รีวิว Kam's Roast ร้านอาหารสไตล์ฮ่องกง พร้อมเสิร์ฟเมนูห่านย่าง-เป็ดย่างสูตรต้นตำรับฮ่องกงแท้

          สำหรับใครที่เป็นทั้งสายกิน-สายเที่ยว คงจะพอเคยได้ชื่อเสียงในด้านความอร่อยของอาหารฮ่องกงมาไม่มากก็น้อย และอาจจะเคยได้ยินชื่อร้าน 'Kam's Roast' ร้านอาหารยอดนิยมของฮ่องกง ที่ขึ้นเรื่องความอร่อยและคิวยาวๆ ที่หน้าร้านแทบทุกวัน! เพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารที่สืบทอดความอร่อยใน 'เมนูย่างสไตล์ฮ่องกง' จากร้าน 'Yung Kee' ร้านอาหารในตำนานของฮ่องกง ซึ่งแต่ละเมนูก็ทำออกมาได้โดดเด่นจนสามารถคว้า 1 ดาวจากมิชลินที่ฮ่องกงต่อเนื่องถึง 10 ปีซ้อน (2015 - 2024) จนได้รับฉายาว่า เป็น 'The Master of Cantonese Roast' อีกด้วย

          แต่ในตอนนี้ถ้าอยากจะทานเมนูย่างสไตล์ฮ่องกงแบบนี้ ก็ต้องไม่เดินทางไกลไปถึงฮ่องกงแล้ว เพราะร้าน Kam's Roast ได้มาเปิดสาขาที่ประเทศไทย และยังยกเมนู 'ห่านย่าง-เป็ดย่าง' เมนูขึ้นชื่อของร้านและเมนูย่างสไตล์ฮ่องกงอื่นๆ ตามสูตรของร้านที่ฮ่องกงแบบไม่มีผิดเพี้ยน มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

 

 

การเดินทาง

          สำหรับร้าน Kam's Roast ที่ไปในครั้งนี้จะเป็น ร้าน Kam's Roast สาขาเมกา บางนา โดยร้านจะตั้งอยู่ที่โซน Foodwalk ชั้น 1 มีจุดสังเกตคืออยู่ติดร้านทองสมิทธิ์ค่ะ

          การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอุดมสุข (ทางออก 5) และสามารถนั่ง Shuttle Bus ของเมกา บางนามาลงที่หน้าห้างเลยได้ค่ะ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถมาได้ด้วยทางคู่ขนาน-บางนาตราด และสามารถนำรถมาจอดได้ฟรีที่ลานจอดรถของเมกา บางนา จอดฟรี 6 ชั่วโมงแรกค่ะ (ต้องมีตราปั๊มห้าง)

 

 

บรรยากาศร้าน

          สำหรับสาขาเมกา บางนา ตัวร้านจะมีการตกแต่งให้มีบรรยากาศร้านภัตตาคารจีนแบบโมเดิร์น เน้นโทนสีน้ำตาล-แดง มีความเรียบหรู และยังเป็นห้องกระจกทำให้ร้านดูมีความปลอดโปร่ง ไม่แออัดค่ะ

 

บรรยากาศร้าน Kam's Roast สาขาเมกา บางนา

 

          อีกทั้งภายในร้านยังมีพื้นที่ร้านกว้างขวาง มีโซนที่นั่งให้เลือกเยอะ มีทั้งโต๊ะเล็ก-โต๊ะใหญ่ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งตามสะดวก ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่มากลุ่มเล็ก และมากันเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ

 

บรรยากาศในร้าน Kam's Roast สาขาเมกา บางนา

บรรยากาศในร้าน Kam's Roast สาขาเมกา บางนา

 

Kam's Roast ปรมาจารย์แห่งการย่างสไตล์กวางตุ้ง

 

 

          ถึงแม้จะไม่ใช่สาขาต้นตำรับ แต่ก็ต้องบอกว่าร้าน Kam's Roast สาขาไทยนั้นได้ยกเมนูย่างมาครบแบบสาขาที่ฮ่องกงเป๊ะๆ ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้ยกมาแค่หน้าตาหรือชื่อเมนู แต่ยกมาทั้งสูตรอาหารและวัตถุดิบเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกับสาขาที่ฮ่องกงแบบไม่มีผิดเพี้ยน แบบไม่ให้เสียชื่อ 'The Master of Cantonese Roast หรือปรมาจารย์แห่งการย่างสไตล์กวางตุ้ง' แน่นอนค่ะ

 

'เชฟเจี๋ย' เชฟผู้ดูแลร้าน Kam's Roast ให้ได้เมนูย่างมาตรฐานเดียวกับที่ฮ่องกง

 

          สำหรับเมนูอาหารของทางร้านจะเน้นเป็นเมนูย่างสไตล์ฮ่องกง ที่มีกรรมวิธีการย่างที่เฉพาะของทางร้านเอง เพราะทางร้านได้มีการออกแบบเตาให้เหมาะกับแต่ละเมนู นอกจากนี้ยังมีทั้งสูตรหมักวัตถุดิบ สูตรซอสราด และสูตรน้ำจิ้ม ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่ทำให้เมนูย่างของที่นี่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยจะมีเมนูซิกเนเจอร์ คือ ห่านย่างและเป็ดย่าง ที่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าไม่ได้หาทานกันได้ง่ายๆ

 

 

          และนอกจากเมนูย่างสไตล์ฮ่องกงแล้ว ร้าน Kam's Roast ก็ยังมีเมนูอาหารฮ่องกงอื่นๆ ให้เลือกทานอีกเพียบ ทั้งเมนูตุ๋น, ข้าวหน้า, บะหมี่, เกี๊ยวน้ำ, โจ๊ก และเครื่องเคียงค่ะ ซึ่งในแต่ละเมนูทางร้านได้มีการนำเข้าวัตถุดิบจากฮ่องกงทั้งหมด การันตีความอร่อยได้แบบเหมือนต้นฉบับที่ฮ่องกงแน่นอน!

 

ทุกๆ เมนูที่เสิร์ฟจะเป็นสูตรต้นตำรับ สูตรเดียวกับร้าน Kam's Roast ที่ฮ่องกง ซึ่งได้ 1 ดาวมิชลินที่ฮ่องกงถึง 10 ปีซ้อน

 

Signature Roast Goose ราคา 3,288 บาท

          มาถึงร้าน Kam's Roast แล้ว ต้องขอเปิดโต๊ะด้วย 'Signature Roast Goose' หรือเมนูห่านย่างซิกเนเจอร์กันก่อนเลยค่ะ เมนูนี้ต้องบอกว่าเป็นเมนูหาทานยากเมนูหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่ค่อนข้างพิถีพิถัน และมีกรรมวิธีที่ค่อนข้างยากและใช้เวลานานกว่าเมนูอื่นๆ ค่ะ

          แต่ต้องบอกก่อนว่าร้าน Kam's Roast สาขาในไทยนั้นเพิ่งจะมีเมนูห่านย่างได้ไม่นานนี้เองค่ะ เพราะการที่จะหาห่านให้ได้มาตรฐานตามแบบฉบับ Kam's Roast ที่ฮ่องกง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ สำหรับห่านที่เสิร์ฟในปัจจุบัน ทางร้านจะใช้เป็นห่านที่เลี้ยงในไทย แต่ก็ต้องเป็นห่านที่เลี้ยงแบบพิเศษ ทั้งขั้นตอนการเลี้ยงและการให้อาหาร โดยจะเลือกใช้เป็นห่านที่มีน้ำหนัก 4 กก. และมีอายุที่กำลังพอดีไม่อ่อนหรือแก่เกินไป เพื่อให้เนื้อห่านตามมาตรฐานของร้านที่ฮ่องกงเท่านั้นค่ะ

 

Signature Roast Goose

 

          ส่วนขั้นตอนการทำ ทางร้านจะต้องนำห่านมาหมักซอสสูตรพิเศษของทางร้านแบบข้ามคืน หลังจากนั้นนำไปผึ่งอีกหนึ่งวันเต็ม ก่อนจะนำไปลงเตา ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษมาให้เหมาะกับเทคนิคการย่างสไตล์ฮ่องกงเท่านั้นอีกด้วยค่ะ เมนูนี้อาจจะมีกรรมวิธีที่ยากไปนิด แต่ก็จะแลกมากับการที่จะได้เนื้อห่านย่างที่ครบสัมผัสทั้งเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ แต่มีหนังที่บางกรอบค่ะ 

          กว่าจะได้วัตถุดิบที่ใช่ ผสมผสานกับกรรมวิธีที่ถูกต้อง ทำให้เมนูนี้มีเสิร์ฟค่อนข้างที่จะจำกัดค่ะ สำหรับใครที่มาถึงร้านแล้ว ไม่อยากพลาดความอร่อยของห่านย่าง แนะนำให้จองล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ โดยสามารถจองล่วงหน้า 3 วัน โดยตรงกับที่สาขาที่ต้องการจะไปทานได้เลยค่ะ

 

ทางร้านจะเลือกใช้ห่านไซซ์ 4 กก. ที่ได้มาตรฐานเท่านั้นค่ะ

 

          เมนูห่านย่าง ทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำราดและน้ำจิ้มบ๊วย ในส่วนของน้ำราดจะมีส่วนผสมของงาและถั่ว ช่วยเสริมรสชาติและกลิ่นหอมๆ ได้ดีเลยค่ะ แนะนำว่าให้ราดแบบไม่โดนหนังนะคะ เพื่อที่จะได้คงความกรอบของหนังห่านให้ไว้ได้มากที่สุดค่ะ

          สำหรับเมนูห่านย่าง ทางร้านจะมีให้เลือกทาน 3 ไซซ์ราคาด้วยกัน ตั้งแต่ราคา 888 บาท, 1,688 บาท และ 3,288 บาทค่ะ

 

เสิร์ฟพร้อมน้ำราดสูตรเฉพาะหอมกลิ่นงาและถั่ว

 

Roast Duck ราคา 1,288 บาท

          ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านนั่นก็คือ 'เป็ดย่าง' นั่นเองค่ะ เป็ดย่างที่ทางร้านเสิร์ฟก็จะเป็นเป็ดย่างที่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อ และมีความกรอบของหนังแบบทั่วตัวไม่แพ้ห่านเลยค่ะ แต่อาจจะมีไขมันน้อยกว่าห่านย่างนิดนึง ซึ่งอาจจะถูกใจคนที่ไม่ชอบทานมันมากไป

          

Roast Duck

 

            ซึ่งกว่าจะได้เป็ดแต่ละจานมาเสิร์ฟ ก็ต้องบอกว่าไม่ง่ายเช่นเดียวกันค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีกรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันและใช้เวลาเช่นเดียวกับเมนูห่านย่างเลยค่ะ เพราะเมนูนี้ถ้าหากจะให้ได้มาตรฐานเดียวกับร้าน Kam's Roast ที่ฮ่องกงแล้ว ทางร้านจะต้องเลือกใช้เป็ดไซซ์ที่ค่อนข้างใหญ่ ถึง 3 กก. และนำมาหมักด้วยส่วนผสมลับเฉพาะของทางร้านแบบข้ามวันข้ามคืน และค่อยนำไปลงเตาค่ะ 

 

เป็ดแต่ละตัวจะหมักแบบข้ามวันข้ามคืนด้วยสูตรเฉพาะของร้าน Kam's Roast

เป็ดไซซ์ 3 กก. ได้มาตรฐานของ Kam's Roast

 

           สำหรับเมนูนี้ก็จะเสิร์ฟมาพร้อมน้ำราดเช่นเดียวกับห่าน (ซึ่งจะเป็นน้ำราดที่มีกลิ่นหอมของถั่วของงา ไปกันได้ดีกับเนื้อเป็ดย่างมากๆ) และน้ำจิ้มบ๊วยค่ะ สำหรับเมนูเป็ดย่างของทางร้านจะมีให้เลือกทานถึง 4 ขนาดและราคา คือตั้งแต่ 350 บาท, 380 บาท, 688 บาท และ 1,288 บาทค่ะ

 

เมนูเป็ดและห่านจะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย

 

Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi ราคา 1,388 บาท

          ขอไปต่อกับเมนูเป็ดย่างสไตล์ฮ่องกงของร้าน Kam's Roast ค่ะ สำหรับเมนูนี้แค่ชื่อก็บอกเลยว่ามีความโดดเด่นกว่าเมนูอื่นๆ แล้วค่ะ กับเมนู 'Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi' หรือเมนู 'เป็ดผีผา' สาเหตุที่ได้ชื่อนี้มา เพราะว่าเมนูนี้เวลาย่างทางร้านจะแผ่ตัวเป็ดออกต่างจากเป็ดย่างตามปกติค่ะ ซึ่งทำให้รูปร่างของเป็ดนั้นมีคล้ายกับเครื่องดนตรีจีนที่ชื่อผีผานั่นเองค่ะ

 

Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi

เป็ดผีผาจะมีกรรมวิธีการย่างที่แตกต่างจากเป็ดปกติ ทำให้ได้หนังเป็ดที่ร่อนและกรอบกว่าปกติ

 

          นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างแล้ว กรรมวิธีก็แตกต่างอีกด้วยค่ะ สำหรับเมนูเป็ดผีผา ทางร้านจะใช้เป็ดคัดพิเศษ มีขนาดใหญ่กว่าเป็ดปกติ นำมาหมักด้วยเครื่องเทศและซอสที่มีส่วนผสมกับเปลือกส้มจีนตากแห้งอายุ 23 ปีแบบข้ามคืน จนได้เนื้อเป็ดและหนังเป็ดที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับฝีมือการย่างของเชฟและเทคนิคการย่างสไตล์ฮ่องกง ทำให้ได้เป็ดที่มีเนื้อนุ่มๆ และหนังเป็ดที่กรอบกว่าเป็ดย่างปกติทั่วๆ ไปค่ะ

          และอย่างที่บอกว่าเมนูนี้จะเป็นเมนูที่ผ่านการหมักเครื่องเทศมาอย่างเต็มที่แล้ว จึงจะเสิร์ฟเฉพาะเป็ดแบบไม่มีน้ำราดเหมือนเมนูอื่นๆ ค่ะ แต่จะเสิร์ฟคู่กับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน สำหรับใครที่อยากจะเพิ่มรสชาติในแต่ละคำสักนิด

 

เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเป็ดสูตรเด็ด

 

Hong Kong Suckling Pig ราคา 888 บาท

          ทานเป็ดกันไปหลายเมนูแล้ว ขอพาไปชิมอีกหนึ่งเมนูที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับเมนู 'หมูหัน' เมนูนี้จะเป็นหมูหันสไตล์ฮ่องกง โดยจะเสิร์ฟมาครบทั้งเนื้อหมูและหนังหมูค่ะ โดยจะเสิร์ฟให้ทานกันแบบเป็นเซตพร้อมกับแป้งแพนเค้ก, ผักเครื่องเคียง และน้ำจิ้ม

          สำหรับเมนูหมูหันของทางร้านจะมีให้เลือกทานหลายไซซ์เช่นเดียวกันค่ะ โดยจะมีขนาดทั้งตัว 3,288 บาท, ครึ่งตัว 1,688 บาท และจานเล็ก 888 บาทค่ะ

 

Hong Kong Suckling Pig

หมูหันจะเสิร์ฟพร้อมแป้งแพนเค้ก น้ำจิ้ม และผักเครื่องเคียงค่ะ

 

            และแน่นอนว่าเมนูหมูหันของร้าน Kam's Roast ก็ยังคงคอนเซปต์เป็นหมูหันแบบฮ่องกง ที่ต้องย่างด้วยเตาถ่านแบบหมุนมือ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความชำนาญจากเชฟ ที่ต้องมีทักษะในการควบคุมไฟย่างหมู เพื่อให้ได้หมูหันที่มีความสุกทั่วตัวแบบพอดีๆ จนได้หนังหมูที่มีความกรอบและเนื้อนุ่ม

 

เชฟเจี๋ย เชฟผู้เชี่ยวชาญการย่างของร้าน Kam's Roast

หมูหันทุกตัวจะย่างด้วยเตาถ่านจนได้หนังที่มีความกรอบและหอมแบบพอดี

หมูหันคัดไซซ์ย่างจนได้ความสุกกรอบทั่วตัวแบบพอดี

 

Roast Combo : Toro Char Siu + Pork Char Siu ราคา 420 บาท

          เมนูนี้ขอมากันเป็นเซตคอมโบย่างกันบ้างค่ะ สำหรับ Roast Combo จานนี้จะมัดรวมหมูแดงสูตรเฉพาะของ Kam's Roast ไว้ด้วยกันถึง 2 แบบค่ะ คือหมูแดง และหมูแดงส่วนท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่ติดมัน ที่คัดมาแล้วว่าจะต้องมีสัดส่วนของเนื้อแดงและมันให้ได้มาตรฐานแบบเดียวกับร้านที่ฮ่องกงค่ะ

 

Roast Combo : Toro Char Siu + Pork Char Siu

 

          ในส่วนของเมนูหมูแดงทางร้านจะนำมาหมักด้วยซอสที่เคี่ยวกับน้ำผึ้งและเครื่องเทศหลากชนิด ก่อนจะนำไปย่างด้วยเทคนิคเฉพาะของทางร้าน ซึ่งจะต้องให้เนื้อหมูติดความเกรียมนิดๆ แต่เนื้อจะนุ่มลิ้นเช่นเดิมค่ะ เสริมรสชาติและกลิ่นหอมด้วยคาราเมลซอสที่ทางร้านจะเสิร์ฟให้ราดตอนทานค่ะ

 

เคล็ดลับความอร่อยคือทางร้านจะย่างหมูแดงส่วนท้องให้มีความเกรียมนิดๆ หอมกลิ่นย่าง

หมูแดงหมักจนเข้าเนื้อก่อนนำไปย่าง

 

Crispy Pork ราคา 350 บาท

          ขอปิดท้ายเมนูจานหลักของทางร้านกันไปด้วย 'หมูกรอบ' เมนูยอดนิยมอีกหนึ่งเมนูจากร้าน Kam's Roast โดยหมูกรอบจานนี้จะเป็นหมูกรอบสไตล์ฮ่องกง ที่มีหนังบางกรอบ สีเหลืองทองสวยงาม ควบคู่มากับความนุ่มชุ่มฉ่ำของหมูแต่ละชิ้น ซึ่งในแต่ละชิ้นที่นำมาเสิร์ฟนี้ ทางร้านก็ได้มีการคัดมาแล้วว่าหมูทุกๆ ชิ้นจะต้องมีสัดส่วนของไขมันและเนื้อแดงตามที่กำหนดเช่นเดียวกับหมูแดงค่ะ

          นอกจากนี้จานนี้จะยังเสิร์ฟพร้อมกับมัสตาร์ดรสชาติเผ็ดนิดๆ ช่วยตัดรสชาติของหมูแต่ละชิ้นได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

 

Crispy Pork

หมูกรอบจะเสิร์ฟมาพร้อมมัสตาร์ดเผ็ดนิดๆ ช่วยตัดรสชาติได้ดี

 

Braised Noodles with Shrimp Roe (Dry) ราคา 180 บาท

          ใครที่เป็นแฟนคลับอาหารฮ่องกง คงจะรู้กันอยู่แล้วว่าหนึ่งในลิสต์เมนูยอดนิยมอันดับต้นๆ ก็น่าจะหนีไม่พ้นเมนูบะหมี่แน่นอน ซึ่งร้าน Kam's Roast ก็มีเมนู 'บะหมี่แห้งไข่กุ้ง' เป็นจานเด็ดพร้อมเสิร์ฟค่ะ

          บะหมี่จานนี้เชฟจะทำเป็นบะหมี่สไตล์ฮ่องกง เป็นบะหมี่เส้นเล็กนำเข้าจากฮ่องกง โดยจะเป็นเส้นบะหมี่สีเหลืองทองเส้นเล็กที่มีความกรอบความนุ่มในตัวแบบพอดิบพอดี และไข่กุ้งนำเข้าจากฮ่องกง เพิ่มทั้งกลิ่นหอมๆ รสชาติและสัมผัสในทุกๆ คำ

 

Braised Noodles with Shrimp Roe (Dry)

 

Wonton Soup ราคา 200 บาท

          นอกจากบะหมี่แล้ว อีกหนึ่งจานเด็ดของร้าน Kam's Roast ก็คือ 'เกี๊ยวน้ำ' เมนูที่อาจจะดูธรรมดา แต่เกี๊ยวน้ำของ Kam's Roast ก็ยังทำออกมาได้ดีชวนประทับใจไม่แพ้เมนูอื่นๆ สำหรับชามนี้จะเป็นเกี๊ยวกุ้ง ที่ใช้แผ่นเกี๊ยวนำเข้าจากฮ่องกง ห่อเป็นเกี๊ยวตัวโตๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปร้อนๆ ที่มีส่วนผสมพิเศษอย่างปลาตาแดงและกุ้งแห้งที่ผ่านการคั่วจนหอม และนำมาเคี่ยวเป็นน้ำซุปนานกว่า 5 ชั่วโมง! เพื่อให้ได้น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์

 

Wonton Soup

เกี๊ยวกุ้งจะห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวนำเข้าจากฮ่องกง และใช้กุ้งตัวใหญ่เป็นตัวๆ แบบเต็มคำ

 

Century Egg with Jin Hua Ham Congee ราคา 200 บาท

          แต่สำหรับใครที่อยากจะทานอิ่มจบครบในจานเดียว ทางร้านก็ยังมีเมนู 'โจ๊กแฮมจินหวาและไข่เยี่ยวม้า' โจ๊กถ้วยโต ข้าวเนียนนุ่มร้อนๆ เครื่องแน่นทั้งแฮมจินหวา แฮมบ่มแห้งของจีน, ไข่เยี่ยวม้า และหมูก้อนปรุงรสชิ้นโตๆ แบบเต็มคำ แนะนำให้ทานคู่กันกับปาท่องโก๋ของทางร้าน เป็นการจับคู่ความอร่อยได้ลงตัวเลยทีเดียวค่ะ

 

Century Egg with Jin Hua Ham Congee

โจ๊กเนื้อเนียนนุ่ม พร้อมด้วยเครื่องแน่นๆ

 

Poached Hong Kong Kai Lan ราคา 160 บาท

          ทานเมนูหนักๆ กันไปหลายเมนูแล้ว ขอสลับสับเปลี่ยนมาทาน 'คะน้าฮ่องกงต้ม' เมนูผักจานแรกกันบ้างค่ะ ทางร้านจะเลือกใช้คะน้าฮ่องกงชิ้นใหญ่ ต้มมาได้สุกพอดี มีทั้งความกรอบความนุ่มในคำเดียว ปรุงรสด้วยน้ำราดสูตรเฉพาะของ Kam's Roast

 

Poached Hong Kong Kai Lan

 

Wan Dou Miao with Oyster Sauce ราคา 180 บาท

          นอกจากคะน้าฮ่องกงแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนู 'ยอดโต้วเหมี่ยวกับซอสหอยนางรม' เป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับสายผักโดยเฉพาะ สำหรับจานนี้ทางร้านจะนำยอดโต้วเหมี่ยวหรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่ายอดอ่อนถั่วลันเตา มาผัดกับซอสหอยนางรมจนผักสลด ท็อปด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ 

 

Wan Dou Miao with Oyster Sauce

 

Marinated Cucumber with Vinegar & Garlic ราคา 90 บาท

          และขอปิดท้ายความอร่อยในวันนี้กันไปด้วยเมนู 'ยำแตงกวา' เมนูเครื่องเคียงยอดนิยมไม่แพ้เมนูอื่นๆ เมนูนี้ทางร้านจะใช้แตงกวาเนื้อกรอบ ราดด้วยน้ำยำสไตล์ฮ่องกงรสชาติเปรี้ยวหวานเข้มข้น โดยเมนูทางร้านจะเสิร์ฟแบบเย็นนิดๆ ทำให้ทานแล้วมีความสดชื่น นำมาทานกับแกล้มเมนูอื่นๆ ได้ดีเลยค่ะ

 

Marinated Cucumber with Vinegar & Garlic

 

สรุปรสชาติอาหาร

Signature Roast Goose : เนื้อห่านทางร้านหมักมาได้ดี อีกทั้งเนื้อยังมีความนุ่ม ไม่แห้งเลยค่ะ หนังกรอบ และค่อนข้างมีไขมันเยอะกว่าเป็ด ทานแล้วจึงจะมีทั้งความกรอบและความชุ่มฉ่ำมากกว่าเนื้อเป็ดค่ะ ส่วนน้ำราดจะมีกลิ่นหอมของงาและถั่วเข้ากันได้ดีกับเนื้อห่าน

Roast Duck : เนื้อเป็ดจะมีความนุ่มไม่แพ้เนื้อห่านเลยค่ะ หนังกรอบแต่ไม่แข็ง ไขมันอาจจะน้อยกว่าห่านนิดนึงค่ะ น้ำราดจะมีกลิ่นหอมงาและถั่ว เข้ากันดีกับเนื้อห่าน แนะนำให้จิ๊มน้ำบ๊วยหวานๆ หอมๆ เพิ่มรสชาติค่ะ

Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi : สำหรับเป็ดผีผา ตัวหนังจะมีความกรอบมากกว่าเป็ดย่างปกติค่ะ ส่วนเนื้อยังคงความนุ่ม ทานแล้วจะได้กลิ่นหอมและรสชาติของเครื่องเทศที่ใช้หมัก มีกลิ่นส้มจางๆ เป็นเมนูที่มีรสชาติดีในตัวเอง สามารถทานได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องมีน้ำราดใดๆ ค่ะ

Hong Kong Suckling Pig : หมูหันของทางร้านจะเสิร์ฟหนังมาคู่กับเนื้อ ส่วนของหนังกรอบบาง ไม่แข็ง เนื้อหมูนุ่มชุ่มฉ่ำดีค่ะ แป้งแพนเค้กจะแผ่นค่อนข้างใหญ่ หอมกลิ่นแป้ง ส่วนตัวซอสจะมีรสชาติหวานเค็มนิดๆ เข้ากันดีค่ะ

Roast Combo : สำหรับหมูแดงธรรมดา จะเน้นเนื้อแดงเป็นหลัก เนื้อก็ยังคงความนุ่ม ไม่แข็งค่ะ หั่นมาชิ้นหนา ในส่วนหมูแดงส่วนท้อง จะมีไขมันเยอะ ทำให้เนื้อนุ่ม ทางร้านจะย่างติดเกรียมนิดๆ ทำให้มีกลิ่นหอมจากการย่างค่ะ ทั้ง 2 ส่วนจะหวานหอมน้ำผึ้ง 

Crispy Pork : หมูกรอบจะหั่นมาชิ้นหนา มีทั้งส่วนที่เป็นไขมันและเนื้อแดงสัดส่วนพอๆ กันค่ะ ทำให้ทานได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยนจนเกินไป ส่วนหนังจะมีความกรอบมาก แต่ไม่แข็ง ส่วนมัสตาร์ดจะออกรสเผ็ดนิดๆ กลิ่นหอมแบบเฉพาะทาง ช่วยตัดรสชาติของหมูได้ดีค่ะ

Wonton Soup : น้ำซุปมีรสชาติกลมกล่อม รสชาติเบาๆ สามารถทานได้เรื่อยๆ ค่ะ ในส่วนของเกี๊ยวจะชิ้นใหญ่ แป้งไม่หนาจนเกินไป ทางร้านจะใส่กุ้งมาเป็นตัวๆ ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นกุ้งแบบเต็มคำ

Wan Dou Miao with Oyster Sauce : รสชาติโดยรวมจะออกเค็มหวานแบบกลมกล่อม เป็นเมนูรสชาติเบาๆ สามารถทานเล่นได้เรื่อยๆ สำหรับคนชอบผัก

Century Egg with Jin Hua Ham Congee : โจ๊กของทางร้านจะเนื้อเนียนนุ่ม หมูก้อนจะปรุงรสชาติมาแบบพอดีๆ หอมกลิ่นเครื่องปรุง จานนี้จะมีปริมาณค่อนข้างเยอะทั้งข้าว ไข่ แฮม และหมูค่ะ

Marinated Cucumber with Vinegar & Garlic : ยำจะออกเปรี้ยวหวานนิดๆ แบบฮ่องกง ไม่ได้เปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านแบบของไทย แต่รสชาติดี แตงกวาหั่นมาชิ้นพอดีคำ หอมกลิ่นกระเทียมและเครื่องปรุง อีกทั้งยังมีความเย็นสดชื่นจากแตงกวาอีกด้วยค่ะ

 

จุดเด่นของร้าน Kam's Roast Bangkok

1. เมนูอาหารทางร้านจะเป็นเมนูปิ้งย่างสไตล์ฮ่องกง แต่ละเมนูจะมีกรรมวิธีการทำและปรุงที่ออกมาให้เหมือนกับสูตรต้นตำรับที่ฮ่องกง โดยจะมีให้เลือกทานทั้งเมนูห่านย่าง เป็ดย่าง หมูกรอบ และหมูแดงค่ะ

2. ทางร้านทำอาหารแต่ละเมนูออกมาได้รสชาติดี น่าประทับใจในหลายๆ เมนู เพราะเมนูอาหารที่เสิร์ฟจะเป็นสูตรเดียวกับอาหารที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นสูตรที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินจากฮ่องกงค่ะ

3. ในแต่ละเมนู ทางร้านจะมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี โดยจะมีการเลือกใช้ทั้งวัตถุดิบนำเข้าจากฮ่องกงเป็นหลัก และวัตถุดิบจากในไทยเอง โดยเฉพาะห่าน ที่ถึงแม้จะมีการเลี้ยงในไทย แต่มีจะวิธีการเลี้ยงให้ได้มาตรฐานเดียวกับห่านที่ฮ่องกงค่ะ

4. นอกจากเมนูย่างสไตล์ฮ่องกง ทางร้านก็ยังมีเมนูฮ่องกงอื่นๆ ให้ทานหลากหลายทั้งเมนูตุ๋น, ข้าวหน้า, บะหมี่, เกี๊ยวน้ำ, โจ๊ก และเครื่องเคียงค่ะ

5. เมนูอาหารในร้านบางเมนูจะเป็นเมนูที่ซิกเนเจอร์ที่หาทานที่อื่นไม่ได้ เพราะเป็นเมนูสูตรต้นตำรับจากร้านที่ฮ่องกง และมีวัตถุดิบหลักที่หาทานได้ค่อนข้างยากในไทยค่ะ เช่น Signature Roast Goose ห่านย่างสไตล์ฮ่องกงราดน้ำซอสสูตรเฉพาะของร้าน และเมนู Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi เป็ดผีผา หรือเป็ดหมักเปลือกส้มจีนอายุ 23 ปี

6. สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาทานที่ร้าน ทางร้านจะมีบริการเดลิเวอรี ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้ง Grab, Lineman, Robinhood และ Foodpanda ค่ะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ

1. ราคาอาหารทั้งหมดในเมนูยังรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ Service Charge 10%

2. ร้าน Kam's Roast Bangkok เปิดให้บริการทั้งหมด 5 สาขา

  • Central World (ชั้น 7) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-004-7718 / 081-797-4455 / 092-285-6979
  • Mega Bangna (โซน Foodwalk ชั้น 1) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-105-2262 / 090-499-5636
  • Central Eastville (ชั้น 1) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-006-1688 / 092-832-6299
  • Iconsiam (ชั้น 6) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-116-6687 / 092-744-9523
  • Kam's Roast Express : Central Chidlom (The Public Market ชั้น 2) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 093-052-5225

3. สำหรับเมนูห่านย่างของร้าน Kam's Roast จะมีให้บริการทุกสาขา แต่วัตถุดิบจะมีค่อนข้างจำกัด แนะนำว่าให้จองล่วงหน้า 3 วัน โดยสามารถจองตรงกับสาขาได้เลยค่ะ

 

 

             เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่สายกินตัวยงไม่ควรพลาดเลยค่ะ เพราะร้าน Kam's Roast ได้ยกความอร่อยแบบฮ่องกงแท้ๆ มาเสิร์ฟถึงโต๊ะในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูห่านย่าง เป็ดย่าง หมูหัน หมูแดง หมูกรอบ รวมไปถึงเมนูอาหารฮ่องกงอื่นๆ ให้เลือกทานอีกมากมายค่ะ สามารถตามไปพิสูจน์ความอร่อยของปรมาจารย์แห่งการย่างสไตล์กวางตุ้งได้ที่ร้าน Kam's Roast ทุกสาขาค่ะ

 

เมนูแนะนำของร้าน Kam's Roast Bangkok (สาขา Mega Bangna)

Signature Roast Goose

ราคา 3,288 บาท
ห่านย่างสูตรซิกเนเจอร์ Kam's Roast

Roast Duck

ราคา 1,288 บาท
เป็ดย่างสูตรซิกเนเจอร์ Kam's Roast

Pipa Duck with Premium 23-year aged Chenpi

ราคา 1,388 บาท
เป็ดผีผา

Hong Kong Suckling Pig

ราคา 888 บาท
หมูหันฮ่องกง

Roast Combo : Toro Char Siu + Pork Char Siu

ราคา 420 บาท
เซตคอมโบย่าง หมูแดงและหมูแดงส่วนท้อง

เขียนโดย
a girl who has a passion for eating food!
จำนวนบทความที่รีวิว : 95
วันที่เขียนรีวิว : 2024/06/07
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.15
การบริการ
4.10
ตกแต่งสถานที่
4.05
ราคาเหมาะสม
4.05
แผนที่ร้าน Kam's Roast Bangkok (สาขา Mega Bangna)
ที่อยู่ :
ตำบล บางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540 ต. บางแก้ว อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
โทร. 090 499 5636
ช่วงเวลา :
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00–22:00 น.
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP