หน้าแรก >> รีวิวร้านอาหาร >> Ma Maison (เปิดดู 29470 ครั้ง)

[รีวิว] Ma Maison ร้านอาหารไทยสูตรบ้านปาร์คนายเลิศ พร้อมบรรยากาศสุดธรรมชาติใจกลางกทม. @บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนเพลินจิต

Name: [รีวิว] Ma Maison ร้านอาหารไทยสูตรบ้านปาร์คนายเลิศ พร้อมบรรยากาศสุดธรรมชาติใจกลางกทม. @บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนเพลินจิต
Address: 4 ซอยสมคิด แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330, กรุงเทพมหานคร, Thailand, 10330, TH
Telephone: 02-655-4773

หากจะพูดถึงร้านอาหารสวยๆ สักร้านในกรุงเทพฯ Ryoii ขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้าน Ma Maison ร้านอาหารไทยสูตรเฉพาะของบ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งนอกจากเพื่อนๆ จะได้อิ่มกับอาหารหลากหลายเมนูแล้ว ยังได้ชื่นชมบรรยากาศร้านที่บอกได้เลยว่าโมเดิร์นสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้สัมผัสบรรยากาศสุดธรรมชาติรอบๆ ร้านอีกด้วย พูดแล้วก็อย่ารอช้ารีบตามไปเช็คอินต่อไม่รอละน้าาาาาาา

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปร้าน Ma Maison สามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเพลินจิต ลงทางออกที่ 1 นั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อเข้าไปที่บ้านปาร์คนายเลิศ ราคาประมาณ 30 บาท

แผนที่ : 4 ซอย สมคิด แขวง ลุมพินี เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

0Share

บรรยากาศภายในร้าน

หลังจากเดินทางมาได้สักพักก็มาถึงแล้วค่ะ "ร้านMa Maison" ร้านอาหารในสวนบ้านปาร์คนายเลิศ หากใครที่เดินทางมาถึงร้านบอกได้เลยว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน เพราะเพื่อนๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติ มีต้นไม้ล้อมรอบ โดยพื้นที่ของร้านก็จะมีทั้งโซน Indoor/Outdoor เพื่อนคนไหนชอบสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติแนะนำให้นั่งโซน Outdoor ค่ะ จะได้รับความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ แต่ในส่วนของ Indoor ก็น่านั่งไม้แพ้กัน ซึ่งในร้านมีการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น พร้อมทั้งโอบล้อมไปด้วยกระจกใส สามารถมองเห็นบรรยากาศภายนอกได้อย่างชัดเจน

ก่อนไปทานอาหารขอทั่วรอบๆ ร้านก่อนนะคะ

SPONSORED

ป้ายหน้าร้านค่ะ

เปิดเข้ามาก็จะเจอกับบรรยากาศประมาณนี้

มีดอกไม้ตกแต่งสวยงาม

อีกมุมนึงของชั้นหนังสือ

มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลาย

เซ็ตจานช้อนพร้อมต้อนรับลูกค้า

มาดูมุมข้างนอกร้านกันบ้าง

ร่มรื่นสุดๆ

และนี่คือเมนูของทางร้านค่ะ

เมนู

หลังจากที่ได้เดินชมบรรยากาศรอบๆ ร้านกันไปแล้ว มาต่อกันด้วยเมนูอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ และนี่คือเมนูอาหารที่ทางร้านจัดมาให้ ซึ่งแต่ละเมนูบอกได้เลยว่าเป็นเมนูแนะนำหากใครได้มาอยากให้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นเมนูข้าวหรือของหวานก็น่าทานไม่แพ้กันเลยค่ะเพื่อนๆ ว่าแต่จะมีเมนูไหนบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ (รู้สึกว่าเริ่มหิวแล้ว อิอิ)

พร้อมแล้วตามมาเลย

ว้าววววว แต่ละเมนูน่าทานมาก

หมี่น้ำปาร์คนายเลิศ ราคา 280 บาท

สำหรับเมนูแรกถือได้ว่าเป็นเมนูที่หาทานยาก เพราะเป็นเมนูสูตรเฉพาะของที่บ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งหมี่น้ำที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี่เป็นหมี่ที่ทางร้านนำไปทอดจนกรอบเหลือกำลังดี นำเส้นใส่ลงไปในน้ำซุป ซึ่งน้ำซุปที่เห็นจะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับน้ำก๋วยเตี๋ยวสูตรต้มยำ หากใครอยากเพิ่มรสชาติด้วยมะนาวก็สามารถบีบเพิ่มเติมลงไปได้

เพื่อนๆ เคยลองทานกันบ้างไหมคะ

แกงเหลืองหน่อไม้ปลาแซลมอน ราคา 340 บาท

สำหรับเมนูนี้เป็นแกงเหลืองหน่อไม้ปลาแซลมอน เป็นเมนูร่วมสมัย โดยทางร้านจะเลือกใส่เนื้อปลาแซลมอนแทนปลาน้ำจืดทั่วไป ส่วนหน่อไม้ก็จะเป็นหน่อไม้ดอง น้ำซุปแกงเหลืองจะมีความหอมของพริกแกงชัดเจน แนะนำทานตอนร้อนๆ นะคะ จะสัมผัสได้ถึงความเผ็ดร้อนมากขึ้น

แซลมอนของโปรดใครบ้างเอ่ย?

น้ำพริกลงเรือ ราคา 280 บาท

มาต่อกันด้วยเมนูน้ำพริกลงเรือ ซึ่งเมนูที่เรียกได้ว่าเป็นอยู่คู่กับคนไทยมาเนิ่นนาน โดยจะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักแกะสลักพองาม โดยจะมีผักให้เลือกมากกว่า 6 ชนิด

ผักน้ำพริกเมนูสุดเบสิกของคนไทย

หมูเค็มไก่เค็ม ราคา 220 บาท

สำหรับเมนูนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูประจำบ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของคุณหญิงสิน เศรษฐบุตร ภรรยาของนายเลิศนั่นเอง โดยหมูกับไก่จะมีการไปตุ๋นให้ได้ที่ ซึ่งเวลาทานแนะนำให้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ บอกได้เลยว่าเข้ากันสุดๆ

ลองชิมสักชิ้นไหมคะ?

ปอเปี๊ยะทอดคุณย่า ราคา 190 บาท

อีกหนึ่งเมนูสูตรเฉพาะของทางบ้านปาร์คนายเลิศ ปอเปี๊ยะจะมีชิ้นที่พอดีคำ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป โดยไส้ข้างในจะประกอบไปด้วย วุ้นเส้น, หมูสับ และเห็ดหูหนูเป็นสูตรแบบโบราณ ที่สำคัญแป้งปอเปี๊ยะมีลักษณะบางกรอบ ไม่หนา ไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ มีการใส่ผักกาดลงไปในน้ำจิ้มเพื่อให้ได้รสชาติโดดเด่นเพิ่มขึ้น

ปอเปี๊ยะเมนูโปรดเราเลยค่าาาา

หมูเสด็จ ราคา 320 บาท

หมูย่างหอมควันอ่อนๆ เสิร์ฟพร้อมผักสด และน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน หากใครอยากเพิ่มรสชาติให้โดดเด่นขึ้นมาให้ทานคู่กับกระเทียมก็เข้ากันค่ะ

น่าทานมากกกกก

ข้าวผัดมันกุ้งแม่น้ำสองสี ราคา 520 บาท

ทางร้านเลือกใช้กุ้งแม่น้ำตัวกำลังพอดีนำไปต้ม วางคู่กับข้าวผัดสองสี พร้อมเครื่องเคียง เช่น พริกสด มะนาว มะม่วงสับ และหัวหอม โดยข้าวสองสีจะเป็น ข้าวผัดมันกุ้งและข้าวผัดผงกะหรี่ซึ่งจะได้กลิ่นความหอมอ่อนๆ

กุ้งตัวใหญ่กำลังดี

ไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย อ้ายตื้อ ราคา 140 บาท

หากจะพูดถึงเมนูของหวานขอแนะนำนี่เลยค่ะ "ไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย อ้ายตื้อ" เป็นเมนูขนมโทยโบราณ โดยไข่กบ=เม็ดแมงลัก, นกปล่อย=ลอดช่อง, มะลิลอย=ข้าวตอก, อ้ายตื้อ=ข้าวเหนียวดำ เวลาทานให้นำเครื่องใส่ลงไปในน้ำกะทิตามต้องการ เมนูนี้จะทานแบบอุ่นหรือแบบเย็น(ใส่น้ำแข็ง)ก็ได้

หาทานยากมากบอกเลย

ขอใส่เครื่องแบบเต็มๆ

หน้าตาของเขาก็จะประมาณนี้

ไอศกรีมในลูกสับปะรด ราคา 180 บาท

เป็นอีกหนึ่งไอศกรีมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับลูกสับปะรด ซึ่งไอศกรีมจะอยู่ในลูกสับปะรดแช่แข็ง เวลาทานจะได้ทั้งเนื้อไอศกรีมและเนื้อของสับปะรดไปด้วย บอกได้เลยว่าโดยส่วนตัวชอบเมนูนี้ เวลาทานรับรู้ได้ถึงความสดชื่นสุดๆ

ตอนเปิดผาออกสับปะรดคือเย็นมาก

น้ำมะเน็ต ราคา 120 บาท

สำหรับเมนูเครื่องดื่มต้องนี่เลย "น้ำมะเน็ต" เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ นายเลิศ เป็นคนนำเข้ามา ซึ่งน้ำจะผสมด้วยเลมอน+โซดา เวลาทานจะรู้สึกสดชื่น ได้รสชาติเปรี้ยวซ่ากำลังดี

ต่อท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มแบบสดชื่น

สรุปรสชาติอาหาร

หมี่น้ำปาร์คนายเลิศ : เส้นหมี่ทอดเหลืองกรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมัน ทานคู่กับน้ำซุปที่ใส่มาในถ้วย น้ำซุปจะมีรสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดเกินไป หากใครต้องการเพิ่มรสชาติให้ชัดขึ้น แนะนำให้บีบมะนาวเพิ่มลงไป ทำให้น้ำซุปมีรสชาติเปรี้ยวและหอมของน้ำมะนาว

แกงเหลืองหน่อไม้ปลาแซลมอน : หากใครที่ชอบทานรสเผ็ดเมนูนี้อาจจะถูกใจ น้ำแกงจะมีรสชาติเปรี้ยวนำตามด้วยรสเผ็ดร้อน หอมกลิ่นเครื่องแกงอย่างชัดเจน ทานรวมๆ ไปกับปลาแซลมอนและหน่อไม้ดองแนะนำให้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนจะเข้ากันมากขึ้น สำหรับเมนูนี้หากใครที่ไม่ชอบทานเผ็ดอาจจะมองว่าเผ็ดไปนิด

น้ำพริกลงเรือ : เมนูนำพริกลงเรือจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด ซึ่งผักของที่ร้านมีการแกะสลักมาพอสวยงามแสดงให้เห็นถึงความปราณีต เมื่อทานผักคู่กับน้ำพริกสัมผัสได้ถึงความกรอบของผัก น้ำพริกมีรสหวาน เค็ม ตามด้วยรสเผ็ด หอมกลิ่นกะปิอ่อนๆ ในน้ำพริกจะมีหมูสับ กุ้งฝอย และไข่เค็ม หากต้องการเพิ่มรสชาติของน้ำพริกแนะนำให้ทานไข่เค็มด้วย รสชาติของน้ำพริกก็จะชัดขึ้น

หมูเค็มไก่เค็ม : เมนูนี้ให้อารมณ์เหมือนทานหมูตุ๋นไก่ตุ๋น จะได้รสชาติเค็มนำแต่ไม่มากซึ่งเป็นรสชาติปกติ หมูกับไก่มีความหอมละมุนจากเครื่องปรุง ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จะได้รสชาติที่กลมกล่อมพอดี

ปอเปี๊ยะทอดคุณย่า : โดยส่วนตัวชอบเมนูปอเปี๊ยะทอด ซึ่งปอเปี๊ยะทอดของที่นี่เป็นลักษณะแบบโบราณ คือจะใส่ วุ้นเส้น, หมูสับ และเห็ดหูหนู ห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะแบบบาง ทอดไม่อมน้ำมัน ทำให้กรอบแม้วางไว้นาน และเพิ่มรสชาติอีกหน่อยด้วยน้ำจิ้มสูตรทางร้าน ซึ่งในน้ำจิ้มจะใส่ผักกาดขาวด้วยเพื่อเพิ่มรสสัมผัสมากขึ้น

หมูเสด็จ : หมูย่างหั่นมาชิ้นกำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด และน้ำจิ้ม หมูย่างเมื่อทานหมูเปล่าๆ หมูมีรสกลมกล่อมจากการหมัก ให้ความรูสึกนุ่ม ไม่เหนียว และหอมควันจากการย่าง หากทานคู่กับน้ำจิ้มจะได้รสชาติแบบ 3 รส คือ หวาน เค็ม เปรี้ยว ตามด้วยเผ็ดอ่อนๆ หรือถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติอีกแนะนำให้ทานคู่กับกระเทียมที่เสิร์ฟมาในจาน

ข้าวผัดมันกุ้งแม่น้ำสองสี : ทางร้านเลือกใช้กุ้งแม่น้ำตัวกำลังพอดีมาต้มและปอกเปลือกออกวางมาคู่กับข้าวผัดสองสี คือ ข้าวผัดมันกุ้งและข้าวผัดผงกะหรี่ พร้อมเครื่องเคียงอย่าง พริกสด มะนาว มะม่วงสับ และหอมแดง แนะนำให้คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เวลาทานจะรู้สึกถึงความมันของข้าว หอมผงกะหรี่ มีรสเปรี้ยวของมะนาวและมะม่วงสับ ทานรวมกับกุ้งเรียกได้ว่าเข้ากัน

ไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย อ้ายตื้อ : เป็นขนมไทยโบราณหาทานยาก ซึ่งเมนูนี้จะเสิร์ฟด้วยเครื่องเคียง 4 อย่าง คือ เม็ดแมงลัก, ลอดช่อง, ข้าวตอก และข้าวเหนียวดำ หากใครชอบทานอะไรก็สามารถใส่ลงไปทีลงอย่างได้ แต่แนะนำให้ทานทุกอย่างรวมกันจะได้รสชาติ และรสสัมผัสที่เข้ากัน น้ำกะทิของที่นี่มีความหวานกำลังพอดี ที่สำคัญเมนูนี้สามารถเลือกทานแบบอุ่นๆ หรือแบบเย็นก็ได้

ไอศกรีมในลูกสับปะรด : โดยส่วนตัวชอบเมนูนี้ ไอศกรีมของที่นี่จะไม่หวานมาก เมื่อทานรวมๆ กับเนื้อสับปะรดก็จะได้รสชาติหวานอ่อนๆ ตามด้วยรสเปรี้ยวของเนื้อสับปะรด เวลาทานให้ความรู้สึกที่สดชื่น

น้ำมะเน็ต : เป็นเครื่องดื่มที่ใครไปใครมาเป็นต้องสั่ง ด้วยรสชาติความเปรี้ยวเลมอน และความซ่าของโซดา เวลาทานจะรู้สึกสดชื่น ไม่เปรี้ยว ไม่หวานเกินไป

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.0
บรรยากาศ	4.1
การบริการ	4.0
ความคุ้มค่า	4.0
คะแนนเฉลี่ย	4.025

จุดเด่น

1. เมนูอาหารของทางร้าน Ma Maison เป็นเมนูอาหารไทยที่คนไทยคุ้นเคยสามารถเข้าถึงง่ายอย่างเช่น น้ำพริกลงเรือ แกงเหลือง หมูย่าง และปอเปี๊ยะทอด ซึ่งบางเมนูอาจมีการปรับเปลี่ยนรสชาติเพิ่มเติมเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน แต่ก็ยังคงรสชาติของความเป็นไทยไว้ เช่น เมนูแกงเหลืองหน่อไม้ปลาแซลมอน เป็นเมนูร่วมสมัยที่นำเอาปลาแซลมอลมาแทนที่ปลาน้ำจืดทั่วไป

2. ในส่วนของเมนูอาหาร โดยส่วนตัวชอบเมนูแกงเหลืองหน่อไม้ปลาแซลมอน แซลมอนให้มาชิ้นแบบพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากัน และข้าวผัดมันกุ้งแม่น้ำสองสี ให้ความรู้สึกเหมือนทานข้าวคลุกกะปิแต่แทนที่ด้วยกุ้งแม้น้ำ ซึ่งกุ้งมีความสดใหม่และเนื้อแน่น ส่วนเมนูของหวานก็จะเป็น ไอศกรีมสับปะรด ทางร้านมีการนำสับปะรดไปแช่แข็ง ใส่ไอศกรีมลงไป เวลาทานได้รสสัมผัสไปอีกแบบ สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ น้ำมะเน็ต มีรสชาติเปรี้ยวซ่าให้ความสดชื่นได้ดี

3. บรรยากาศร้านมีการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นโทนสีขาวเขียว มองแล้วรู้สึกสบายตาเข้ากับธรรมชาติ ซึ่งภายในร้านประกอบไปด้วยหนังสือเก่าๆ ภาพวาด และดอกไม้ โดยดอกไม้จะแสดงถึงเอกลักษณ์ของร้าน Ma Maison ที่ตั้งอยู่ในสวนของนายเลิศ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้ตัวของร้านมีความร่มรื่น น่าพักผ่อน สำหรับใครที่ต้องการมาทานอาหารกับครอบครัวแนะนำต้องมา

4. ในส่วนของการบริการพนักงานมีหน้าตายิ้มแย้ม พูดเพราะ สามารถให้ข้อมูลอาหารได้ทุกเมนู เวลาที่ลูกค้าถามหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม

5. สำหรับใครที่ชอบความเงียบสงบความเป็นส่วนตัว โดยส่วนตัวมองว่า มาร้าน Ma Maison อาจจะถูกใจ ด้วยเมนูอาหารไทยที่มีให้เลือกมากมาย โดยเป็นอาหารไทยสูตรของบ้านปาร์คนายเลิศ และนอกจากจะได้ทานอาหารแล้ว ยังได้ชื่นชมบรรยากาศธรรมชาติรอบร้าน หากใครที่ชอบถ่ายรูปมาร้านนี้น่าจะถูกใจ

ข้อเสนอแนะ

1. ในส่วนของเมนูราคาอาหารบางเมนู ราคาอาจจะสูงไปนิด เช่น ปอเปี๊ยะทอดคุณย่า ราคา 190 บาท ในจานมีจำนวน 5 ชิ้น

2. เมนูอาหารส่วนใหญ่จะมีรสชาติกลางๆ เน้นความกลมกล่อมไม่รสจัด ซึ่งเป็นรสชาติที่เข้ากับลูกค้าทั่วไป อย่างเช่น น้ำพริกลงเรือ มีรสชาติเผ็ดไม่มาก โดยส่วนตัวมองว่าหากใครที่ชอบทานอาหารสจัดอาจจะยังไม่ถูกใจ

ว้าวววววว!!!! เป็นอย่างไรกับบ้างคะเพื่อนๆ กับร้านอาหาร Ma Maison ที่สวนของปาร์คนายเลิศ บอกได้เลยว่าหากใครที่ได้หลุดเข้ามาในสวนของปาร์คนายเลิศ จะต้องติดใจอย่างแน่นอน เพราะที่นี่นอกจากจะมีเมนูอาหารไทยเดิมอย่าง น้ำพริกลงเรือ แกงเหลืองแกงเหลืองหน่อไม้ใส่ปลาแซลมอน หรือจะเป็นข้าวผัดสองสีกุ้งแม่น้ำ ในส่วนของเมนูของหวานก็หาทานยาก เช่น เมนูไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย อ้ายตื้อ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด และหลังจากที่ได้ทานอาหารกันไปแล้ว ยังได้ชื่นชมบรรยากาณแบบธรรมชาติสุดๆ เอาละ!! เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาอย่าลืมตามไปเช็คอินกันนะคะ

เขียนโดย