หน้าแรก >> รีวิวร้านอาหาร >> เฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง ข้าวหน้าปลานึ่งเจ้าแรกในประเทศ เจ้าเดียวที่กล้าให้ข้าว 1 จาน ปลาทั้งตัว (เปิดดู 13643 ครั้ง)

[รีวิว] ร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง (here lor super steamed fish) นึ่งสไตล์ไทย และฮ่องกง @ลาดพร้าว 71

Name: [รีวิว] ร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง (here lor super steamed fish) นึ่งสไตล์ไทย และฮ่องกง @ลาดพร้าว 71
Address: Nak Niwat Road (Between Soi 13-15) Lat Phrao Bangkok Thailand, กรุงเทพมหานคร, Thailand, 10230, TH
Telephone: 0870884955
Price range: 48.00 - 138.00 บาท

สวัสดีครับชาว RyoiiReview ทุกท่านที่ติดตามกันอยู่เสมอ เชื่อว่าผู้อ่านที่หมั่นหาข้อมูลเก็บรายละเอียดจากเว็บไซต์เรา จะต้องเป็นนักเสาะหามุมอร่อยของร้านอาหารขึ้นชื่อแน่ๆ ซึ่งร้านที่ทีมงานจะมารีวิวเป็นร้านปลานึ่งตั้งริมฟุตบาท ย่านถนนนาคนิวาส กับร้านชื่อว่า “เฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง” @ลาดพร้าว 71
ร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง @ลาดพร้าว 71 ที่ใจถึงใช้ปลาทั้งตัวใส่มาเสิร์ฟเต็มถาด และมีขั้นตอนการสั่งอาหารที่ไม่ซ้ำแบบใคร อันดับแรกที่นี่จะให้ลูกค้าเป็นคนเลือกปลาตัวโปรด ต่อมาคือการเลือกการนึ่งตามความชอบใจ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือนึ่งสไตล์ไทย และนึ่งสไตล์ฮ่องกง

SPONSORED

เมนู และราคา
ในเมนูจะมีรายการอาหารพร้อมรูปประกอบของปลาสดประเภทต่างๆ, ปลาที่นำมานึ่งพร้อมใส่ถาดเรียบร้อยเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ยังมีขั้นตอนการสั่งอาหารเพื่อให้ลูกค้าทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ

เมนูหลักอย่างปลา และขั้นตอนการสั่งจะอยู่ด้านหน้าของเมนูครับ

รายการอาหารยังไม่หมดครับ ยังมีด้านหลังต่อ

รายการอาหารเมนูหลัก ราคาลงท้ายด้วยเลข 8 เพื่อความเป็นสิริมงคล

แม้ว่าเมนูปลาของที่นี่หลายๆ คนจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ว่าร้านที่ให้ปลาปริมาณ 3.5-4 ขีดทั้งตัว พร้อมการนึ่ง และปรุงรสเสร็จสรรพเสิร์ฟแบบเต็มถาดไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยนัก แม้ว่าร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง จะเพิ่งเริ่มต้นเปิดทำการเพียงมีกี่วัน แต่ราคาอาหารที่เปิดตัวไปกลับได้รับความสนใจจากผู้ที่มาทานเป็นอย่างมาก ถือเป็นทางเลือกสำหรับคนหิวกลางดึกที่ต้องการหาอะไรทานช่วงเวลากลางคืนแบบอิ่มท้องในราคาไม่แพง

1.3k

1340Share

2.7k

2731Share

235

235Share

0Share

บรรยากาศภายในร้าน
เมื่อเดินทางใกล้ถึงร้านจะสะดุดตากับป้ายสีเหลืองตัดกับสีน้ำเงินของตัวอักษรชื่อร้านตั้งเรียงกันไว้ใกล้บริเวณโต๊ะอาหารของร้านริมฟุตบาท ที่ทางร้านได้เลือกใช้โต๊ะอาหาร, ป้ายร้าน, ร่ม และสิ่งต่างๆ เป็นโทนสีเหลือง-น้ำเงิน ไม่มีความหมายอะไรแอบแฝงนะครับ เป็นความชอบส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันทางร้านมีโต๊ะรองรับเพียง 6 โต๊ะ สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุดจำนวน 24 คน

ป้ายร้านดูโดดเด่นมาแต่ไกล ใครยังไม่ชินเส้นทางจะได้ไม่ต้องกลัวหลง

หาที่นั่งเสร็จ ลุยสั่งปลาตัวโปรด และเลือกสูตรนึ่งที่ถูกใจกันได้เลย

SPONSORED

โต๊ะขนาดกว้าง รองรับภาชนะชิ้นใหญ่ที่จะใส่ปลามาเสิร์ฟ

บุกมาในครัวของเฮียล้อถึงที่

ทางร้านเปิดบริการช่วงเย็นไปจนกระทั่งดึก ทำให้คนนอนดึก หรือใช้ชีวิตกลางคืนได้มีทางเลือกหาร้านแก้หิวยามค่ำคืน ร้านริมฟุตบาทแห่งนี้จึงดูเข้ากับบรรยากาศในการหาอะไรทานตอนดึกๆ
เนื่องจากร้านไม่ได้อยู่ภายในห้องแอร์ ถ้าเป็นตอนกลางวันคงมีนั่งเหงื่อซึม แต่ช่วงเย็น หรือกลางคืนหมดปัญหาความร้อนจากแสงแดดแน่นอนครับ ซึ่งที่นี่มีทั้งลูกค้ามาทานที่ร้าน และสั่งซื้อกลับบ้านจำนวนครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้ ริมฟุตบาทบริเวณนี้จึงดูคึกคักมากเป็นพิเศษจริงๆ

อุปกรณ์ใช้นึ่ง
ที่นี่จะนึ่งปู นึ่งปลาให้เห็นกันสดๆ ครับ ทางร้านบอกว่าปลาจาระเม็ดที่ผมทานไปเมื่อสักครู่ต้องผ่านการนึ่งมา 8 นาทีครึ่ง เพื่อให้ปลาสุกได้ที่ โดยซึ้งที่ใช้นึ่งจะตั้งอยู่ใกล้กับโต๊ะของลูกค้า ใครที่อยากเห็นว่าทางร้านนึ่งกันอย่างไร ในซึ้งมีอะไรบ้างสามารถเดินมาได้ทุกเมื่อเลยครับ

ต้องใช้ซึ้งนึ่ง 5 ชั้น เพื่อให้ทันออเดอร์จากลูกค้า

ซึ้งนึ่ง 1 ชั้นสามารถวางปลาได้จำนวน 4 ตัว เพื่อให้ปลาสุกได้ทั่วถึงพอดีกันทุกตัว

ความแตกต่างของรสชาติ นึ่งสไตล์ไทย และนึ่งสไตล์ฮ่องกง
นึ่งสไตล์ไทย : รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องถึงรส ถูกใจคนชอบทานรสจัด ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่
นึ่งสไตล์ฮ่องกง : รสชาติค่อนข้างไปทางจืด รสชาติอ่อนๆ ไม่เข้มข้นจัดจ้าน ถูกใจคนชอบอาหารที่ไม่เผ็ด ส่วนใหญ่จะเป็นวัยเด็ก และผู้สูงอายุ

อาหาร
ปลาที่ทางร้านใช้จะมีขนาด 3.5 - 4 ขีดทุกตัว ทางร้านได้แจ้งว่าบางวันเท่านั้นที่มีปลาขนาด 5 ขีดเข้ามา ซึ่งใครมาทานวันนั้นถือว่าเป็นกำไรชีวิตจริงๆ ได้ทานปลาตัวใหญ่ขึ้นในราคาเดิม สำหรับทีมงาน RyoiiReview ได้ปลาขนาด 3.5 ขีดมาครับ และยังมีโอกาสได้ชิมอาหารที่ผ่านการนึ่งทั้ง 2 แบบครบถ้วน ทั้งการนึ่งสไตล์ไทย 1 เมนูคือ ปลาจาระเม็ดนึ่งซอสกระเพรา-โหระพา ส่วนอีก 2 เมนูที่เหลือจะเป็นการนึ่งสไตล์ฮ่องกงคือ เนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม และคะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอม นอกจากนี้มีข้าวหอมมะลิเพิ่มความอิ่มท้องไว้ให้สั่งทานคู่กับเมนูต่างๆ อีกด้วยครับ

ปลาจาระเม็ด (นึ่งสไตล์ไทย)
ปลาจาระเม็ดนึ่งซอสกระเพรา-โหระพา ดูเป็นเมนูที่ให้รสชาติจัดจ้าน และสื่ออารมณ์ความเป็นไทยมากที่สุดของร้าน เพราะพริกแดง, พริกเขียว, กระเพรา, โหระพา และกระเทียม ที่ทำการโรยบนตัวของปลาจาระเม็ด แต่ละอย่างที่ใส่ปรุงลงไปช่วยให้เนื้อปลาเผ็ดดุขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากครับ

ปลาจาระเม็ดนึ่งซอสกระเพรา-โหระพา (88 ฿) ปลาตัวเท่าถาดรสชาติบาดลิ้นใช้ได้ครับ

ใช้ส้อมตักปลาจาระเม็ดขึ้นมา สะดวก และจะได้เนื้อปลามากกว่าใช้ตะเกียบคีบ

ความรู้สึกต่อปลาจาระเม็ด (นึ่งสไตล์ไทย) :
เนื้อปลาไม่แข็ง และไม่นิ่มจนเกินไป ถือว่านึ่งมากำลังดี มองหนังของปลาครั้งแรกผมคิดว่าต้องเลี่ยนแน่นอน แต่พอทานไปแล้วเนื้อปลาบางมากครับทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน หรือขัดใจแต่อย่างใด กระเพรา, โหระพา และกระเทียมที่ใส่หนักแบบนี้ทำให้ปลาดูหอมขึ้น และไร้ความคาวของปลา ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่านะครับ แต่ว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ สำหรับผมเผ็ดแค่นี้ถือว่ากำลังเหมาะสม เพราะทางร้านได้ซอยทั้งพริกแดง และพริกเขียวค่อนข้างเล็กอยู่เหมือนกัน ถ้าปลารสเผ็ดมากกว่านี้กว่าจะทานหมดทั้งตัวคงทรมานน่าดู แต่ใครที่ทานแล้วยังไม่ค่อยเข้าถึงความเผ็ดสักเท่าไร ต้องบอกทางร้านให้เพิ่มระดับความเผ็ดตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ

เนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม (นึ่งสไตล์ฮ่องกง)
เมนูนี้ทางร้านบอกว่าเลือกเนื้อปูม้าส่วนที่เป็นก้อนมาใช้ทำอาหาร การนึ่งสไตล์ฮ่องกงจะไร้ความเผ็ดโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาหารสไตล์ฮ่องกงบ้านเขาเรื่องความจืดอาจเรียกว่าอร่อย แต่สำหรับคนไทยความจัดจ้านของอาหารคือที่หนึ่ง เมนูนี้คงจะถูกใจสำหรับผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่สามารถทานรสจัดได้มากกว่า

เนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม (138 ฿)

หากไม่ชอบความข้นของน้ำ เน้นตักเนื้อปูเป็นหลักก็พอครับ

เห็ดหอมที่ดูจืด เมื่อคลุกเคล้ากับน้ำ ช่วยเพิ่มความเค็มของเห็ดหอมมาทันที

ความรู้สึกต่อเนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม (นึ่งสไตล์ฮ่องกง) :
เมนูนี้จะออก 2 รสชาติ มีเค็ม และจืด ผมได้เลือกตักส่วนของเนื้อปูมาเป็นอันดับแรก หวาน และแน่นใช้ได้เลยครับ ทานง่ายเพราะทางร้านแกะเนื้อปูมาให้แล้ว แต่ทานไปบางคำก็ยังมีเจอเปลือกปูหลงเหลืออยู่บ้าง ส่วนน้ำจากแป้งมันฮ่องกงในถาดปริมาณดูจะมากเกินไป ส่วนของน้ำมีรสชาติเค็มแต่ไม่ได้เค็มจัดนะครับบอกไว้ก่อน แค่ทำให้เห็ดหอม และเนื้อปูส่วนล่างๆ ถูกจมไปกับน้ำ บางคนไม่ชอบอาหารที่มีน้ำออกข้นๆ คงไม่ถูกใจเมนูนี้เท่าที่ควร ควรลดปริมาณน้ำลงน่าจะดีกว่าครับเพื่อให้ได้สัมผัสเนื้อปู และเห็ดหอมเต็มที่มากขึ้น

คะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอม (นึ่งสไตล์ฮ่องกง)
เรื่องรสชาติของคะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอม จะเหมือนกันกับเนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม ต่างกันตรงที่คะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอมจะไม่มีเนื้อสัตว์ แต่จะเน้นก้านคะน้าที่มีขนาดใหญ่ และยาว สุกกำลังดี ทานได้เต็มปากเต็มคำ

คะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอม (58 ฿)

วัดกันให้เห็นชัดๆ ว่าก้านคะน้ายาวจริง เท่าความยาวฝ่ามือของผู้หญิงเลยครับ

ขนาดถาดที่ใช้ใส่อาหารทั้งหมด ความยาวจะเท่าข้อมือถึงข้อศอกของผู้หญิง

ความรู้สึกต่อคะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอม (นึ่งสไตล์ฮ่องกง) :
ตรงคะน้าจะโรยด้วยกระเทียมเจียวสีเหลืองสวยทำให้คะน้าดูกรอบน่าทานมากขึ้น แต่เรื่องปริมาณน้ำยังคงเยอะอยู่ส่วนขนาดของเห็ดหอมกลับมีขนาดใหญ่กว่าเมนูเนื้อปูน้ำแดงเห็ดหอม น่าจะเลือกใช้เห็ดหอมขนาดเท่ากันทั้ง 2 เมนูนะครับ จะได้ดูเท่าเทียมกัน ส่วนตัวอยากให้เพิ่มเนื้อสัตว์ลงในเมนูคะน้าฮ่องกงน้ำแดงเห็ดหอมด้วย

การเดินทาง

เจอป้ายซอยนาคนิวาส 13 แล้วเตรียมชะลอความเร็วรถได้เลยครับ

ร้านอยู่ระหว่างซอยนาคนิวาส 13-15 ครับ

ใครที่จะเดินทางมาที่ร้านเมื่อเข้ามาซอยลาดพร้าว 71 ให้เข้ามาทางถนนนาคนิวาส และคอยมองซอยเลขคี่ไว้ เมื่อถึงปากซอยนาคนิวาส 13 อีกนิดก็จะเจอร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง ซึ่งจะตั้งอยู่ระหว่างซอยนาคนิวาส 13 กับซอยนาคนิวาส 15 ครับ สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้านริมยาวของฟุตบาทได้เลยครับ
หากใครอยู่แถวรัชดา ดินแดงไม่ต้องไปต่อรถไกลถึง MRT ลาดพร้าว จะขับรถ หรือนั่งแท็กซี่ ควรใช้เส้นทางแยกเหม่งจ๋ายเพื่อลัดเข้ามาซอยลาดพร้าว 71 ได้เร็วกว่าครับ

SPONSORED

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	3.7
บรรยากาศ	3.6
การบริการ	4
ความคุ้มค่า	4.2
คะแนนเฉลี่ย	3.9

ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารเมนูไม่หนักมากยามดึก “ร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง” น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ยิ่งสุภาพสตรีท่านไหนที่ใส่ใจสุขภาพ อยากรับประทานอาหารแบบคลีนๆ เพื่อลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนักให้มีมาตรฐานสมดุล เมนูจากทางร้านซึ่งจะเน้นปลาเป็นหลักมีส่วนช่วยได้ แต่ต้องทานในแคลอรีที่พอดีไม่มากจนเกินไปด้วยนะครับ และสุภาพบุรุษบางท่านที่รักการทานปลาอยู่แล้ว มาทานเมนูที่นี่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ฟิตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
   ส่วนภาชนะที่ทางร้านเลือกถาดมาใส่ มองดูแล้วก็เข้ากับเมนูปลานึ่ง จัดว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยทีเดียว สามารถใช้บรรจุปลาได้อย่างเต็มตัว
   ถ้าต้องการสั่งซื้อกลับบ้าน หากทานไม่หมด และต้องแช่ตู้เย็นค้างคืน วันรุ่งขึ้นใครที่มีซึ้งควรนึ่งส่วนของน้ำให้ร้อน และเอาไปราดกับตัวปลาที่เหลือ ส่วนเนื้อปลาได้ผ่านการนึ่งมาจากร้านแล้ว หากจะนึ่งปลาใหม่อย่าทิ้งเวลานานเกินไปเพราะเดี๋ยวปลาจะเละ และจะทานไม่อร่อยครับ นึ่งสักประมาณ 2-3 นาทีก็พอแล้ว หากไม่มีซึ้งนึ่งใช้วิธีการเวฟให้ร้อนแทนก็ได้ครับ
   ใครที่ตั้งใจมาทานที่ร้าน แต่ว่ากลัวจะไม่มีที่นั่ง ให้เผื่อเวลามาให้เร็วๆ สักช่วง 17.30 น. เพื่อที่มาจับจองโต๊ะกันก่อน เพราะเวลานี้ครัวของทางร้านเริ่มเปิดบริการแล้วครับ

จุดเด่นเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง

1. ไม่ค่อยเห็นร้านปลานึ่งที่ไหนมีการให้ลูกค้าสั่งอาหารสไตล์นี้ ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนดีครับ
2. ปริมาณของอาหารที่ได้อย่างเช่นปลาทั้งตัวขนาด 3.5-4 ขีด ถ้าเทียบกับราคา 88 บาท ที่เสียไป ออกจะคุ้มค่ามากในยุคประหยัดแบบนี้ ถือว่าทางร้านไม่เอากำไรลูกค้ามากจนเกินไป
3. แม้ว่าทางร้านจะยุ่งแค่ไหน แต่ยังมีความใส่ใจดูว่าแต่ละโต๊ะมีอะไรขาดเหลือ เช่น พอน้ำแข็งหมดแก้วก็รีบนำนำแข็งมาเติมให้ทันที
4. เลือกใช้ภาชนะได้เหมาะกับอาหาร ซึ่งถาดหลุมมีขนาดความลึกบรรจุอาหาร และส่วนผสมต่างๆ ได้มาก ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าอาหารจะหกหล่นได้ง่ายด้วยครับ
5. บรรยากาศภายในร้านเน้นโทนสีสันสะดุดตามากอย่างสีเหลือง ตัดกับสีน้ำเงินเข้ม ทำให้คอยสังเกตุหาร้านได้ง่ายครับ

ข้อเสนอแนะ

1. เมนูที่เห็น กับเมนูที่มีอยู่ตอนนี้ยังมีไม่ครบ จึงทำให้ยังไม่สามารถสั่งทานอะไรได้หลากหลาย หากลูกค้าบางท่านติดตามเพจร้าน และเห็นว่ามีเมนูมากมาย แต่พอมาถึงร้านกลับเจอเหตุการณ์ที่มีอาหารไม่ครบ ลูกค้าบางท่านอาจต้องผิดหวังได้ครับ จึงอยากให้ทางร้านค่อยๆ เพิ่มเมนูมาให้ครบ หรือติดป้ายแจ้ง ประชาสัมพันธ์แจ้งทางเฟสบุคบอกกันล่วงหน้าไว้ก่อนจะดีกว่า
2. อยากให้เพิ่มรสชาติของการนึ่งสูตรสไตล์ไทยให้มีหลากหลายขึ้น เพราะดูแล้วลูกค้าที่มาน่าจะชอบทานอะไรจัดจ้าน มากกว่าสูตรฮ่องกงที่มีรสชาติออกจืด
   3. การรับออเดอร์อยากให้ทางร้านทำใบติ๊กรายการสั่งอาหาร แทนการจดออเดอร์จากลูกค้าลงกระดาษเปล่า โดยแบ่งหัวข้อให้ชัดเจน เช่น ลูกค้าสั่งปลาประเภทใด, จำนวนเท่าไร, นึ่งสูตรไหน, ทานที่นี่ หรือซื้อกลับบ้าน เพื่อป้องกันการทำอาหารผิดพลาด และเป็นหลักฐานในการโต้แย้งได้ว่า โต๊ะไหนสั่งอะไร/แบบไหน ได้ครับ
   4. ด้วยร้านตั้งอยู่ริมฟุตบาท เนื้อที่ใช้สอยอาจจะน้อยไปสักนิด แต่ละโต๊ะจึงตั้งชิดกัน หลังของลูกค้าอาจมีชนกันบ้างนะครับ ถ้าลูกค้าไม่ซีเรียสอะไรก็หมดปัญหา แต่ลูกค้าบางท่านที่ซีเรียสเรื่องแบบนี้ อาจเกิดการหงุดหงิดขึ้นมาได้
   5. สาวๆ ท่านไหนที่รักการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ มาแล้วอาจหามุมถ่ายรูปไม่ค่อยได้ เป็นเพราะเนื้อที่ของร้านมีจำกัด อนาคตหากทางร้านมีอุปกรณ์ช่วยสร้างสีสัน เช่น ป้ายถือที่มีคำคมต่างๆ เพื่อเป็นลูกเล่นให้ลูกค้าได้ใช้ถ่ายภาพ น่าจะมัดใจคนที่ชอบเซลฟี่ได้มากครับ
   6. ที่นี่ยังขาดเครื่องปรุง ควรมีเครื่องปรุงติดไว้ประจำโต๊ะเพิ่มเข้ามา เพราะลูกค้าหลายคนชอบรสชาติต่างกัน
   7.ทางร้านมีเครื่องดื่มคือน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ควรเพิ่มรายการเครื่องดื่มให้มีตัวเลือกมากขึ้น เครื่องดื่มก็มีส่วนช่วยให้รสชาติของอาหารอร่อยขึ้นได้นะครับ อย่างน้อยมีน้ำอัดลมเพิ่มเข้ามาก็ยังดี

แม้ว่าทางร้านจะมีสูตรนึ่งถึง 2 แบบ ไม่ใช่ว่าสูตรนึ่งฮ่องกงไม่ดีนะครับ แต่สูตรฮ่องกงที่มีรสชาติอ่อน และออกแนวจืดจะเป็นที่ถูกใจคนสูงวัย แต่บรรดาวัยรุ่น หรือวัยทำงาน มักจะชอบทานแบบจัดจ้านมากกว่า แถมปัจจุบันร้านนี้เปิดให้บริการยามดึก ซึ่งน้อยมากที่คนมีอายุจะเดินทางมาทานกันเวลานี้ ดังนั้นควรเพิ่มการนึ่งสไตล์ไทยที่มีรสชาติจัดจ้านเข้มข้นเข้ามาเพื่อเอาใจคนชอบรสชาติจัด และร้อนแรง
ใครที่รักการทานปลาอยากให้มาลองร้านใหม่ป้ายแดงแห่งนี้ ร้านเฮียล้อ สุดยอดข้าวหน้าปลานึ่ง @ลาดพร้าว 71 มาแล้วสิ่งที่ได้กลับไปแน่ๆ คือความคุ้มค่าในราคา ส่วนความอร่อยรอให้ทุกท่านมาช่วยกันตัดสินครับ แต่ขอบอกว่าร้านเปิดได้เพียง 4-5 วัน คนตบเท้าเข้ามาไม่ขาดสาย แบบนี้จะไม่ลองมาพิสูจน์ได้อย่างไรกันใช่ไหมล่ะครับ

เขียนโดย