข่ แกงเขียวหวานปลากราย โตกอีสาน และหมูกรอบคั่วน้ำปลา พร้อมเครื่องดื่มที่ต้องลองเมื่อมาทานที่ร้านอย่างอัญชันกาแลคซี่และอัญชันลาเต้ เรียกได้ว่ามาที่เดียวไม่ต้องออกเดินทางตะลอนไปไหนไกลๆ ก็ได้ชื่นใจกับอาหารครบทั้ง 4 ภาค

 

วิธีการเดินทางไปร้านอัญชันคาเฟ่

       ถ้าเดินทางมาจากอนุสาวรีย์ให้วิ่งเลียบมาทางเส้นวิภาวดีรังสิตที่มุ่งหน้าไปทางรังสิต สำหรับคนนั่งรถแท็กซี่หรือรถประจำทาง เมื่อถึงแยกสุทธิสารให้ข้ามสะพานลอยและสังเกตว่าร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามวิภาวดีซอย 3 แต่ถ้าลูกค้ามาแบบรถส่วนตัวให้ขับรถยูเทิร์นมาทางห้าแยกลาดพร้าว จากนั้นจะเจอซอยวิภาวดีรังสิต 18 ให้เตรียมชิดซ้ายและจะเจอร้าน Teddy Autosale อยู่ฝั่งเดียวกับร้านอัญชันค่ะ ซึ่งจะเห็นสะพานลอยข้างหน้าให้เตรียมเลี้ยวซ้ายจอดรถได้ที่ร้านเลยค่ะ สะพานลอยจะอยู่ก่อนถึงซอยวิภาวดีรังสิต 16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร)

 

 

 

เมนูและราคาอาหาร

          ราคาอาหารที่นี่เริ่มตั้งแต่ (65 บาท) ราคาเริ่มต้นเบาๆ แต่มาแล้วได้บรรยากาศที่คุ้มค่า อาหารที่นี่มีให้เลือกครบ 4 ภาค เหนือ ใต้ อีสาน กลาง ทั้งแบบต้ม ผัด ทอด ใครรักอาหารไทยจะต้องหลงใหลแบบสุดๆ ค่ะ

          อัญชันคลุกเกลือ (65 บาท) ลาบหมูคั่ว (110 บาท) ออเดิร์ฟเมือง (220 บาท)  แกงปูใบชะพลู (320 บาท) ใบเหลียงผัดไข่ (95 บาท) แกงเขียวหวานปลากราย (180 บาท) โตกอีสาน (220 บาท) และหมูกรอบคั่วน้ำปลา (180 บาท) ส่วนเครื่องดื่มที่ต้องลองเมื่อมาทานที่ร้านอย่างอัญชันกาแลคซี่ (85 บาท) และอัญชันลาเต้ (80 บาท)

 

 เมนูทานเล่นขอแนะนำ “อัญชันคลุกเกลือ” ราคาอยู่ (65 บาท) สั่งมาทานเรียกน้ำย่อยบอกเลยดีต่อกระเพาะมากค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง” เป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่มีขายตลอด เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกของพนักงานออฟฟิศที่อยากแวะมาทานอาหารจานเดียวค่ะ

 

บรรยากาศภายในร้าน

          นอกจากได้ลิ้มลองเมนูไทยๆ หลากสไตล์หลายภาค ในบรรยากาศแสนอบอุ่นเหมือนมีดอกอัญชันห้อมล้อม เพราะการตกแต่งจะออกโทนโทนอัญชัน เน้นสีเขียวซึ่งหมายถึงมาจากก้านของดอกอัญชัน ส่วนสีน้ำเงินคือดอกอัญชัน มองทีไรก็ทำให้รู้สึกสบายตาสบายใจ ปราศจากความอึดอัดแต่อย่างใด จะนัดกันมาคุยตามประสาแก็งค์เพื่อน หรือคุยประชุมเรื่องงานบรรยากาศครอบครัวออฟฟิศกันเอง หรือมาเป็นครอบครัวพ่อ แม่ ลูก น่ารักๆ อบอุ่น เรียกได้ว่าสถานที่นี้ล้วนสามารถตอบโจทย์คนทุกกลุ่มได้ดีทีเดียว โดยมีที่นั่งรองรับลูกค้าที่เข้ามาทานถึง 140 ที่ค่ะ

 

ทางร้านเปิดบริการ 11.00-22.00 น. ของทุกวัน

 

 ด้านหน้าดูร่มรื่นมากค่ะ มีที่นั่ง 2 ที่ให้มานั่งชิลก่อนเข้าร้าน

 

ทางร้านมีที่จอดรถรองรับถึง 30-50 คัน

 

ห้องนี้เหมาะกับเข้ามาทานอาหารพร้อมจัดประชุม สัมมนา และจัดเลี้ยงเลยค่ะ

 

โต๊ะนี้เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ชอบบรรยากาศแบบโล่งๆ มองเห็นด้านนอกดีด้วยค่ะ

 

ชอบแบบมีที่พิงสบาย นั่งเพลินๆ ยาวๆ ต้องโต๊ะนี้เลยค่ะ

 

ด้านในมีโต๊ะ-เก้าอี้ ให้เลือกหลายแบบแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ จะมุมไหนก็ดูสบายตาไม่อึดอัด

 

 

ช่วงพักกลางวันลูกค้าจะเข้ามาเกือบเต็มร้านค่ะ แถวนี้ออฟฟิศค่อนข้างเยอะ แต่ที่นั่งก็เพียงพอนะคะ เพราะมีรองรับถึง 140 ที่นั่ง

 

 

เมนูทานเล่น “อัญชันคลุกเกลือ”

          เป็นเมนูที่เห็นแล้วหิวเลยค่ะ ก็ดอกอัญชันมาพร้อมแป้งกรอบๆ เห็นแล้วกระเพาะร้องเลยสิคะ แถมเป็นของทานเล่นที่บ่งบอกความเป็นร้านอัญชันคาเฟ่ได้ดี

อัญชันคลุกเกลือ (65 บาท)

 

ทานอัญชันทอดแป้งกรอบๆ ที่โรยเกลือพร้อมกับซอสเข้ากันดีมากค่ะ

          ความรู้สึกต่อเมนูอัญชันคลุกเกลือ : ใครอยากทานเปล่าๆ ก็เพลินนะคะ หรือถ้าใครอยากทั้งเพลิน ทั้งอิ่มในเวลาเดียวกันจะลองสั่งมาทานกับข้าวสวยก็อร่อยไปอีกแบบ ทีมงานเลือกทานเปล่าๆ แบบจิ้มซอสที่ทางร้านเสิร์ฟมา ส่วนตัวแอบชอบความเค็มนำของเกลือที่โรยมาทั่วอัญชัน รู้สึกว่าการโรยเกลือในปริมาณที่ได้พอดีกับรสชาติแป้งและอัญชันทอด แอบรู้สึกว่าแป้งหนาไปนิดนึงสำหรับคนไม่อยากทานแป้งมากนะคะ แต่ทางร้านทอดอร่อยไม่อมน้ำมัน ทานไปหลายชิ้นก็ไม่รู้สึกเลี่ยนค่ะ

 

เมนูแอ่วเหนือ

          ทีมงานได้พบ 2 เมนูแอ่วเหนือคือ “ออเดิร์ฟเมือง” และ “ลาบหมูคั่ว” อารมณ์เหมือนได้ขึ้นไปทานอาหารที่ภาคเหนือเลยค่ะ

ออเดิร์ฟเมือง

          ออร์เดิร์ฟเมืองสไตล์ขันโตกที่ทางร้านจัดมาจะมีไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียวอัญชัน แคบหมู และผักชุดใหญ่

 ออเดิร์ฟเมือง (220 บาท)  

 

หั่นมาชิ้นกำลังน่ากัด ใส่เครื่องและสมุนไพรแบบพอดีๆ รสชาติถึงเครื่องค่ะ

 

ไส้อั่วชิ้นใหญ่เครื่องเยอะมากค่ะ

 

 แคบหมูสุดกรอบทานคู่กับน้ำพริกหนุ่มถ้วยใหญ่ได้ใจสุดๆ

 

 

 

          ความรู้สึกต่อเมนูออเดิร์ฟเมือง : ไส้อั่วไม่เผ็ดมาก เครื่องและสมุนไพรหอมชัดเจน ทานไส้อั่วพร้อมน้ำพริกหนุ่มไส้อั่วจะมีความหอมเพิ่มขึ้น น้ำพริกหนุ่มไม่เผ็ดค่ะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานรสจัดจ้าน ถึงน้ำพริกหนุ่มไม่เผ็ดมากแต่รสชาติมีความหอมเข้มข้นในตัวอยู่แล้ว ยิ่งทานกับแคบหมูช่วยให้แคบหมูกรอบๆ กลายเป็นมีรสชาติ ส่วนคนเน้นผักรับรองว่าเพลินกับผักสดๆ ปริมาณเยอะแบบเต็มๆ แน่ค่ะ

 

ลาบหมูคั่ว

          ลาบหมูคั่วอาหารภาคเหนือสูตรจากจังหวัดเชียงราย แต่ทางร้านบอกว่านำมาปรุงรสชาติในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน กลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ลงตัวด้วยความเป็นอัญชันคาเฟ่

ลาบหมูคั่ว (110 บาท)

 

เมนูนี้ก็ยังมีผักสดๆ สวยๆ ที่ลูกค้าคู่ควร

 

ตับกับไส้หมูคือรวมพลังความอร่อยให้ลาบหมูคั่ว

 

          ความรู้สึกต่อเมนูลาบหมูคั่ว : ใครชอบรสจัดและชอบเมนูลาบบอกเลยว่าลาบหมูคั่วรสชาติจัดประมาณนี้น่าจะโดนใจ แต่สำหรับคนที่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้พอทานไปหลายๆ คำจะเริ่มรู้สึกว่าลาบรสจัดไปหน่อยค่ะ ทางร้านหั่นหมูสับได้ละเอียดเหมาะกับผู้สูงวัยบางท่านที่อาจเคี้ยวไม่ค่อยสะดวกช่วยให้ทานง่ายขึ้นค่ะ แต่ถ้าใครชอบหมูสับแบบชิ้นใหญ่กว่านี้สักนิดจะรู้สึกว่าหมูสับชิ้นเล็กละเอียดไปนิดนึงนะคะ

 

เมนูแดนอีสาน “โตกอีสาน”

          “โตกอีสาน” หน้าตาจะละม้ายคล้ายกับเมนูออเดิร์ฟเมือง แต่ถ้าลองมาดูแต่ละอย่างทีเสิร์ฟอย่าง ส้มตำปูใส่ปลาร้า ต้มแซ่บ ข้าวเหนียวอัญชัน ไก่ย่าง จะต้องบอกว่าแซ่บมากตามแบบฉบับของความเป็นอีสานค่ะ แต่ถ้าลูกค้าท่านไหนไม่ทานส้มตำใส่ปลาร้าโปรดแจ้งทางร้านล่วงหน้าตอนสั่งอาหารกับพนักงานเลยนะคะ

โตกอีสาน (220 บาท)

 

ต้มแซ่บโดนใจคนรักกระดูกหมูอ่อน

 

ไก่ย่างมาแล้วจ้า ไม้โตๆ โชว์ความแน่นของไก่

 

 

ทานกับน้ำจิ้มเด็ดเลยขอบอก

 

ข้าวเหนียวอัญชัน เม็ดสีสวยช่วยให้น่าทานเพิ่มมากกว่าข้าวเหนียวสีขาวธรรมดา

 

 

ส้มตำปูใส่ปลาร้าเห็นแล้วเป็นต้องน้ำลายสอ

 

          ความรู้สึกต่อเมนูโตกอีสาน : ส้มตำหอมกลิ่นน้ำปลาร้า เส้นส้มตำกรอบ สำหรับคนชอบทานเส้นส้มตำเยอะๆ อาจมองว่าจานนี้เส้นส้มตำดูจะน้อยไปนิดนึง แต่ได้ผักเยอะมาก ถ้าคนไม่ค่อยชอบทานผักคาดว่าผักเหลือแน่ ส่วนต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนชิ้นใหญ่เนื้อหมูเยอะ แต่น้ำต้มแซ่บถ้าเพิ่มความเปรี้ยวและเผ็ดอีกนิดน่าจะตอบโจทย์คนชอบความแซ่บของรสชาติต้มแซ่บได้ดี ส่วนไก่ย่างเนื้อแน่นหอมกรุ่นทานกับน้ำจิ้มแจ่วก็ยิ่งเด็ด ทานคู่กับข้าวเหนียวอัญชันยิ่งหนักแน่นทุกคำ

 

เมนูล่องใต้

          มาที่อีกภาคที่มีอาหารน่าสนใจ “ใบเหลียงผัดไข่” และ “แกงปูใบชะพลู” ความหรอยจังฮู้ !!! ก็เกิดขึ้นได้ในกรุงเทพฯ ที่ร้านอัญชันคาเฟ่ค่ะ

ใบเหลียงผัดไข่

          “ใบเหลียงผัดไข่” ใครมาร้านนี้แล้วรักอาหารใต้แบบจริงจังอย่าลืมสั่งนะคะ เพราาะสมัยนี้ในกรุงเทพฯ ใบเหลียงเริ่มจะหายากเต็มที แต่มาที่นี่มีใบเหลียงผัดไข่ใส่ใจคนทำให้ได้ทานแบบฟินๆ เต็มจานค่ะ

ใบเหลียงผัดไข่ (95 บาท)

 

 

          ความรู้สึกต่อเมนูใบเหลียงผัดไข่ : ไข่ที่ผัดในใบเหลียงมีรสชาติหอมชัดเจน ไข่นุ่มบวกความหอมทานแล้วหยุดตักไม่ได้เลยค่ะ ตักกินวนไปกับข้าวสวยร้อนๆ คือฟินเกินบรรยาย

 

แกงปูใบชะพลู

          คนชอบทานปูได้เจอเนื้อปูสมใจในแกงปูใบชะพลูแน่ๆ ค่ะ เจอเครื่องแกงใต้แท้ๆ รสจัดจ้านกำลังดีแบบนี้ได้ใจคนรักอาหารใต้เต็มๆ ค่ะ

แกงปูใบชะพลู (320 บาท)

 

น้ำแกงเข้มข้น และได้เนื้อปูเยอะ

 

 

          ความรู้สึกต่อเมนูแกงปูใบชะพลู : ปูทานแล้วไม่คาวทานง่าย แต่แอบจัดจ้านไม่เบา ขนาดคนทานเผ็ดได้ยังรู้สึกร้อนๆ วูบวาบแทบทุกคำที่ได้สัมผัสค่ะ ใครชอบเมนูร้อนแรงสไตล์อาหารใต้ต้องสั่งมาทานให้ได้นะคะ

 

เมนูราบกลาง “แกงเขียวหวานปลากราย”

          “แกงเขียวหวานปลากราย” เมนูภาคกลางหนึ่งเดียวในวันนี้ที่ได้ทาน มีลูกชิ้นปลากรายชิ้นใหญ่ๆ ให้ได้ทานสะใจ ซึ่งแกงเขียวหวานทางร้านบอกว่าพริกขี้หนูสด ทางร้านตำโขกพริกแบบวันต่อวัน

แกงเขียวหวานปลากราย (180 บาท)

 

          ความรู้สึกต่อเมนูแกงเขียวหวานปลากราย : ปลากรายชิ้นมีขนาดใหญ่เนื้อนุ่ม น้ำกะทิไม่ข้นจนเกินไป มีความหอมกรุ่นทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน

 

เมนูทอด “หมูกรอบคั่วน้ำปลา”

          เป็นของทอดที่รู้สึกติดใจจริงๆ ยอมทานแบบไม่กลัวอ้วน ต้องลองสั่งดูค่ะบอกเลยรสชาติอร่อยติดลิ้นจริงๆ

หมูกรอบคั่วน้ำปลา (180 บาท)

 

 หนังกรอบๆ พร้อมรสชาติเข้มข้นอร่อยตรงนี้

 

โรยผักเก๋ๆ

          ความรู้สึกต่อเมนูหมูกรอบคั่วน้ำปลา : หมูสามชั้นที่ใช้ทำหมูกรอบคั่วน้ำปลามีเนื้อทอดออกมาไม่แข็งจนเกินไป ทานแล้วหลงกับความนุ่มพอดีเคี้ยวได้กำลังสะดวก ไม่ได้เค็มเหมือนกับชื่อ แต่ได้ความหวานนำที่ลงตัว หวานทั้วทั้งเนื้อและหนัง โดยรวมประทับใจเรื่องรสชาติของเมนูนี้มากค่ะ

 

เครื่องดื่ม

          เครื่องดื่มตัวท้อปของร้านกำลังมาลงท้องทีมงานแล้วค่ะ เรียกได้ว่า 2 เครื่องดื่มนี้โดดเด่นกินกันไม่ลงทั้งชื่อเมนูและรสชาติเลยค่ะ

อัญชันลาเต้

          เครื่องดื่มอัญชันลาเต้ เมื่อได้มาแล้วใครอยากเก็บภาพสวยๆ ก่อนดื่มต้องอย่าพึ่งใจร้อนรีบคนแก้วนะคะ เพราะถ้าคนแก้วเมื่อไร 2 สี ในเครื่องดื่มนี้จะรวมตัวกันเป็นสีเดียวค่ะ

อัญชันลาเต้ (80 บาท)

 

หลังจากคนให้เข้ากันก็ได้เวลาหวานสุดสดชื่น

          ความรู้สึกต่ออัญชันลาเต้ : ในส่วนผสมของเครื่องดื่มคงไว้ในความเข้ม เมื่อคนรวมกันเป็นสีเดียวจะยิ่งเพิ่มความหอมหวานจนกว่าจะหมดแก้วเลยค่ะ

 

อัญชันกาแลคซี่

          สีสันสดใสเหมาะกับคนไม่เน้นเครื่องดื่มที่หวานมากจนเกินไปค่ะ

 

อัญชันกาแลคซี่ (85 บาท)

 

ดื่มพร้อมกับทานอาหารทุกภาคก็อร่อยเข้ากัน

          ความรู้สึกต่ออัญชันกาแลคซี่ : เครื่องดื่มมีรสชาติเปรี้ยวกำลังดี ออกหวานอ่อนๆ ยิ่งดื่มยิ่งสดชื่นมากค่ะ

 

ของหวาน "บัวลอยอัญชัน"

          ปิดท้ายด้วยบัวลอยอัญชัน ของหวานที่ทางร้านบอกว่าปั้นสดเองทุกวัน โดยสีแป้งเหมือนสีของอัญชัน แค่มองก็น่าทานแล้วค่ะ

บัวลอยอัญชัน (60 บาท)

          ความรู้สึกต่อบัวลอยอัญชัน : ติดใจรสชาติน้ำกะทิมากค่ะ คือหวานกำลังชุ่มคอ แถมแป้งบัวลอยนุ่มมากๆ ขนาดแป้งใหญ่แบบยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน มะพร้าวหอมเนื้อเนียนนุ่มละลายในปาก

 

 

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.1
บรรยากาศ	4.1
การบริการ	3.95
ความคุ้มค่า	4.2
คะแนนเฉลี่ย	4.0875

 

 

          ใครหลงเสน่ห์อาหารไทยและอยากลองทานร้านอาหารที่ใส่ใจทุกขั้นตอน โดยการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี เลือกใช้น้ำตาลที่ไม่ขัดสี ใช้ข้าวคุณภาพดี เลือกวัตถุดิบสดใหม่ และทุกเมนูผ่านการปรุงแบบสดใหม่เสมอ ต้องไม่พลาดที่ร้านนี้

          ส่วนตัวแรกเห็นประทับใจสไตล์การแต่งร้านมาก ยิ่งเข้ามายิ่งรู้สึกว่าโทนสีร้าน การแบ่งโซนต่างๆ ของที่นั่ง ยิ่งสะท้อนความเป็นไทยแถมไม่แออัด และร้านดูเข้ากับชื่อร้านอัญชัน

          เรื่องราคาคิดว่าเป็นที่น่าพอใจมาก ราคาเริ่มต้น (65 บาท) มีอาหารทั้งแบบชุด แบบอาหารจานเดียว มีครบทั้ง 4 ภาค ใครหลงรักอาหารไทยไม่ต้องตามไปทานหลายร้าน ขอแค่เลือกมาจบที่ร้านนี้คุณก็มีความสุขใจกับอาหารทั้ง 4 ภาคของบ้านเรา

          เมนูที่ติดใจคือ “หมูกรอบคั่วน้ำปลา” รู้สึกว่าหมูกรอบที่นี่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่ได้ทานเนื้อจริงๆ ไม่มีมันแบบเหนียวๆ แต่ตรงหนังจะให้ความกรอบที่พอดี บวกกับรสชาติที่สร้างสรรค์คือไม่เค็มจ๋า แต่ออกหวานนำเบาๆ ทำเอาหลงรสชาติเมนูนี้มากค่ะ ส่วน “ออเดิร์ฟเมือง” จะออกแนวไทยล้านนา มองแล้วคิดถึงเมืองเหนือ ไส้อั่วเครื่องหนักแน่นเหมือนได้มาทานที่ร้านอาหารเหนือแท้ๆ จริงๆ ของหวานอย่าง “บัวลอยอัญชัน” ทั้งแป้งและน้ำกะทิหอม หวาน อร่อย เข้ากัน ส่วนเครื่องดื่มถ้าให้เลือกชอบที่สุดจะเป็น “อัญชันลาเต้” เพราะประทับใจเวลามาเสิร์ฟจะเป็น 2 สี แบ่งแยกได้ชัด แต่พอคนรวมกันแล้วกลับกลายเป็นสีดายที่ได้ความหวานนำเข้มกำลังดี

          การบริการถ้าช่วงพักเที่ยงรู้สึกว่าแต่ละโต๊ะจะรออาหารนานมากกว่าเดิมหน่อยค่ะ ใครที่มาตอนเที่ยงต้องเผื่อใจรออาหารนิดนึงนะคะ ส่วนโต๊ะ-เก้าอี้ มีเพียงพอกับลูกค้าค่ะ รวมถึงที่จอดรถที่คอยอำนวยความสะดวกถึง 30-50 คัน นับว่าเยอะพอกับจำนวนลูกค้าในแต่ละวัน ถ้าทางร้านมี Wi-Fi ให้บริการด้วยจะดีมาก เพราะที่นั่งเหมาะกับการมานั่งทำงานยาวๆ จริงๆ ค่ะ

 

จุดเด่นของร้านอัญชันคาเฟ่

1. ร้านอัญชันคาเฟ่เป็นร้านอาหารไทยที่มีให้เลือกทานครบทั้ง 4 ภาค อาหารรสชาติดีราคาไม่แพงจนเกินไปถ้าเทียบกับความอร่อย ปริมาณอาหารที่เยอะคุ้มราคา ในบรรยากาศร้านที่ดูอบอุ่น

2. อาหารของทางร้านทุกภาคปรุงสดใหม่ทุกเมนู เป็นร้านอาหารที่ใส่ใจในเรื่องรสชาติและความสะอาด

3. เมนูอาหารแบ่งตามหมวดหมู่ของแต่ละภาค ดูแล้วเข้าใจง่าย ยิ่งมีภาพประกอบที่ชัดเจนทำให้เลือกเมนูที่ตรงใจได้ไม่ยากค่ะ 

4. ร้านอาหารมีบรรยากาศอบอุ่นน่ารักเหมือนได้ทานอาหารที่บ้าน ส่วนเมนูต่างๆ ของทางร้านถ้าใครได้มาทานจะรู้สึกเหมือนได้ทานกับข้าวฝีมือคุณแม่ของเรา

5. ทางร้านสามารถรองรับที่นั่งลูกค้าได้ถึง 140 ที่ ไม่ว่าจะมาแบบกลุ่มใหญ่หรือเล็ก สามารถเลือกโต๊ะนั่งได้ตามความเหมาะสม

6. ลานจอดรถมีความกว้างขวาง ใครที่มาโดยรถส่วนตัวก็ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดไกลเลยค่ะ จอดหน้าร้านอาหารได้ตลอดทุกชั่วโมง

7. ราคาอาหารไม่แพงจนเกินไปเริ่มต้นที่ 65 บาท ถ้าเทียบกับรรยากาศที่ดูอบอุ่น มาแล้วผ่อนคลาย ราคานี้ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ค่ะ 

 

       ข้อเสนอแนะ

1. อยากให้ทางร้านมีบริการ Wi-Fi ในอนาคตค่ะ เพราะบรรยากาศชวนให้นั่งทำงาน นั่งคุย และเล่นโซเชียลแบบยาวๆ มาก

2. สำหรับเมนูแกงปูใบชะพลูจะมีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน หากใครไม่ทานรสจัดมากให้รีบแจ้งพนักงานตอนสั่งอาหารนะคะ

3. ใครที่ไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัวอาจเดินทางมาค่อนข้างลำบากค่ะ เพราะร้านอยู่ห่างรถไฟฟ้าพอสมควรค่ะ

4. วันที่ทีมงานไปรีวิวเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง ซึ่งตรงกับเวลาที่พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่แวะเข้ามาทานอาหาร บางโต๊ะจึงได้รับการบริการที่ล่าช้าเรื่องการเสิร์ฟอาหารไปบ้าง อยากให้ทางร้านเพิ่มความไวในการบริการมากขึ้นค่ะ

          จากความผูกพันธ์ของครอบครัวทางร้านที่ชื่นชอบดอกอัญชัน จนวันนึงได้เลือกดอกอัญชันมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำอาหาร จนเกิดร้านอัญชันคาเฟ่ขึ้น แถมเห็นคุณค่าของอาหารไทยทั้ง 4 ภาค อยากถ่ายทอดรสชาติอาหารไทยให้ทุกคนประทับใจ แบบนี้คนรักอาหารไทยมาแล้วต้องเทใจให้ร้านนี้เกินร้อยเลยค่ะ ใครที่อยากพาครอบครัวเปลี่ยนบรรยากาศการทานอาหารที่บ้านมาทานที่ร้านนี้ น่าจะได้รับความอบอุ่นกลับไป หรือใครที่ทำงานออฟฟิศใกล้ๆ ลองมาแวะทานอาหารไทยหน้าตาดี รสชาติโดน ราคาที่เอื้อมถึงกันนะคะ ติดตามรายละเอยีดทางร้านได้ที่ Facebook อัญชันคาเฟ่