[รีวิว] ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant (สการ์เล็ต ไวน์ บาร์แอนด์เรสเตอรองท์) โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) ดื่มด่ำค่ำคืนอันแสนพิเศษ บรรยากาศวิวสวยยามค่ำคืน อาหารที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน

          สวัสดีเพื่อนค่ะเพื่อนๆ ชาวอาหย่อยรีวิว และผู้อ่านที่รักทุกคนที่หลงใหลในการทานอาหารอร่อยๆ หรือกำลังมองหาร้านอาหารดีๆ บรรยากาศที่น่าประทับใจเพื่อชวนคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนฝูงไปลิ้มลองความอร่อยและสัมผัสบรรยากาศที่ดีในทุกช่วงเวลาของวันหยุดหรือวันพิเศษค่ะ ครั้งนี้ใบไผ่และทีมงานอาหย่อยรีวิวจัดเต็มแบบไม่รอช้า รีบเขียนบทความและนำมาบอกต่อสถานที่ดีๆ รสชาติอาหารอร่อยถูกใจให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ หลังจากที่ได้ไปแวะเวียนและลองทานอาหารอร่อยๆที่ห้องอาหารสุดชิค แถมบรรยากาศยังแสนโรแมนติกด้วยวิวสวยๆของถนนสีลมที่สามารถมองผ่านกระจกใสๆของห้องอาหารได้อย่างชัดเจน กับห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant (สการ์เล็ต ไวน์ บาร์แอนด์เรสเตอรองท์) ที่ตั้งอยู่บนชั้น 37 ของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) ที่การมาเยือนครั้งนี้นอกจากจะเต็มอิ่มกับบรรยากาศที่ชวนหลงใหลแล้วรสชาติอาหารฝรั่งเศสที่รังสรรค์มาให้ได้ทานกันยังเป็นรสชาติที่ติดอกติดใจของใบไผ่และทีมงานที่ได้มาทานกันอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนื้อแกะ (lamb tartar) หรือเมนูเนื้อวัวส่วนซี่โครงติดกระดูก (La Cote de Boeuf) ที่รับประกันความนุ่ม ฉ่ำลิ้น และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โดยคัดสรรคุณภาพพรีเมี่ยมสั่งตรงสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเทือกเขา Rangers Valley ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในผู้นำด้านฟาร์มวัวกันเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีเมนูสุดพิเศษอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบเลย แถมราคาอาหารก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดอีกด้วย มาติดตามความพิเศษและอร่อยครั้งไปด้วยกันนะคะ ไปลุยกันเลย!!!

[ชมคลิป] อาหารฝรั่งเศสกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ณ ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant @Pullman Bangkok Hotel G Silom ฉบับเต็ม

 

 

    SPONSORED

การเดินทาง

          “ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant (สการ์เล็ต ไวน์ บาร์แอนด์เรสเตอรองท์)ตั้งอยู่ที่ชั้น 37 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) หากมารถไฟฟ้า BTS ให้ลงที่สถานีช่องนนทรี ทางออกที่ 3 เดินตรงมาถึงสี่แยกที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตัดกับถนนสีลม จากนั้นให้เดินข้ามแยก เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปประมาณ 200 เมตร จะเจอโรงแรมค่ะ หรือหากเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน MRT ให้ลงที่สถานีสีลม แล้วเดินตรงมาตามถนนสีลมและข้ามแยกที่ตัดกับถนนนราธวาสราชนครินทร์ ระยะทางประมาณ 800 เมตร ก็จะเจอกับโรงแรมอยู่ทางขวามือนะคะ

เวลาทำการ        :           เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 – 01.00 น.

เบอร์โทร            :           096 860 7990 หรือ 02 352 4000

อีเมล                 :           [email protected]

เฟสบุก              :           www.facebook.com/Scarlettwinebarbangkok

อินสตาแกรม      :           ScarlettBangkok

รับบัตรเครดิต     :           อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, มาสเตอร์การ์ด, วีซ่า, ไดเนอร์คลับ 

ที่จอดรถ            :           ภายในโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) 

 


แผนที่จาก : www.thaihoteljob.com

 

บรรยากาศของห้องอาหารสการ์เล็ต ไวน์ บาร์แอนด์เรสเตอรองท์

          เมื่อมาถึงโรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) แล้วให้เดินเข้ามายังด้านในอาคารเราก็จะเจอกับชั้นล็อบบี้สุดเก๋ไก๋ชิคๆ เช่นเดียวกับดีไซน์การออกแบบตกแต่งของโรงแรมที่มีความทันสมัยอย่างลงตัวมากค่ะ จากนั้นให้กดลิฟต์มาที่ชั้น 37 เพื่อไปยังห้องอาหารสการ์เล็ตได้เลย พอลิฟต์เปิดปุ๊บก็จะเจอกับทางเข้าเพื่อไปยังห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant​ ทันทีค่ะ


บริเวณด้านหน้าทางเข้าของโรงแรมและชั้นล็อบบี้ชิคๆค่ะ

 

 


นั่งรอเพื่อนๆ กันก่อนนะคะ

 


กดลิฟต์มายังชั้น 37 ก็จะเจอกับห้องอาหารสการ์เล็ตทันทีเลย

 


เดินตรงเข้ามาทางด้านในผ่านโซนตู้เก็บแสดงไวน์ที่อลังและสวยงามมากค่ะ

          ภายในห้องอาหารสการ์เล็ตจะตกแต่งแบบชิคๆ เก๋ๆ ด้วยความทันสมัยแต่ให้ความรู้สึกบรรยากาศที่เรียบง่ายและสบายๆ เป็นกันเองแฝงด้วยสีสันที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกในทุกช่วงเวลาที่ได้สัมผัส บริเวณพื้นที่ถูกจัดสรรเป็นมุมต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งตามชอบใจ โดยจะมีทั้งมุมที่นั่งแบบส่วนตัวสบายๆ ด้วยเบาะโซฟานุ่มๆมองเห็นวิวสวยๆ ติดริมระเบียง มุมห้องส่วนตัว มุมที่นั่งแบบเก๋ไก๋ตามแนวบาร์เครื่องดื่ม มุมโต๊ะไม้ทรงสูงที่สามารถนั่งทานอาหารแบบสบายๆเป็นกันเองกับกลุ่มแก็งเพื่อนฝูง หรือเลาจน์ที่มีโซฟาหนังหรือแบบวินเทจให้ได้เลือกนั่งค่ะ รวมๆ แล้วสามารถรองรับแขกได้ประมาณ 200 ท่าน นอกจากนี้ก็ยังมีครัวเปิดโชว์การปรุงอาหารสำหรับการย่างเนื้อต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ในระหว่างทุกช่วงเวลาของการรับประทานอาหารนั้นเราก็ยังจะถูกขับกล่อมด้วยดนตรีเพราะจังหวะดีพเฮาส์ และโซลฟังค์มิวสิคอีกด้วยค่ะ และสำหรับใครที่ชื่นชอบการฟังเพลงแบบมีดีเจมาเปิดเพลงทางห้องอาหารก็มีการจัดดีเจมาเปิดเพลงให้ด้วยในทุกคืนวันศุกร์สุดท้ายของเดือนนะคะ สามารถอัพเดทข้อมูลหรือโทรสอบถามทางห้องอาหารก่อนล่วงหน้าได้เลยค่ะ

 


มุมโต๊ะไม้สูงที่สามารถนั่งรวมกลุ่มเป็นแก๊งพูดคุยกันได้อย่างออกรส

 

 

 


มีความสวยและโรแมนติกด้วยวิวสวยๆ ของตึกระฟ้าของถนนสีสม

 


มุมบาร์เครื่องดื่มที่ค่อนข้างกว้างขวางเก๋ไก๋อย่างมีสไตล์

 

 


มุมส่วนตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีหลายมุมนะคะ

 

 


มุมนี้ก็เก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบมีสไตล์และผ่อนคลายด้วยโซฟาแบบนุ่มๆ

 


ที่นั่งริมระเบียงติดผนังกระจกใสๆของโรงแรมที่มองเห็นวิวได้อย่างชัดเจนและสวยงามมากๆ ค่ะ 

 

SPONSORED

 

เมนูความอร่อยของห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant 

          เดินทางมาถึงเมนูความอร่อยของห้องอาหารสการ์เล็ตกันแล้วนะคะเพื่อนๆ ที่ห้องอาหารแห่งนี้จะเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสขนาดแท้ที่รังสรรค์โดยเชฟมืออาชีพ พร้อมทั้งเสริฟความอร่อยของไวน์ชั้นเลิศมากกว่า 230 ชนิดที่น่าจะถูกอกถูกใจสำหรับคนที่ชอบดื่นด่ำและละเมียดละไมในรสชาติอาหารสไตล์ฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับพร้อมทั้งจิบไวน์รสชาติดีๆอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งเมนูอาหารก็ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว และนอกจากนี้ก็ยังมีชีสแบบต่างๆที่คัดสรรคุณภาพมาให้ลิ้มลอง พร้อมทั้งเครื่องดื่มโฮมเมดค็อกเทลแบบจัดเต็มอีกด้วย

 


เมื่อเลือกที่นั่งได้แล้วก็จะมีพนักงงานมาแนะนำเมนูอาหารของทางห้องอาหารค่ะ

 

 


ป้ายเมนูแนะนำอาหารประจำเดือนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามช่วง และเมนูอาหารทั้งหมดของห้องอาหารค่ะ

 

  • มาดูอาหารทั้งหมดของห้องอาหารกันดีกว่านะคะ ว่ามีอะไรกันบ้างค่ะ ขอแบ่งหลักๆ และจัดประเภทตามความรู้สึกของตัวเองดังนี้ค่ะ

          1. เมนูจำพวกชีสต่างๆ ปาเต้และเทอร์รีน Patés and Terrines (ปาเต้และเทอร์รีน) : เมนูชีสต่างๆ ของทางห้องอาหารก็จะมีค่อนข้างหลากหลายมากๆ ค่ะ ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์โชว์ให้ลูกค้าได้เลือกทานกันแบบอลังและจุใจกันเลยทีดียว ซึ่งลูกค้าจะสั่งทานแบบเป็นเช็ต เช่น เลือกทานแบบ 2,3 หรือ 5 อย่างก็ได้ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปค่ะ สำหรับปาเต้และเทอร์รีนก็จะเป็นอาหารฝรั่งเศสที่เป็นการเอาเนื้อบดผสมไขมัน ตับบดหยาบๆ และหรือมักผสมไขมัน ผัก สมุนไพร เครื่องเทศ หรือไวน์ตามแต่สูตรค่ะ ซึ่งทางห้องอาหารก็มีประมาณ 4 แบบในราคาที่แตกต่างกันให้เลือกทานค่ะ

          2. First impression หรือเมนูเรียกน้ำย่อย : จะเน้นเป็นพวกเมนู Starters หรือ Appetizer เช่น Lyonnaise salad, Poached egge, Sardines en boite, Nicoise salad, Smoked salmon rock salad, Burgundy snails, Lobster Caesar salad, Homard and foie ravioli และ Pan fried foie gras เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีเมนูซิกเนเจอร์ของทางห้องอาหารอีกด้วย เช่น เมนูที่ทำจากไขกระดูก (Bone Marrow) เนื้อดำทานคู่กับฟัวกราส์หรือตับห่าน และเมนูขาปูอลาสก้าสลัดที่มีทั้งอโวคาโด มะม่วงผสมผสานคลุกเคล้ามัสตาร์ดและมายองเนส เป็นต้น

          3. อาหารจานหลัก : ก็จะมีเมนูอร่อยหลายเมนูและหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกทาน

- Main course : เมนูอร่อยต่างๆ ที่มีวัตถุดิบหลักที่ใช้ขาเป็ด ไก่ เนื้อวากิว หรือเนื้อปลา ผ่านการปรุงรสอย่างพิถีพิถันมาเป็นเมนูน่าทานต่างๆ งานนี้ใครชอบทานอะไรก็เลือกทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีเมนูแฮมแบบต่างๆ สามารถสั่งทานกันแบบอลาคลาสและแบบเป็นเช็ตเหมือนอย่างชีสก็ได้ (ราคาก็แต่ต่างกันไปเช่นเดียวกัน)

- The Grill : เมนูกริลล์หรือย่างนั่นเอง โดยค่อนข้างจะเป็นไฮไลท์ของทางห้องอาหาร เพราะเนื้อแบบต่างๆ ถูกคัดสรรจากฟาร์มเลี้ยงที่มีคุณภาพแบบสุดๆ และเนื้อของทางร้านจะถูกแช่ด้วยเครื่องบ่มเนื้อสัตว์แบบแห้งหรือ Dry Age ที่มีการรักษาอุณหภูมิคงที่อยู่ตลอดเวลาเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนบริโภค ข้อดีของการทานเนื้อแบบนี้คือเนื้อที่ได้จะมีความเข้มข้นและทำให้เนื้อสัมผัสของเนื้อนั้นนุ่มชุ่มลิ้น อีกทั้งมอบรสชาติและกลิ่นที่ดีเวลาทานอีกด้วยค่ะ โดยที่ร้านก็จะมีให้ลูกค้าเลือกทานทั้งหมด 3 แบบได้แก่ เนื้อแบบRib-eye 250 กรัม (จะเป็นเนื้อล้วนๆ ไม่มีซี่โครงติดมาด้วย) เนื้อส่วน Strip loin 350 กรัม (เนื้อส่วนที่ติดซี่โครง) และเนื้อแบบติดซี่โครงน้ำหนัก 1 กิโลกรัมค่ะ เสริฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเนื้อโกเบ เนื้อวัววากริว (Australian Wagyu) เนื้อแกะ และหมูคุโรโบตะ เป็นต้น

- From the land : จะมีเมนูที่รังสรรค์จากเนื้อแกะให้ได้ทาน

- From the ocean : ก็จะเป็นพวกเมนูที่ทำจากปลาแซลมอน ปลาทะเล กุ้งลอปเตอร์หรือหอยเซลล์ เป็นต้น

- Tarteres : เมนูทาทาร์เป็นเมนูอาหารของฝรั่งเศสที่ทำจากเนื้อสดๆไม่ว่าจะเป็นจากเนื้อปลาแซลมอน ทูน่า หรือเนื้อวัว เป็นต้น

- Pastas : เมนูพาสต้าแบบต่างๆ

- Soups : ซุปแบบต่างๆ เช่น ซุปมะเขือเทศ ซุปหัวหอมแบบต้นตำรับของฝรั่งเศา ซุปล็อบสเตอร์ เป็นต้น

          4. เมนูของหวาน : มีเมนูขนมสไตล์ยุโรปหรือฝรั่งเศสสามารถเลือกสั่งทานได้ตามความชอบ เช่น ช็อกโกแล็ตฟองดูว์ หรือมิลเฟ่ย เป็นต้น

หมายเหตุ : เมนูพิเศษของเดือนสิงหาคม จะเป็นเมนูเนื้อแกะดอร์เปอร์ (เสิร์ฟจนกว่าของจะหมด) ซึ่งเป็นสายพันธ์แกะเนื้อที่ขึ้นชื่อเรื่องของคุณภาพเยี่ยมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โดยการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างแกะพันธุ์แบล็คเฮด เปอร์เซียน (Blackhead Persian) และพันธุ์ดอร์เซทฮอร์น (Dorset Horn) ส่งตรงจากฟาร์ม Dorper Lamb เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ฟาร์มที่นิยมเลี้ยงดูตามธรรมชาติในทุ่งกว้าง และยึดหลักการเลี้ยงแบบยั่งยืนเพื่อความนุ่มและรสสัมผัสอันดีเยี่ยมของเนื้อแกะเลยทีเดียวนะคะ ได้แก่

  • เมนู Appetizer อย่างสลัดสเต็กเนื้อแกะดิบเสิร์ฟคู่เห็ดทรัฟเฟิลมูสและพาสลีย์กรอบ (Dorper lamb carpaccio served with truffle mousse and crispy parsley) ทาทาร์เนื้อแกะ (lamb tartar) ที่คลุกเคล้าน้ำมันมะกอก กระเทียม และฮัมมุส หรือเมนูประจำแถบโพรว-องซ์ Petits Farcis พริกหยวกยัดไส้ด้วยเนื้อแกะสับละเอียด
  • เมนูจาน lamb paupiette เนื้อแกะห่อเป็นชิ้นและด้านในยัดไส้ด้วยผักและเนื้อแกะอีกทีเสิร์ฟคู่มันฝรั่ง ต่อด้วย กริลล์เนื้อแกะส่วนทีโบนเสิร์ฟคู่มันฝรั่ง หรือเนื้อแกะส่วนไหล่แสนนุ่มละลายในปากใช้เทคนิคซูวีเสิร์ฟคู่ผักย่าง เนื้อแกะตุ๋น หรือ lamb shank เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบด และอื่นๆ อีกมากมาย ราคาเริ่มต้นจานละ 350++ บาท

 


เนื้อในตู้บ่มเนื้อสัตว์แบบแห้ง Dry Age ในอุณหภูมิเหมาะสมที่ 2 องศาเซลเซียส
ช่วยทำให้เนื้อมีความนุ่ม หอมหวานละมุนลิ้นเวลาทาน

 

 


อีกหนึ่งความพิเศษของเมนูกริว (Grill) นั่นคือ การใช้ไม้มะขามจากเชียงใหม่
ช่วยเพิ่มความหอมอบอวลกับเนื้อให้มีความหอมน่าทานมากยิ่งขึ้น

 

 


ทางร้านจะมีการโชว์เนื้อในส่วนต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกทานอีกด้วย

 

 


เคาน์เตอร์หรือบาร์ชีสที่ลูกค้าสามารถมาเลือกทานได้อย่างถูกใจ

 


เมื่อสำรวจเมนูความอร่อยของทางห้องอาหารจนครบแล้ว 
พวกเราก็ไม่รอช้าที่จะสั่งอาหารมาลิ้มลองกันค่ะ

 


ขนมปังและเนยมาเสิร์ฟให้พร้อมเสร็จสรรพที่โต๊ะอาหาร

 

 


ขนมปังที่พนักงานหั่นมาให้ทานค่ะ

          ความรู้สึกต่อขนมปังและเนย : แป้งทางด้านนอกมีความแข็ง ด้านในนุ่มๆ เหมือนขนมปังทั่วไป ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ทานคู่กับเนยมีความอร่อยดีค่ะ รสชาติขนมปังจืดๆ แต่พอทานกับเนยที่มีความหอมและมีความหวานมันนิดๆ อร่อยเข้ากันดี หรือจะทานกับซุปที่เราสั่งมาทานก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ (มีความฟินกับเนยมากๆอร่อยมากค่ะ)

 


Lobster Bisque creamy emulsion in a puff pastry dome

          ความรู้สึกต่อเมนูอาหาร : Lobster Bisque creamy emulsion in a puff pastry dome หรือซุปล็อบสเตอร์ แบบครีมมี่เข้มข้น เสิร์ฟคู่มากับพัฟเพสทรี (แป้งพายชั้น) รูปแบบโดม (dome) ที่มีหน้าตาที่สวยงามชวนน่ารับประทานมากๆ สีของขนมปังแบบโดมตาข่ายเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่ชวนให้อาหารมีลูกเล่นและเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี ตัวซุปนั้นเป็นครีมเนื้อละเอียดสีส้มอ่อนผสมผสานกับกุ้งล็อบสเตอร์จากมหาสมุทรแอตแลนติกบดละเอียดคลุกเคล้าจนเข้ากัน เป็นรสชาติที่อร่อยอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ มีความกลมกล่อมแบบเข้ากั๊นเข้ากัน รสชาติที่ลงตัวละเมียดละไมให้สัมผัสที่ดีกับลิ้นของเราเวลาทานมากๆ นอกจากนี้ยังหอมกุ้งและเครื่องเทศต่างๆ ที่ผสมผสานอยู่ในเมนูนี้อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอยังสามารถหักขนมปังกรอบที่เสิร์ฟมาด้วยกันนี้ทานคู่กันด้วยแล้วก็อร่อยอีกแบบทำให้เวลาทานซุปไม่เลี่ยนเลย

 


Dorper lamb carpaccio served with truffle mousse and crispy parsley

 


เนื้อแกะมีความบางแบบสุดๆไปเลยค่ะ

          ความรู้สึกต่อเมนูอาหาร : Dorper lamb carpaccio served with truffle mousse and crispy parsley หรือสลัดสเต็กเนื้อแกะดิบเสิร์ฟคู่เห็ดทรัฟเฟิลมูสและพาสลีย์กรอบ สำหรับเมนูนี้หน้าตาเมนูอาหารมีความน่าทานไม่แพ้เมนูแรกเลย สีของเนื้อแกะมีความแดงชมพู ฉ่ำน้ำมันมะกอกน่าทานมากค่ะ เนื้อแกะมีความบางแบบสุดๆจริงๆ รสชาติเนื้อนุ่มหวานอร่อยตามแบบฉบับธรรมชาติที่สำคัญไม่มีความคาวเลย ทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิลมูสหรือพาสลีย์ก็เข้ากันเพราะเห็ดและผักมีความสดกรอบดี ที่สำคัญช่วยทำให้รสสัมผัสเวลาเคี้ยวทานเนื้อแกะมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น

 


Alaskan King Crab Salad (Le Crabe Royal d’Alaska)

          ความรู้สึกต่อเมนูอาหาร : Alaskan King Crab Salad (Le Crabe Royal d’Alaska) เมนูนี้แนะนำให้ลองค่ะ เมนูนี้มีสีสันสดใสสวยงามมากๆ และการตกแต่งก็ทำได้ดีชวนน่ารับประทาน  จานนี้เป็นสลัดเนื้อปูอลาสก้าคลุกเคล้ามัสตาร์ดและมายองเนส ผสมด้วยอะโวคาโดและมะม่วง เสิร์ฟชั้นแรกมาเป็นเนื้อสลัดปูอลาสก้าที่คลุกเคล้าส่วนผสมและปรุงรสมาอย่างพิถีพิถันและเขยิบขึ้นมาก็จะเป็นคล้ายๆ กับซอสอะโวคาโดและมะม่วงนะคะ ปิดท้ายท้อปปิ้งด้านบนเป็นผักกรุบกรอบ รสชาตินี่ต้องบอกเลยว่าเมนูนี้สุดๆจริงๆไม่ได้อวยคือมีความอร่อยแบบลงตัวมากๆ เนื้อปูกับส่วนผสมต่างๆมันทานแล้วรู้สึกได้ว่าเข้ากันและสัมผัสได้ถึงเนื้อปูจริงๆ และยังมีความหอมของกลิ่นปูอีกด้วยค่ะ เนื้อปูที่เสิร์ฟมาด้านข้างก็เนื้อแน่นเคี้ยวอร่อยหวานหอมเนื้อปูมากๆ ค่ะ นอกจากนี้การนำอะโวคาโดและมะม่วงมาผสมผสานเข้าไปในเมนูมันทำให้เวลาทานแล้วสดชื่น รสชาติหวานแบบธรรมชาติและมีความเผ็ดนิดๆ ที่ปลายลิ้นเวลาทาน หากเดาเองก็แอบคิดว่าอาจจะเป็นวาซาบิหรือป่าว อันนี้ก็ต้องไปสืบจากเชฟกันเองนะคะ แต่บอกได้คำเดียวว่า “อร่อย” ค่ะ

 


La Cote de Boeuf

 


อาหารจานหลักของพวกเราค่ะ ดูสีของเนื้อสิคะ น่าทานมากๆ

 


ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษทั้ของทางห้องอาหารมีทั้งหมด 3 รสชาติ

          ความรู้สึกเมนูอาหาร : La Cote de Boeuf เราสั่งมาทานแบบน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นไซส์สำหรับทาน 3-4 ท่านค่ะ โดยจานนี้เป็นเนื้อส่วนซี่โครงติดกระดูกที่ผ่านการบ่มในตู้บ่มเนื้อสัตว์แบบแห้ง Dry Age 3-4 สัปดาห์ก่อนนำมาปรุงเสริฟ และเป็นเนื้อที่คัดเกรดมาจากฟาร์ม Rangers Valley ที่คัดสรรคุณภาพ ประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียวนะคะ โดยเราสั่งแบบ Medium-Rare ค่ะ ต้องบอกเลยว่าสีสันของเนื้อมีความน่ารับประทานมากๆ และมีความหอมอ่อนๆจากการย่างชวนเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี สำหรับรสชาติของเนื้อมีความหอมจากการย่าง รสชาติไม่เค็มแต่มีความพอดีแบบธรรมชาติ มีความนุ่มเคี้ยวง่าย ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ ถือว่าเนื้อมีคุณภาพมากจริงๆค่ะให้ผ่าน แต่จะมีส่วนที่ไหม้นิดนึงแต่อยู่ในระดับที่รับได้ สำหรับซอสที่ให้มานั้นมีแบบได้แก่ เปปเปอร์คอร์น บลูชีส และเบียร์เนส (Béarnaise) รสชาติก็จะแตกต่างกันออกไปเมื่อทานคู่กับซอสแต่ละแบบนะคะ ส่วนตัวชอบเปปเปอร์คอร์นที่สุดค่ะเพราะมีความหอมของพริกไทยดำ ทานได้เรื่อยๆไม่เลี่ยน ส่วนบูลซีสก็โอเคค่ะมีความหอมของซีสออกตามสไตล์อาหารฝรั่งค่ะ  แต่ถ้าทานคนเดียวจะรู้สึกเลี่ยนนิดหน่อย  นอกจากนี้ตัวมันฝรั่งทอดก็ถือว่าอร่อยนะคะ เป็นมันฝรั่งทอดชิ้นใหญ่เลยให้กลิ่นและรสชาติหวานแบบรสมันฝรั่งแท้ๆ ธรรมชาติๆ เลย ทานไปทานมาเผลอแปบเดียวหมดจานแล้วค่ะเพื่อนๆ 555+


Slow cooked Lamb Shank served with mash potato

 


มีเครื่องเคียงเป็นผัดผักรวมมิตรให้ทานคู่กันด้วยนะคะ

          ความรู้สึกต่อไลน์อาหารสดของทางร้าน : Slow cooked Lamb Shank served with mash potato เป็นเมนูเนื้อแกะตุ๋นเสิร์ฟคู่มันบด และมีเครื่องเคียงเสิร์ฟมาด้วยเป็นผัดผัดรวมมิตรนะคะ สำหรับรสชาติของเนื้อแกะเนื้อไม่เหนียว มีความนุ่มเคี้ยวง่าย กลิ่นเหม็นสาบของเนื้อแกะไม่มีเลย ถือว่าอร่อยรสชาติเข้มข้นและทานง่ายดีค่ะ โดยความรู้สึกส่วนตัวชอบทานคู่กับมันบดมากๆเพราะรสชาติมีความเข้ากัน มันบดมีความเนียนหอมหวานแบบพอดี ส่วนผัดผักนั้นรสชาติโอเคเหมือนผัดผักทั่วไปแต่มีความความสดและกรุบกรอบดีเวลาทานค่ะ

 

 


ปิดท้ายเมนูความอร่อยด้วยของหวานกันสักหน่อยค่ะ

          ความรู้สึกต่อเมนูของหวาน : สำหรับเมนูของหวานช็อกโกแล็ตฟองดูว์ภาพรวมรสชาติโอเคค่ะ ความเข้มข้นของเนื้อแป้งและช็อกโกแล็ตมีความหวานและขมโอเค ทานคู่กับไอศกรีมเข้ากันดีค่ะ  รสชาติของไอศกรีมมีความอร่อยแตกต่างจากทั่วไป ชอบไอศกรีมมากค่ะสำหรับเมนูนี้ ส่วนมิลเฟ่ยโอเคมีความหวานแบบพอดีไม่หวานมาก ตัวแป้งมีความกรุบกรอบตัดกับความหอมหวานของเนื้อครีมที่แทรกซึมอยู่ในแต่ละชั้นค่ะ ตามความรู้สึกส่วนตัวโดยภาพรวมเมนูของหวานทานได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ค่ะ ถือว่าอยู่ในระดับโอเคค่ะ

SPONSORED

 

การประเมินและให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.2

บรรยากาศ

4.2

การบริการ

4.0

ความคุ้มค่า

4.1

คะแนนเฉลี่ย

4.125

 


ไม้มะขามที่ใช้ในการย่างเนื้อแบบต่างๆ

 


ครีมบำรุงหรือโลชั่นหอมกลิ่นตะไคร้แบบอ่อนๆค่ะ

 

          สำหรับเรื่องของรสชาติอาหารของห้องอาหารสการ์เล็ตถือว่ารสชาติอาหารอร่อย มีความกลมกล่อมรสชาติดีแถมยังมีการจัดตกแต่งออกมาได้สวยงามน่ารับประทานมากๆ ส่วนวัตถุดิบและส่วนประกอบต่างๆ ที่นำมาปรุงอาหารนับว่ามีคุณภาพดี อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่ช่วยชูรสชาติอาหารให้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยรวมประทับใจในเรื่องของรสชาติอาหารมากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องของบรรยากาศถือว่าดีงามจริงๆ เพราะห้องอาหารจัดตกแต่งได้สวยงามให้ความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง และยังมีความทันสมัยเก๋แบบชิคๆ ชิลๆ แถมพ่วงด้วยวิวสวยๆ ของถนนสีลมอีกทำให้บรรยากาศชวยหลงใหลและมีความโรแมนติกมากๆค่ะ

          ส่วนการบริการนั้นถือว่าทำได้ดีเพราะพนักงานมีความเอาใส่ใจในการบริการดี และหน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมให้บริการถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเหมาะสมกับห้องอาหารในโรงแรมมากๆ เลย ต่อมาเรื่องของความคุ้มค่าโดยความรู้สึกส่วนตัวมองว่ารสชาติอาหารอร่อยในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ต้องมีราคาแพงมากๆ แน่เลย

          แต่ราคาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ถือว่าโอเคอยู่ในระดับที่ยังพอรับได้ไม่แพงจนเกินไป ถือว่าความเหมาะสมกับวัตถุดิบที่ทางร้านใช้และรสชาติที่ปรุงออกมาได้อย่างพิถีพิถันไม่ผิดหวังนะคะ สำหรับราคาอาหารที่เราทานไปดังนี้ค่ะ เมนูซุปล็อบสเตอร์ ราคา 310 บาท เมนูสลัดสเต็กเนื้อแกะดิบเสิร์ฟคู่เห็ดทรัฟเฟิลมูสและพาสลีย์กรอบ ราคา 350 บาท เมนูสลัดเนื้อปูอลาสก้าคลุกเคล้ามัสตาร์ดและมายองเนส ผสมด้วยอะโวคาโดและมะม่วง ราคา 620 บาท เมนูLa Cote de Boeuf น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ราคา 2,550 บาท ถือว่าหารกับเพื่อนทานกัน 3-4 คนก็พอรับได้ค่ะกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับนะคะ และสุดท้ายเมนูเนื้อแกะตุ๋นเสิร์ฟคู่มันบด ราคา 680 บาทค่ะ

 

จุดเด่นของห้องอาหาร

          1. เมนูอาหารมีรสชาติอร่อยและใช้วัตถุดิบที่คัดสรรคุณภาพ

          2. เมนูอาหารเน้นเป็นอาหารฝรั่งเศสที่เป็นสูตรต้นตำรับ

          3. บรรยากาศดีงามด้วยวิวสวยๆแบบพาราโนมาของถนนสีลม และห้องอาหารตกแต่งสวยงามให้บรรยากาศชิลล์สบายๆเป็นกันเอง

          4. พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส่ ดูแลเอาใจใส่ดี

          5. มีไวน์คุณภาพรสชาติดีกว่า 250 ชนิด พร้อมทั้งเมนูเครื่องดื่มหรือโฮมเมดค็อกเทลนานาชนิด

          6. ทางห้องอาหารใช้ไม้มะขามในการย่างหรือกริวเนื้อแบบต่างๆทำให้เนื้อมีความหอมชูให้รสชาติดีอีกด้วย

          7. ภายในห้องน้ำมีครีมบำรุงทามือไว้บริการแขกเป็นกลิ่นตะไคร้หอมอ่อนๆน่าจะถูกอกถูกใจชาวต่างชาติ

 

ข้อเสนอเเนะ 

          1. การเดินทางหากมาด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินหรือบีทีเอสต้องเดินต่อไปอีกกว่าจะถึงยังโรงแรม

          2.เมนูอาหารที่ปรุงมาจากวัตถุดิบหลักอย่างเนื้อปลามีเมนูให้เลือกทานค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับวัตถุดิบหลักอื่นๆ

  

            เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดีๆ บรรยากาศชิคๆ แบบชิลๆ ที่สามารถนัดแนะเพื่องฝูงหรือจูงมือคนรักไปทานอาหารมื้ออร่อยท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แบบนี้ได้ทุกวันนะคะ โดยสามารถนั่งคุยกันแบบยาวๆ ได้เลยตั้งแต่หกโมงเย็นไปจนถึงตีหนึ่ง รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องชื่นชอบในรสชาติอาหารที่อร่อยถูกใจ และบรรยากาศดีงามแบบจัดเต็มด้วยวิวสวยๆ ยามค่ำคืนของถนนสีลมแบบพาราโนมาคละเคล้ากับเสียงเพลงและดนตรีจังหวะดีพเฮาส์ และโซลฟังค์มิวสิค นี่แหละค่ะความสุขของมื้ออร่อยที่เราสร้างได้ รับรองความฟิลลิ่งกู้ดแบบสุดๆ กันไปเลย

          และราคาอาหารก็อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ มีความเหมาะสมกับวัตถุดิบและรสชาติที่กลมกล่อมอร่อยถูกใจจริงๆ (ของเค้าดีจริงๆต้องบอกต่อไม่ได้อวย) สามารถโทรไปสอบถามเพิ่มเติมและจับจองที่นั่งวิวสวยๆกันได้ที่เบอร์ 02 352 4000 นะคะ แล้วคุณจะไม่เสียใจที่ได้ไปค่ะ ใบไผ่คอนเฟิร์ม!!! สำหรับรีวิวนี้ก็ต้องขอจบเรื่องราวความอร่อยแต่เพียงเท่านี้ค่ะ พบกันใหม่ร้านอร่อยร้านหน้าซึ่งจะเป็นที่ไหนกดติดตามเพจ Ryoii ของเราไว้เลยนะคะ รับประกันความอร่อยที่คุณไม่ควรพลาดค่ะ สวัสดีค่ะ^^

เขียนโดย
สายย่อขอรีวิว
จำนวนบทความที่รีวิว : 171
วันที่เขียนรีวิว : 2017/09/07
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.20
การบริการ
4.50
ตกแต่งสถานที่
4.20
ราคาเหมาะสม
4.00
ที่อยู่ :
โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G (สีลม) ชั้น 37 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ต. บางรัก อ. เขตบางรัก จ. กรุงเทพมหานคร ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
096 860 7990, 02 352 4000
ช่วงเวลา :
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น.
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
มี

TOP