รีวิว Nowhere (โนแวร์) รูฟท็อปบาร์ใจกลางเอกมัย วิวสวยบรรยากาศโรแมนติก @เอกมัยซอย 6
หากวันนี้ไม่รู้จะอยู่ที่ไหน ขอแนะนำให้มาหยุดอยู่ที่ตรงนี้ !! กับ "Nowhere" Rooftop Bar บรรยากาศดีๆ วิวปังบรรยากาศสุดโรแมนติก เหมาะกับเลือกเป็นสถานที่ดินเนอร์สุดสวีท หรือมานั่งพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนสนิท พร้อมชมวิวพาโนรามากลางกรุงใจกลางเมืองเอกมัย โดยสามารถเรียกชื่อร้านได้ทั้ง 2 ชื่อ “No-Where” (โนแวร์) หรือ “Now-Here” (นาวเฮียร์) มาแล้วเตรียมอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ไทย-อิตาเลียน ได้ลองมาแล้วจะหลงรักกับบรรยากาศนั่งชิล ฟีลดนตรีสด พร้อมสนุกไปกับ DJ Station แห่งนี้ค่ะ
การเดินทาง
สำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวมาที่ "Nowhere" ถ้ามาทางเส้นอโศกให้ขับตรงมาเรื่อยๆ เมื่อขับถึงซอยเอกมัยให้เลี้ยวซ้าย และจะเห็นป้ายบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เอกมัย จากนั้นให้เลี้ยวขวาและเข้ามาในซอยเอกมัย 6 พอตรงเข้ามาจะเจอ THA City Loft Hotel ซอยเอกมัย 6 โดยร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ลูกค้าที่นำรถส่วนตัวมาสามารถจอดได้ที่ชั้นล่างของ THA City Loft Hotel ได้เลยค่ะ ส่วนกรณีที่จอดรถเต็ม สามารถจอดรถได้ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เอกมัยค่ะ
ส่วนใครที่สะดวกเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าให้ลง “BTS สถานีเอกมัย” และให้ออกประตูฝั่งวัดธาตุทอง จากนั้นเดินเข้ามาอีกประมาณ 700 เมตร หรือนั่งวินมาประมาณ 15 บาท ก็จะถึงร้านค่ะ
Share
Share
Share
Share
Share
บรรยากาศภายในร้าน
"Nowhere" ถือว่าเป็นรูฟท็อป บาร์ ที่บรรยากาศดีมากๆ มีดนตรีสดเล่นเพลงเพราะๆ ทุกคืน และยังได้นั่งฟังเพลงชิลๆ ไปกับโซน DJ Station รอบๆ ร้านเพิ่มความโรแมนติกจากไฟนีออนโทนชมพูที่ดูฟรุ้งฟริ้ง โดยอีกคอนเซ็ปต์เก๋ของร้านคือ “บันไดไม่รู้จบ” สำหรับมุมบันไดของทางร้านจัดว่าเป็นอีกหนึ่งมุมที่ทำให้ได้ภาพถ่ายออกมาสวยถูกใจคนรักการถ่ายภาพเลยค่ะ
บันไดเวียนไม่รู้จบ ดีไซน์สวยล้ำสมัย
ไฟประดับมีความโค้งสวย สร้างสรรค์บรรยากาศสุดโรแมนติก
ดนตรีสดมีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 20.30-22.00 น. และ 22.30-24.00 น.
ภายในร้านทั้งบริเวณด้านนอกและด้านในสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 80 ท่าน หากใครไม่อยากไม่อยากพลาดชมวิวท้องฟ้าสีส้มอ่อนๆ ยามเย็น นอกจากนี้ทางร้าน ทางร้านยังรับจัดงานปาร์ตี้แบบส่วนตัวด้วย
หรือถ้าใครอยากมีงานเลี้ยงที่สนุกไม่เหมือนใครราคาสบายกระเป๋า พร้อมชมวิวกว้างเต็มไปด้วยความชิคลองแวะมาที่นี่ดูแล้วจะรู้ว่าคุ้มค่าแค่ไหนค่ะ รองรับลูกค้าได้ทั้งหมดสบายๆ ไม่แออัด 80 ท่าน นั่งแบบชิลรวมด้านนอกและด้านใน ท้องฟ้าส้มๆ ชมพูๆ
เมนู และราคาอาหาร
สำหรับเมนูอาหารของทางร้านเป็นแนวผสมผสานแบบไทยและอิตาเลียนอย่างลงตัว โดยเชฟจะใส่ใจเมนูอาหารทุกรายละเอียด ทั้งในส่วนของเมนูอาหาร คัดสรรวัตถุดิบ และการตกแต่ง โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มในเมนูยังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10% ค่ะ
Japanese Carnitas Pizza (พิซซ่าหน้าคาร์นิทัส-เนื้อหมูเคี่ยวแบบเม็กซิกันในซอสญี่ปุ่น) 320 บาท
พิซซ่าสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานความเป็นญี่ปุ่น โดยทางร้านใช้แป้งพิซซ่าต้นตำรับอิตาลี ส่วนเนื้อหมูเคี่ยวสไตล์เม็กซิกันจะถูกนำไปตุ๋นกับซอสญี่ปุ่น จากนั้นจึงนำเนื้อหมูมาฉีกและผสมในส่วนของแป้งพิซซ่า โดยหน้าของพิซซ่าจะประกอบไปด้วยกระเทียมสไลซ์ หน่อไม้ฝรั่ง ต้นลีค ตามด้วยราดซอสญี่ปุ่นอีกทีค่ะ หากใครอยากเพิ่มเติมความเปรี้ยวสามารถเติมซอสทาบาสโก้เพิ่มได้ค่ะ
Japanese Carnitas Pizza (พิซซ่าหน้าคาร์นิทัส-เนื้อหมูเคี่ยวแบบเม็กซิกันในซอสญี่ปุ่น) 320 บาท
หน้าของพิซซ่าจะประกอบไปด้วยกระเทียมสไลซ์ หน่อไม้ฝรั่ง ต้นลีค ตามด้วยราดซอสญี่ปุ่นอีกทีค่ะ
Watermelon Salad (สลัดแตงโมกับปลาแห้งญี่ปุ่น) 260 บาท
คนรักสุขภาพขอแนะนำเมนูสลัดแตงโมกับปลาแห้งญี่ปุ่น โดยทางร้านใช้ปลาแห้งญี่ปุ่นอบแห้งแล้วสำเร็จ โดยมีน้ำสลัดบัลซามิกสูตรเข้มข้นสูตรเฉพาะของทางร้านเพื่อเพิ่มความสดชื่นค่ะ
Watermelon Salad (สลัดแตงโมกับปลาแห้งญี่ปุ่น) 260 บาท
ปลาแห้งญี่ปุ่นอบแห้งพูนๆ เพิ่มความกรุบกรอบค่ะ
Moo-Ping Pâté (หมูปิ้งบดกับอิงลิชมัฟฟิน) 230 บาท
เมนูนี้จะมีอิงลิชมัฟฟิน ซึ่งเป็นสูตรขนมปังแบบพอดีคำสไตล์โฮมเมด เน้นที่ความกรอบนอกนุ่มในของขนมปัง โดยจะผสมผักชีในแป้งขนมปังด้วยค่ะ ส่วนหมูบดจะมีส่วนผสมของถั่วพิสตาชิโอ เวลาทานให้ตักหมูบดมาทานคู่กับขนมปัง ทานพร้อมน้ำจิ้มอาจาดเพื่อเพิ่มรสชาติค่ะ
Moo-Ping Pâté (หมูปิ้งบดกับอิงลิชมัฟฟิน) 230 บาท
อิงลิชมัฟฟิน ขนมปังแบบพอดีคำสไตล์โฮมเมด อร่อยกรุบกรอบ เป็นอีกเมนูที่ต้องสั่งค่ะ
Shrimp and Chorizo Pasta (ลิงกวินีกุ้งกับไส้กรอกโชริโซ) 320 บาท
ใครชอบเมนูเส้นพาสต้าต้องลองเมนูนี้ค่ะ ต้องลองเส้นลิงกวินีพาสต้ากุ้งกับไส้กรอกโชริโซ รสชาติจะออกรสเผ็ดเล็กน้อย โดยจะใส่กุ้งขาว พร้อมผัดกระเทียมและผักชีจนหอมพร้อมเสิร์ฟค่ะ
Shrimp and Chorizo Pasta (ลิงกวินีกุ้งกับไส้กรอกโชริโซ) 320 บาท
Harissa Pork Ribs (ซี่โครงหมูบาร์บีคิวในซอสฮาริซา-ซอสพริกแอฟริกัน) 520 บาท
ซี่โครงหมูบาร์บีคิวจะผ่านการอบ 4-6 ชั่วโมง จะมีซอส 2 แบบผสมกันคือ ซอสฮาริซาและซอส โดยมีส่วนผสมพวกเฮิร์บจะมีกลิ่นออกสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมข้าวโพดสลัด และผักร็อกเก็ตค่ะ
Harissa Pork Ribs (ซี่โครงหมูบาร์บีคิวในซอสฮาริซา-ซอสพริกแอฟริกัน) 520 บาท
ซอสชุ่มฉ่ำเพิ่มความอร่อยให้เนื้อซี่โครงค่ะ
A Mess of NOWHERE (เมอร์แรงก์ในครีมโยเกิร์ตราดรัมซอสและดาร์คช็อกโกแลต) 190 บาท
เมอร์แรงก์ในครีมโยเกิร์ตราดรัมซอสและดาร์คช็อกโกแลต เป็นเมนูของหวานที่พอตักตั้งแต่ด้านล่างทานพร้อมกันทีเดียวจะได้ครบทุกรสชาติทั้งหวานเข้มจากดาร์คช็อกโกแลต และจบที่ความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รีค่ะ
A Mess of NOWHERE (เมอร์แรงก์ในครีมโยเกิร์ตราดรัมซอสและดาร์คช็อกโกแลต) 190 บาท
เครื่องดื่ม
ค็อกเทลของทางร้านคาแร็กเตอร์จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกัน ช่วยสร้างอารมณ์ให้แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาของวัน สำหรับสาวๆ ที่อยากใหาอะไรดื่มเพื่อสร้างบรรยากาศขอแนะนำค็อกเทลรสชาติดีราคาไม่แรงค่ะ
When Snowfall in NYC 290 บาท++
Lost in The Forest 290 บาท++
Mediterranean Sangria 320 บาท++
Mojito Passion Fruit 290 บาท++
สรุปรสชาติอาหาร
Japanese Carnitas Pizza (พิซซ่าหน้าคาร์นิทัส-เนื้อหมูเคี่ยวแบบเม็กซิกันในซอสญี่ปุ่น) ราคา 320 บาท : พิซซ่าแป้งกรอบนุ่มกำลังดี แป้งไม่หนาจนเกินไป เหมาะกับคนที่ชอบพิซซ่าที่จัดเต็มกับเครื่องผักเพราะมีทั้งกระเทียมสไลซ์ หน่อไม้ฝรั่ง ต้นลีค ทานเปล่าๆ ก็ได้รสชาติกลมกล่อม แต่ถ้าอยากเพิ่มความเปรี้ยวแนะนำให้เติมซอสทาบาสโก้ค่ะ
Moo-Ping Pâté (หมูปิ้งบดกับอิงลิชมัฟฟิน) ราคา 230 บาท : หมูปิ้งบดเนื้อเนียนละเอียด และมีความหอมเครื่องเทศ ตักทานพร้อมกับขนมปังอิงลิชมัฟฟินรสชาติเข้ากัน ด้านบนโดรยด้วยถั่วพิสตาชิโอเพิ่มความกรุบกรอบค่ะ ทานพร้อมน้ำจิ้มอาจาดช่วยเพิ่มความหวานอมเปรี้ยวได้ดีค่ะ
Shrimp and Chorizo Pasta (ลิงกวินีกุ้งกับไส้กรอกโชริโซ) ราคา 320 บาท : เส้นลิงกวินีเส้นยาวมีความกรุบกรอบ กุ้งขาวตัวใหญ่ รสชาติไม่เผ็ดจนเกินไป สำหรับคนไม่ทานเผ็ดสามารถทานได้ค่ะ และยังมีไส้กรอกโชริโซช่วยเพิ่มความเค็มเล็กน้อย ให้เมนูจานนี้มีหลากหลายรสชาติมากขึ้นค่ะ
Harissa Pork Ribs (ซี่โครงหมูบาร์บีคิวในซอสฮาริซา-ซอสพริกแอฟริกัน) ราคา 520 บาท : ซี่โครงหมูบาร์บีคิวชิ้นใหญ่ หมักกับซอสบาร์บีคิวสูตรเข้มข้นค่ะ โดยซี่โครงจะผ่านการอบ 4-6 ชั่วโมง เพื่อความเข้าเนื้อและเปื่อยนุ่มกำลังดีค่ะ
Watermelon Salad (สลัดแตงโมกับปลาแห้งญี่ปุ่น) ราคา 260 บาท : ขนาดของชิ้นแตงโมค่อนข้างใหญ่ ทานแล้วสดชื่นเต็มๆ ชิ้นค่ะ ด้านบนโรยปลาแห้งญี่ปุ่นกรุบกรอบเพิ่มความอร่อยให้รสชาติของสลัดค่ะ
A Mess of NOWHERE (เมอร์แรงก์ในครีมโยเกิร์ตราดรัมซอสและดาร์คช็อกโกแลต) ราคา 190 บาท : เมอร์แรงก์ในครีมเมื่อตักทานพร้อมโยเกิร์ตด้านล่างจะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยวแบบพอดี ด้านบนจะได้ความหวานกรอบจากเมอร์แรง พร้อมสตรอว์เบอร์รีหั่นเป็นชิ้นช่วยตัดเลี่ยน แนะนำให้ตักทานจากด้านล่างทีเดียวจะได้ครบทุกรสชาติทั้งหวานเข้มจากดาร์คช็อกโกแลต และจบที่ความเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รีค่ะ
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.05 |
บรรยากาศ |
4.20 |
ความคุ้มค่า |
3.95 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.0666 |
จุดเด่นของ "Nowhere" Rooftop Bar @เอกมัยซอย 6
1. "Nowhere" เป็นรูฟท็อป บาร์ แฮงค์บาร์ในบรรยากาศสุดชิค ชิคๆ ด้านนอกเป็นที่นั่งรับลมยามเย็นและชมวิวสวยๆ เหมาะกับเป็นจุดชมท้องฟ้ายามเย็นที่มีสีสัน ส่วนบรรยากาศภายในร้านมีจุดถ่ายรูปสวยกับบันได้ที่เชื่อมกันทั้งร้าน
2. เมนูอาหารของทางร้านจะเป็นสไตล์อิตาเลียนที่ผสมผสานสไตล์คนไทย และยังมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดเหมาะกับสังสรรค์เข้ากับบรรยากาศร้านมากค่ะ
3. ร้านอยู่ใกล้รถไฟฟ้า “BTS สถานีเอกมัย” โดยสามารถออกประตูฝั่งวัดธาตุทอง จากนั้นเดินเข้ามาอีกประมาณ 700 เมตร หรือนั่งวินมาประมาณ 15 บาท ก็จะถึงร้านค่ะ
4. ทางร้านมีบริการ Wi-Fi ฟรี ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ร้านเปิดบริการอังคาร-อาทิตย์ 17.30-23.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) และมีดนตรีสดทุกวัน (วันละ 2 วง สำหรับช่วงเวลาของดนตรีสดมีตั้งแต่ 20.30-22.00 น. และ 22.30-24.00 น. ค่ะ )
2. ราคาอาหารและเครื่องดื่มในเมนูของทางร้านจะยังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10% ค่ะ
Nowhere รูฟท็อปบาร์ วิวปังบรรยากาศสุดโรแมนติก ใกล้ BTS เอกมัย สามารถชมวิวพาโนรามากลางกรุงใจกลางเมืองเอกมัย มาแล้วเตรียมอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ไทย-อิตาเลียน และเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม บอกเลยว่าได้ลองมาแล้วจะหลงรักกับบรรยากาศนั่งชิล ฟีลดนตรีสด พร้อมสนุกไปกับ DJ Station แห่งนี้ค่ะ
