รีวิว Kanin The Rabbit Tea Room : คาเฟ่จิบชายามบ่าย มาพร้อมบรรยากาศตึกเก่าปลายรัชกาลที่ 4

          สำหรับใครที่ชอบหาที่จิบชายามเย็นโปรดฟังทางนี้!! วันนี้ #Ryoiireview จะพาทุกคนย้อนยุคด้วยการนั่งจิบ Afternoon Tea ชาดีๆ ที่ติด 1 ใน 10 ของโลก และทานอาหารไทยโบราณเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศตึกเก่าที่มีมาตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 4 อีกด้วย และร้านที่เรากำลังพูดถึงก็คือ “Kanin The Rabbit Tea Room”

 

         Kanin The Rabbit Tea Room ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Dé Phanakron Boutique Hotel เปิดบริการทุกวัน เวลา 09:00 - 22:00 น. ที่นี่ถือเป็นห้องน้ำชาอีกหนึ่งที่ ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบจิบชาพร้อมกับ Set อาหารคาว-หวาน ในส่วนของชาก็มีให้เลือกหลายชนิดโดยจะเป็นชา Handmade ของ Harney & Sons ทั้งหมด สำหรับอาหารทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเมนูอาหารไทยโบราณและตะวันตก นอกจากนี้ก็ยังมีเมนู All Day Breakfast รวมไปถึงเบเกอรีและของว่างเป็น Chef's Table อีกด้วยค่ะ

 

 

VDO รีวิวร้าน Kanin The Rabbit Tea Room

 

การเดินทาง

 

 

          สำหรับการเดินทางมาที่ร้าน หากนำรถส่วนตัวหรือนั่ง Taxi มาสามารถปักหมุดมาที่โรงแรม De Phanakron Boutique Hotel (*ให้สังเกตคำต่อท้ายว่า Boutique Hotel) ถนนสามเสน ซอยสามเสน 6 เข้ามาในซอยประมาณ 200 เมตร จะเห็นตึกเก่าสีส้มนั่นหมายความว่าเราถึงจุดหมายแล้วค่าาา สำหรับลูกค้าที่นำรถส่วนตัวมาสามารถนำไปจอดได้ที่ลานจอดรถของโรงแรมซึ่งอยู่ถัดไปอีกนิด ห่างจากร้านประมาณ 1 นาทีค่ะ (สามารถจอดหน้าร้านได้ 1 คัน)

*เนื่องจากมีลูกค้าค้นหาร้านผิดอยู่บ่อยๆ ทางร้านจึงเน้นย้ำให้ลูกค้าสังเกตเวลาค้นหาชื่อ ที่อยู่ของโรงแรมให้เป็น “De Phanakron Boutique Hotel”

 

บรรยากาศภายในร้าน

 

บรรยากาศภายในร้าน

ตกแต่งให้อบอุ่นเหมือนอยู่ในโพรงกระต่าย

มีมุมลับอยู่ตรงนี้ด้วย

 

          Kanin The Rabbit Tea Room เปิดบริการอยู่ที่โรงแรม เดอ พระนคร (Dé Phanakron Boutique Hotel) และสำหรับโรงแรม เดอ พระนคร ตั้งอยู่ในตึกเก่าที่สร้างขึ้นมาเมื่อปลายรัชกาลที่ 4 การตกแต่งจะอิงจากสถาปัตยกรรมในยุครัชกาลที่ 5-6 ซึ่งจะมีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยโบราณ จีน และตะวันตก ในส่วนของ Kanin The Rabbit Tea Room ถูกดีไซน์ให้มีลักษณะเป็นโพรงกระต่ายเพื่อให้สอดคล้องกับ “กระต่าย” ที่เป็นสัญลักษณ์ของร้าน และยังเป็นปีเกิดของคุณแอน (เจ้าของร้าน) และคุณแม่อีกด้วยค่ะ

 

ห้องส่วนตัว

 

          และสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการห้องไพรเวท ทางร้านก็มีไว้รองรับจำนวน 2 ห้องด้วยกัน โดยแต่ละห้องก็จะตกแต่งน่าถ่ายรูปเหมือนกันทุกห้องเลยค่าา (แนะนำให้โทรจองก่อนค่ะ)

 

PET FRIENDLY

 

          สำหรับ Kanin The Rabbit Tea Room ที่นี่อนุญาตให้พาน้องหมามาที่ร้านได้ด้วย โดยทางร้านจะมีน้ำและขนมสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะไว้คอยบริการค่าาา

*หากนำน้องหมามาต้องใส่แพมเพิสมาด้วยหากไม่ได้ใส่มาทางร้านก็มีบริการค่ะ

 

ราคาและคอร์สอาหาร

          Kanin The Rabbit Tea Room ที่นี่มีให้เลือกทั้งเมนูอาหารและ Set น้ำชา โดยจะเสิร์ฟเป็น A La Carte ในช่วงเวลา 09:00 - 16:00 น. และเวลา 16:00 - 22:00 น. ทางร้านจะเสิร์ฟเมนูแบบเป็น Fine Dinning แบบ Set (ลูกค้าต้องจองล่วงหน้า) มีให้เลือก 2 Set คือ

 

► Set 1 ราคา 3,000 บาท (สำหรับ 2-3 ท่าน) *ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่ม

ของว่าง (Chef's Table) 1 อย่าง

อาหารจานหลัก 3 อย่าง

ยำ / สลัด 1 อย่าง

ขนม (Chef's Table) 1 อย่าง

► Set 2 ราคา 4,000 บาท (สำหรับ 4 ท่าน) *ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่ม

ของว่าง (Chef's Table) 1 อย่าง

อาหารจานหลัก 5 อย่าง

ยำ / สลัด 1 อย่าง

ขนม (Chef's Table) 1 อย่าง

(*สำหรับลูกค้าที่จอง 5 ท่านขึ้นไป คิดเพิ่มท่านละ 1,000 บาท พร้อมอาหารจานหลัก 1 อย่าง/ 1 ท่าน*)

*Fine Dinning ต้องจองมาล่วงหน้า (Reserve ล่วงหน้า 1 วัน)

 

Set อื่นๆ

คานิน เบซุค (Set Kanin Besuch) ราคา 500 บาท/ 1 ท่าน

(เสิร์ฟเวลา 09:00 - 18:00 น.)

► Scone 1 ชิ้น, เค้ก 1 ชิ้น, น้ำ 1 แก้ว

 

Afternoon Tea Set

 

Afternoon Tea Set สำหรับ 2 ท่าน ราคา 1,780 บาท (ในภาพคือ Guten Morning Tea Set)

 

Tea Set ของทางร้านจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Sometime Sweet Tea Set สำหรับคนที่ทานขนมหวาน และ Guten Morning Tea Set สำหรับคนที่ชอบทานคาวมากกว่าหวาน

Afternoon Tea Set สำหรับ 1 ท่าน ราคา 890 บาท (เสิร์ฟเวลา 09:00 - 18:00 น.)

► เลือกน้ำชาได้ 1 กา

Afternoon Tea Set สำหรับ 2 ท่าน ราคา 1,780 บาท (เสิร์ฟเวลา 09:00 - 18:00 น.)

► เลือกน้ำชาได้ 2 กา

(สำหรับลูกค้าท่านที่ 3 และท่านที่ 5 กรุณาสั่งชาเพิ่ม 1 กา/ ท่าน)

 

เมนูและอาหาร

 

เมนูอาหารไทยโบราณแบบจัดเต็ม

 

         สำหรับเมนูอาหารของทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเมนูอาหารไทยโบราณ Traditional และเมนูอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูเบเกอรีและของว่างเป็นสไตล์ Chef's Table ที่จะออกเมนูไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน และในส่วนของชาทางร้านเลือกใช้เป็นชาของ Harney & Sons USA ทั้งหมด ซึ่งเป็นชา Handmade และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วยค่ะ เดี๋ยวเรามาเริ่มที่เมนูอาหารไทยกันก่อนเลยค่ะ

 

ล่าเตียง ราคา 150 บาท

 

มาในขนาดพอดีคำ

หวานๆ กลมกล่อม เรียกน้ำย่อยกันก่อน

 

          เริ่มต้นที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง “ล่าเตียง” เมนูโบราณที่หลายๆ คนคงเคยได้ยิน เมนูนี้เป็นการนำหมูสับไปผัดกับเครื่องเทศจนมีรสชาติหวานนิดๆ แล้วห่อด้วยไข่ นำมาจัดจานให้สวยงาม เมนูนี้ทานแล้วตัวหมูจะหนึบๆ มีรสหวานแบบกลมกล่อมและหอมเครื่องเทศอีกด้วยค่ะ

 

ทอดมันกุ้ง ราคา 250 บาท

 

ลูกกลมโต อัดแน่นด้วยไส้กุ้ง

ทานคู่กับซอสบ๊วยสูตรพิเศษของทางร้าน เข้ากันสุดๆ

 

          ทอดมันกุ้งเมนูสไตล์จีนแต่รสชาติไทยดั้งเดิม เป็นทอดมันก้อนกลมไส้กุ้งผสมหมูสับแน่นๆ ทอดแบบไม่อมน้ำมันแล้วนำไปคลุกกับหมี่ขาวทอดกรอบอีกครั้ง กัดทานแล้วไส้กุ้งแน่นหอมกลิ่นทอด และตามด้วยความกรอบของหมี่ขาว ทานคู่กับซอสบ๊วยสูตรเฉพาะของทางร้านที่เคี่ยวเองจนมีความหนืดข้นและเติมรสเปรี้ยวเข้าไปนิด บอกเลยว่ารสชาติเป็นเอกลักษณ์มากค่ะ

 

พล่าแซลมอน ราคา 310 บาท

 

รสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับคนไทย

แซลมอนหั่นเต๋า

 

          พล่าแซลมอนเมนูอาหารไทยที่เอาใจสายสุขภาพ ด้วยการเลือกใช้เนื้อแซลมอนมาผสมกับเครื่องสมุนไพรได้อย่างลงตัว สำหรับแซลมอนหั่นเต๋าทางร้านให้มาแบบจัดเต็มทานรวมๆ แล้วเข้ากันดี รสชาติจัดจ้าน (ใครที่ไม่ทานเผ็ดอาจจะรู้สึกว่าเผ็ดไปค่ะ) ส่วนตัวชอบการหั่นเครื่องสมุนไพรของพล่า ที่จะหั่นมาแบบชิ้นเล็กและเอียดทำให้ทานง่ายขึ้น และหอมกลิ่นสมุนไพรดีค่ะ

 

แกงรัญจวน ราคา 295 บาท

 

เสิร์ฟมาในโถเบญจรงค์

น้ำแกงหอมกะปิ รสชาติถึงเครื่องมาก

 

          แกงรัญจวนอีกหนึ่งเมนูขายดีของทางร้านที่มีลูกค้าแวะเวียนมาทานซ้ำอยู่เป็นประจำ แกงโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องใช้ความปราณีตในการทำค่อนข้างมาก “แกงรัญจวน” ทานแล้วมีกลิ่นหอมของกะปิที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงรัญจวนโดยเฉพาะ ตัวน้ำแกงรสชาติจะมีความเปรี้ยวนำนิดๆ และตามด้วยความเผ็ดร้อนจากเครื่องแกงและใบโหระพาที่ใส่ลงไปแบบไม่หวงเครื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองเลยค่ะ

(แกงรัญจวนทางร้านเลือกใช้เนื้อหมู หากลูกค้าต้องการเปลี่ยนเป็นเนื้อวัวสามารถโทรแจ้งล่วงหน้าได้ค่ะ)

 

อกไก่ซอสกระเทียมและผักโขมอบชีส ราคา 350 บาท

 

จานใหญ่มากกก

อกไก่เนื้อนุ่มหอมเนยสุดๆ

 

          อกไก่ซอสกระเทียมและผักโขมอบชีส อีกหนึ่งเมนู Signature ของทางร้านที่ตัวซอสผักโขมเป็นสูตรของทางร้านเอง เวลาทานแล้วจะไม่หนักท้องจนเกินไป ส่วนอกไก่จะถูกนำไปเซียร์กับเนยบนกระทะ เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าอกไก่มีความหนาและมาในชิ้นกำลังดี ทานแล้วอกไก่นุ่มมาก ไม่เหนียวเคี้ยวแล้วไม่กระด้าง ตัวผักโขมมีความหอมรสละมุน ทานแล้วไม่เลี่ยนสามารถทานได้เรื่อยๆ ค่ะ

 

กุ้งสามกษัตริย์ (ไม่มีเสิร์ฟในเมนู A La Carte)

 

เนื้อกุ้งทอดกรอบพร้อมเปลือก

เครื่องแน่นๆ

 

          กุ้งสามกษัตริย์ เมนูนี้ใช้กุ้งขาวนำเข้าขนาดตัวกำลังดี ทอดพร้อมเปลือกจนกรอบสามารถทานทั้งเปลือกได้เลยค่ะ ตัวซอสจะเป็นพริกหวานสีเหลือง-แดง ที่นำมาผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน ทานแล้วกุ้งเนื้อกรอบมีความหอมและกลมกล่อมของน้ำซอสค่ะ

 

ปลากะพงผัดฉ่า ราคา 390 บาท

 

ปลากะพงผัดฉ่า

เนื้อปลาคลุกงาทอดกรอบหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพร

 

          เมนูปลากะพงผัดฉ่า ท็อปมาด้วยใบกะเพราทอดกรอบ เนื้อปลาแกะก้างคลุกงาทอดจนกรอบ หอมกลิ่นทอด ทานรวมๆ แล้วหอมกลิ่นเครื่องเทศเติมความเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยดำเข้ากันสุดๆ 

 

Afternoon Tea Set : Guten Morgen Tea Set (For 2 Person) ราคา 1,780 บาท

 

Guten Morgen Tea Set

 

          Guten Morgen Tea Set สำหรับ Set นี้เหมาะกับคนที่ชอบทานคาวมากกว่าหวาน เพราะใน Set จะมีทั้งแซนวิช, ตับบด, อกไก่ซอสผักโขม และสโคนเพสโต้ นอกจากนี้ในส่วนของขนมหวานก็ยังมีทั้ง Lemon Gummy Cake, Baque Cheese Cake และ Travel Rose Cake เป็นต้น

 

ชา Caribe (คาริเบ้)

 

Caribe (คาริเบ้) หรือ แคริเบียน : ชาตัวนี้เกิดมาจากพนักงานของคุณ Harney ที่มาทำงานอยู่ต่างถิ่นและเกิดความรู้สึกคิดถึงทะเล สายลม และแสงแดด ที่ “โคลัมเบีย” จึงได้นำเอาผลไม้และดอกไม้ชนิดต่างๆ มาเบลนเพื่อสื่อถึงความ “ทรอปิคอล” ให้ได้มากที่สุด และเธอก็ได้ตั้งชื่อชานี้เป็นภาษาสเปนว่า “คาริเบ้” หรือ “แคริเบี้ยน” นั่นเอง

 

          จุดเด่นของชาตัวนี้อย่างบอกว่าจะมีกลิ่นอายแบบทรอปิคอลหน่อยๆ มีส่วนผสมหลักเป็นผลไม้ อาทิ ฝรั่ง, สตรอว์เบอร์รี, และมะพร้าว นอกจากนี้ชาคาริเบ้ก็ยังมีส่วนผสมของทั้งชาดำและชาเขียว โดยสีของชาจะออกเป็นโทนสีเข้มนิดๆ และจุดเด่นคือทานแล้วจะมีความหอมของผลไม้มากๆ ค่ะ

 

Set นี้มีเมนูคาวมากกว่าหวานน๊าา

- Garlic Cream Sauce Chicken With Spinach (อกไก่ซอสกระเทียมและผักโขมอบชีส) : ผักโขมมีความหอมครีมชีส และตัวอกไก่เนื้อนุ่มไม่เหนียวค่ะ

- Avocado Smoked Salmon Open Sanwitch (แซนวิชแซลมอนหน้าเปิด) : เมนูนี้สูตรเด็ดอยู่ที่ตัวซอสที่ Kanin Souce ที่จะมีความหอมและรสเปรี้ยวนิดๆ ของครีมชีส เมื่อทานพร้อมกับแซลมอนรมควันและกลิ่นดีมากค่ะ

- Chicken Livers Pate (ตับบด) : เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังโฮลวีทรูปกระต่าย ตับบดเนื้อเนียน หอมกลิ่นตับอ่อนๆ ทานง่ายและที่สำคัญคือไม่มีรสขมและกลิ่นคาวค่ะ

- Lemon Gummy Cake (เลมอน โยเกิร์ต เค้ก) : ตัวเนื้อเค้กทำมาจากโยเกิร์ตที่นำมาผสมกับเลมอนเพื่อเสริมความเปรี้ยวและหอม เนื้อเค้กจะมีความนึบแบบ Gummy ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นค่า

- Mixed Fruit Salad With Fried Shrimp (สลัดรวมผลไม้รวมกุ้งทอด) : สลัดถูกจัดแต่งมาอย่างสวยงาม งานนี้ไม่พลาดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้แน่นอนค่าา อิอิ ตัวสลัดเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น สับปะรด, แอปเปิ้ลเขียว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานแล้วให้ความสดชื่นเวลาทานค่ะ

- Scone With Jam and Cream Cheese (สโคน) : ใน Set วันที่เราทานมีสโคนมา 2 อย่างคือ สโคนเพสโต้ และสโคนแบบออริจินัล เนื้อสโคนนุ่ม ไม่แข็ง หอมและมีความหวานนิดๆ เสิร์ฟมาพร้อมครีมชีส และแยมลิ้นจี่ที่มีความหอมหวาน (แบบไม่หวานแหลม) ทานคู่กันกับสโคนแล้วเข้ากันดีมากค่ะ 

- Travel Rose Cake (ทราเวล โรส) : เป็นเค้กโบราณสไตล์ยุโรปอีกหนึ่งเมนูที่หาทานยาก สำหรับทราเวล โรส ทานแล้วต้องบอกเลยว่าชิ้นเดียวไม่พอค่ะ เนื้อเค้กนุ่ม ไม่หนักเท่าสโคน มีรสหวานๆ และมีความหอม ทานแล้วจิบชาตามไปด้วยก็เข้ากันสุดๆ ค่ะ

- Basque Lemon Soft Cake (ชีสเค้กหน้าไหม้) : ชีสเค้กหน้าไหม้ *เมนูขายดีของทางร้านเสิร์ฟมาในชิ้นกำลังดี ทานแล้วตัวชีสเค้กเนื้อนุ่ม เด้ง มีความหอมอมเปรี้ยวนิดๆ ตามแบบฉบับของชีสเค้ก ในส่วนหน้าไหม้ของชีสเค้กทานแล้วมีกลิ่นหอมแบบไหม้นิดๆ (แต่ไม่ขมน๊า)

 

สรุปรสชาติอาหาร

ล่าเตียง : หมูผัดกับเครื่องเทศแล้วห่อด้วยไข่ ตัวไส้จะมีรสหวานนิดๆ เนื้อหนึบ หอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ค่ะ

ทอดมันกุ้ง : ทอดมันกุ้งเมนูอาหารสไตล์จีน แต่การปรุงรสชาติเป็นแบบไทยค่ะ ตัวไส้กุ้งผสมกับหมูสับปรุงรสมาแบบเนื้อแน่นๆ ทานแล้วหอมกลิ่นทอดและไม่อมน้ำมันเลยค่ะ ทานคู่กับซอสบ๊วยที่ทางร้านเคี่ยวเองจะมีรสหวาน หอม ของบ๊วยตามด้วยรสเปรี้ยวนิดๆ เข้ากันดีมากค่ะ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเมนูนี้เลยค่ะ

พล่าแซลมอน : เมนูนี้รสชาติจัดจ้านแบบถึงเครื่อง เนื้อปลาแซลมอนสดหั่นเต๋า เครื่องสมุนไพรหั่นละเอียดทำให้ทานง่าย สำหรับคนที่ไม่ทานรสจัดแนะนำให้แจ้งทางร้านก่อนค่ะ แต่ส่วนตัวเป็นคนที่ทานรสจัดค่อนข้างถูกใจกับเมนูนี้ค่ะ

แกงรัญจวน : แกงโบราณรสชาติเผ็ดร้อนและหอมกลิ่นสมุนไพร ด้วยส่วนผสมทั้งน้ำพริกกะปิที่ทางร้านตำเองและใบโหระพา เมนูนี้จะมีความเปรี้ยวนำนิดๆ หอมกะปิ และตามด้วยความเผ็ด เนื้อหมูนุ่มชิ้นพอดีคำ เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำเลยค่ะ

อกไก่ซอสกระเทียมและผักโขมอบชีส : อกไก่เซียร์กับเนยบนกระทะ เสิร์ฟมาพร้อมผักโขมที่นำไปผัดคลุกเคล้ากับครีมชีสสูตรของทางร้าน ทานรวมๆ แล้วอกไก่มีความนุ่ม เนื้อไก่ไม่แข็ง ทานง่ายๆ และหอมกลิ่นกระทะ ตัวผักโขมนุ่มและหอมครีมทานได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยนค่ะ

กุ้งสามกษัตริย์ (ไม่มีเสิร์ฟในเมนู A La Carte) : เมนูอาหารสไตล์จีน กุ้งทอดพร้อมเปลือกจนกรอบสามารถทานได้ทั้งเปลือก สำหรับเมนูนี้รสชาติไม่จัดและมีกลิ่นหอมของเหล้าจีนนิดๆ ค่ะ

ปลากะพงผัดฉ่า : ปลากะพงคลุกงาทอดจนเหลืองกรอบ นำไปผัดกับเครื่องสมุนไพรและน้ำพริกสูตรของทางร้านเอง ทานแล้วมีความหอมและเผ็ดร้อนจากสมุนไพรที่ใส่ลงไป ใครชอบทานพริกไทยดำแนะนำให้ทานพร้อมกับเนื้อเข้ากันได้ดีค่ะ

ชา Caribe (คาริเบ้) : ชาหอมผลไม้มาก ทานแล้วรู้สึกสดชื่นทำให้อยากทานต่อเรื่อยๆ และเมื่อทานคู่กับขนมหวานและอาหารที่อยู่ใน Guten Morgen Tea Set ถือว่าเข้ากันได้ดีทุกเมนูค่ะ

 

การประเมิน และให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.15
บรรยากาศ	4.10
ความคุ้มค่า	4.00
คะแนนเฉลี่ย	4.0833

 

จุดเด่นของ Kanin The Rabbit Tea Room

1. เมนูอาหารของทางร้านเป็นเมนูอาหารไทยโบราณและอาหารตะวันตก ในส่วนของเมนูของว่างและเบเกอรีจะเป็น Chef's Table

2. ทอดมันกุ้งเมนูสไตล์จีน แต่รสชาติเป็นไทยโบราณ ทางร้านทอดได้ดีไม่อมน้ำมัน ไส้กุ้งแน่น ทานคู่กับซอสบ๊วยสูตรของทางร้านที่มีความหอมและเปรี้ยวนิดๆ เข้ากันดีมากค่ะ

3. แกงรัญจวณเมนูอาหารโบราณ รสชาติเผ็ดร้อน โดยทางร้านตำน้ำพริกเองและเครื่องแกงเอง ทานแล้วมีความเปรี้ยวและหอมกะปิ เป็นเมนูแนะนำของทางร้านค่ะ

4. ชาทั้งหมดของทางร้านเป็นของ Harney & Sons USA ซึ่งเป็นชา Handmade ที่ติด 1 ใน 10 ของโลก

5. Kanin The Rabbit Tea Room เป็นร้าน Pet Friendly ที่ลูกค้าสามารถนำน้องหมาเข้ามาทานอาหารหรือจิบน้ำชาได้ด้วย โดยทางร้านจะมีบริการน้ำและขนมสำหรับน้องหมาให้โดยเฉพาะ

6. ร้านบรรยากาศดีตั้งอยู่ภายในตึกเก่าที่มีมาตั้งสมัยปลายรัชกาลที่ 4 สำหรับการตกแต่งร้านจะเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่างๆ เช่น วันคริสต์มาส และนอกจากนี้ก็ยังมีห้องไพรเวทสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วยค่ะ

7. ทางร้านมีที่จอดรถรองรับสำหรับลูกค้าที่นำรถส่วนตัวมา ซึ่งห่างจากร้านประมาณ 1 นาที

 

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ

1. เมนู A La Carte จะเสิร์ฟเฉพาะเวลา 09:00 - 16:00 น. และเวลา 16:00 - 22:00 น. เสิร์ฟเป็น Fine Dinning แบบ Set (ลูกค้าต้องจองล่วงหน้า) Afternoon Tea จะเสิร์ฟ เวลา 09:00 - 18:00 น.

2. เนื่องจากมีลูกค้าค้นหาร้านผิดบ่อยๆ ทางร้านจึงเน้นย้ำให้ลูกค้าสังเกตเวลาค้นหาชื่อ ที่อยู่ของโรงแรมให้เป็น “De Phanakron Boutique Hotel”

3. ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดยังไม่รวม Vat และ Service Charge

4. ทางร้านมีบริการ Delivery (โดยจะคิดค่าส่งตามระยะทางจริง) สามารถสั่งผ่าน App LINEMAN และ Robinhood หรือสามารถสั่งผ่านทาง Line@ : @dephanakron โทร. 093-536-3623 , 061-263-6919

5. ร้าน Kanin The Rabbit Tea Room เปิดบริการทุกวัน เวลา 09:00 - 22:00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 093-536-3623 และ 061-263-6919

 

 

          สำหรับใครที่อยากหาร้านจิบชาบรรยากาศดีๆ ที่มาพร้อมบรรยากาศตึกเก่าและเรื่องราวแบบย้อนยุค Ryoiireview ขอแนะนำร้าน Kanin The Rabbit Tea Room @Dé Phanakron Boutique Hotel ตึกที่รวบรวมสถาปัตยกรรมตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5-6 ในส่วนของเมนูอาหารก็มีให้เลือกทั้งเมนูอาหารไทยโบราณ, เครื่องดื่ม และเบเกอรีไว้คอยบริการอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังเป็น Pet Friendly ที่สามารถพาน้องหมาเข้ามาได้อีกด้วยค่า