Shiroku Shabu ชาบู "เนื้อวากิว" ราคาเริ่มต้นที่ 389 บาท

        ถ้าพูดถึง "เนื้อวากิว" เชื่อวาหลายคนคงนึกถึงการปิ้งย่าง หรือยากินิกุเป็นอย่างแรกใช่มั้ยคะ? แต่วันนี้เรามี "ชาบูเนื้อวากิว" จากร้าน Shiroku Shabu มานำเสนอกันค่ะ ร้านนี้มีให้เลือกทั้งอาลาคาร์ท และบุฟเฟ่ต์เลยนะคะ อยากจะบอกว่าไม่จำกัดเวลาอีกด้วย !!!!! หลังจากที่ปีที่แล้วเคยแวะมารีวิวร้านนี้ไปแล้วครั้งนึง วันนี้ได้โอกาสผ่านมาแถวนี้เลยตั้งใจจะเข้ามารีวิวอีกครั้ง ว่าแล้วเราก็เดินทางไปที่ร้านกันเลยยยยย เรื่องราคาและรสชาติจะเป็นยังไงยังอร่อยเหมือนเดิมหรือไม่ ต้องตามมาดูกันจ้าาาา

บรรยากาศหน้ารา้น

บรรยากาศหน้าร้าน

การเดินทาง

          การเดินทางมาร้าน Shiroku Shabu ค่อนข้างง่าย หากนั่ง MRT มาลงที่สถานีลาดพร้าว แล้วสามารถนั่ง Taxi ไปที่ร้านได้เลยไม่ไกลมากค่ะ ตัวร้านตั้งอยู่ที่อาคารรุ่งโรจน์พัฒนา ถนนนาคนิวาส ติดถนนเลยค่ะ สังเกตง่ายๆ จากป้ายร้านจ้า

แผนที่ร้าน

บรรยากาศในร้าน

           หลังจากเดินเข้ามาในร้านกวาดสายตาไปทั่ว อ้าววววไม่มีลูกค้าเลย? ดูนาฬิกาตัวเองอีกทีอ๋อ...เพิ่งสี่โมงเย็น ฮ่าๆๆ ถึงว่าทำไมยังไม่มีลูกค้าเลย ร้านนี้วัน จ.-ศ. จะเปิด 16:00-22:00น. และวัน ส.-อา. จะเปิดเวลา 11:00-22:00น. ค่ะ

          บรรยากาศในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น แถมยังมีต้นไม้เล็กๆ น่ารักๆ ตกแต่งอยู่ทั่วร้านนะคะ ภายในร้านมีที่นั่งอยู่เกือบๆ ยี่สิบโต๊ะและแต่ละโต๊ะจะมีการวางอุปกรณ์การทานเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ

มุมน่ารักๆ ก็มีนะ

แต่ละโต๊ะมีอุปกรณ์ให้พร้อมค่ะ

ถ่ายรูปไปสักพัก ลูกค้าก็เริ่มเข้า

ราคาเท่าไรหรอ?

          ร้าน Shiroku Shabu มีงทั้งแบบอาลาคาร์ทและแบบบุฟเฟ่ต์ บุฟเฟ่ต์ที่นี่จะแบ่งเป็น 4 ช่วงราคา คือ

          - Standard 389฿ ราคานี้จะเป็นตัวธรรมดาสุด ไลน์อาหารค่อนข้างจำกัด(ไม่มีเนื้อวากิว)

          - Deluxe 489฿ จะไม่มีเนื้อวากิวค่ะ

          - Premium 589฿ ราคานี้จะวากิวด้วยจ้า สามารถสั่งอาหารทุกอย่างในเมนูได้หมดค่ะ

          - Premium+ 689฿ ราคานี้จะได้เพิ่ม "เนื้อวากิวคาตะโรสุ" และได้ซูชิเกรดพรีเมี่ยมเพิ่มในเมนูค่ะ

เมนูราคา 389฿ 489฿ 589฿

ตัวนี้เป็น Pemium+ 689฿ จ้า

อ่านกติกากันหน่อยนะคะ^^

เมนูที่นี่เป็นแบบติ๊กเลือกเลยจ้า

          สำหรับใบสั่งอาหารด้านบนสุดจะให้เครื่องหมายเลือกราคาบุฟเฟ่ต์ ติ๊กให้ถูกช่องนะคะ ในเมนูแต่ละรายการอาหารทำเครื่องตัวย่อบอกไว้อย่างชัดเจนค่ะว่าราคาไหนสั่งอะไรได้บ้าง (เช่น D=Deluxe P=Pemium)

          หลังจากเลือกที่นั่งแล้ว ดูเมนูแล้วมันชั่งกินสะทุกอย่างจริงๆ และเราก็จัดบุฟเฟ่ต์ราคา 689฿ เป็นตัว Pemium+ ค่ะ เพราะอย่างลอง "วากิวคาตะโรสุ" ว่าจะเลอค่าสักแค่ไหน เลือกเมนูอาหารไปสักพักก็หยิบรายการอาหารมาติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก บอกเลยว่าเน้นเนื้อมากๆ ค่ะ 55555+ เครื่องดื่มที่นี่พนักงานจะเสิร์ฟให้เฉพาะแก้วแรกนะคะ แก้วต่อไปบริการตัวเองจ้า

เครื่องดื่มอยู่ทางนี้ค่ะ

สั่งชาน้ำผึ้งมะนาว และชาเขียวร้อนค่ะ

น้ำซุปมีกี่แบบ?

          น้ำซุปที่นี่มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกันคือ ซุปคอมบุ ซุปสุกี้ยากี้ ซุปชิโรกุ ซุปคุโรชิ เลือกได้ 2 ชนิดนะคะเราเลือกซุปชิโรกุและคุโรค่ะ ซึ่งสองตัวนี้เป็นตัว signature ของทางร้านจ้า

ซุปคุโรชิ และซุปชิโรกุ

         ซุปคุโรชิ รสชาติดีเลยค่ะกลมกล่อมมาก และหอมกระดูกหมูด้วยส่วนตัวให้ผ่านเลย แต่ติดอย่างเดียวที่ไม่ค่อยปลื้มคือเวลาต้มไปนานตัวมันของน้ำซุปจะเยอะมากๆ ทำให้เลี่ยนๆหน่อยค่ะ

         ซุปชิโรกุ ตัวนี้เป็นต้มยำหมีกดำค่ะ รสชาติจะคล้ายซุปเปอร์เลยค่ะ แต่ถ้าใครชอบแบบรสชาติจัดจ้านแนะนำให้เติมพริกลงไปค่ะ เพราะส่วนตัวคิดว่าซุปชิโรกุให้มาจะไม่ค่อยมีรสชาติของความเผ็ดเท่าไรจ้า

น้ำจิ้มทางร้าน

          น้ำจิ้มทางร้านมีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน ตัวแรกคือน้ำจิ้มสุกี้รสชาติจะออกหวานนำ ตัวต่อมาคือน้ำจิ้มพอสึที่รสชาติจะออกเปรี้ยวโดดมาเลยส่วนตัวเราคิดว่าเหมาะน้ำซุปชิโรกุที่เป็นตัวต้มยำหมึกดำ และตัวสุดท้ายคือน้ำจิ้มงาขาว ที่มีรสชาติออกหวานๆ หน่อยและหอมกลิ่นงา แถมยังมีเนื้องาที่บดละเอียดด้วย ตัวนี้ทางร้านแนะนำให้ทานกับซุปคุโรชิจะเข้ากันมาก

ขวดแรกน้ำจิ้มสุกี้ ขวดที่3น้ำจิ้มพอนสึ และสุดท้ายเป็นโชยุค่ะ

มีกระเทียม พริก และหอมซอยให้ค่ะ

ใส่ตามใจชอบเลยนะคะ

น้ำจิ้มงาขาว

          อะ อะ อะ หิวแล้วววววสั่งอาหารกินเลยดีกว่าค่ะ วันนี้ขอสั่งเนื้อแบบเน้นๆ เลยละกันนะคะ 

         นี่คือทั้งหมดที่เราสั่งมาชุดแรกค่ะ เมนูเนื้อจะเป็นจานสีดำ มีเนื้อวากิวคาตะโรสุ(Pemium+) วากิวอุชิโมโมะ วากิวคาตะบาระ เนื้อใบพาย อกเป็ด และสันคอ และหมูเป็นจานสีแดงค่ะ มีคุโรบุตะ และสันคอหมูค่ะ ส่วนตัวซูชิก็เน้นตัวพรีเมี่ยมโดยเฉพาะค่ะ 55555+

มาดูเนื้อแบบซูมๆ กัน

วากิวคาตะโรสุ(มีเฉพาะ Pemium+)​

 วากิวอุชิโมโมะ

เนื้อสันคอAus

เนื้อใบพาย

วากิวคาตะบาระ

อกเป็ด

เมนูหมูแบบซูมๆ กัน

สันคอหมู

คุโรบุตะ

ปิดท้ายด้วยเซตผักของเรา 

          เริ่มหิวแล้ววววว เลือกจัดการซูชิก่อนเลยอันดับแรก

          ตัวแรกคือ อิคุระโรล จะเป็นแซลมอนห่อข้าวด้านบนมีไข่ปลาแซลมอนไข่กุ้งและมายองเนส อิคุละโรลโดยรวมดีค่ะแต่ตัวไข่แซลมอนแอบมีกลิ่นแปลกๆ นิดหน่อย

          โรลปลาไหล รสชาติทานเข้าไปแล้วจะได้รสชาติความหวานของปลาไหล แล้วตัดด้วยความเปรี้ยวนิดๆ ของมอยองเนสเข้ากันดีมากค่ะ แถมมีปูอัดอยู่ข้างล่างด้วย ตินิดหน่อยคือตัวข้าวเหมือนไม่สุกค่ะมีแข็งๆ อยู่บ้าง

          ซูชิปลาไหล ตัวนี้ดีงามมากกกกก ปลาไหลชิ้นโตเต็มคำ ปลาไหลนิ่มเหมือนละลายในปากไปเลย โดนใจอย่างแรงงงงง แต่ตัวนี้ติดที่ข้าวแอบแข็งอีกเหมือนกัน

          หอยเชลล์ ฮอกไกโด ซูชิ ตัวนี้เลิฟสุดอีกเหมือน กินคำแรกคือฟินไปเลยยยยย เนื้อหอยหวานละลายในปากที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ

ยากินิกุวากิว ซูชิ

ยากินิกุมาโย ซูชิ

          ยากินิกุวากิว ซูชิ และยากินิกุมาโย ซูชิ สองตัวนี้เป็นการนำเนื้อวากิวมาเบิร์นด้านหน้าและราดซอส บอกเลยว่าอร่อยเต็มคำทั้งคู่ เนื้อนิ่มมากๆ ตัวมาโยจะมีความเปรี้ยวของมายองเนสมาตัดความหวานของเนื้อและซอส มันคืออะไรที่เข้ากันได้ดีมาก

          สำหรับซูชิหน้าต่างๆ ถือว่าผ่านนะคะ แต่ที่ไม่โดนใจคือข้าวปั้นแทบทุกชิ้นรู้สึกว่าเหมือนข้าวไม่สุกดีมีบางเม็ดที่มันแข็งอยู่ เคี้ยวโดนแล้วมันทำให้รู้สึกเสียอรรถรสในการทานมากค่ะ

          แซลมอนซาซิมิเนื้อแน่นและชิ้นโตพอดีคำเลยค่ะ แต่แอบติเรื่องวาซาบิที่ให้มากับแซลมอนค่อนข้างอ่อนไปค่ะ ไม่มีกลิ่นวาซาบิเลย สำหรับคนชอบวาซาบิแบบแรงๆ ต้องใส่เยอะๆ

          แซลมอนยำไทย ความรู้สึกแรกคือเผ็ดนำและหวานตาม รสค่อนข้างจัดจ้าน สำหรับคนไม่ทานเผ็ดอาจจะต้องยอมแพ้ไปค่ะ แต่สำหรับเรารับได้สบายมาก^^

ถึงเวลาชาบู ชาบู ของเราแล้ว

          น้ำเดือดได้ที่....ก็ถึงเวลาเนื้อทุกชนิดของเราจะได้ลงน้ำกันแล้วววววว ฮ่าๆๆ 

วากิวคาตะโรสุ ชิ้นใหญ่มากกกก

วากิวคาตะโรสุในซุปคุโรชิ

วากิวคาตะโรสุในซุปชิโรกุ

          วากิวคาตะโรสุ ตัวนี้เป็นจะมีอยู่ในราคา 689฿ Pemium+ เท่านั้นค่ะ นำเนื้อลงไปแช่น้ำสักพักก็ยกขึ้นมารอบแรกทานแบบไม่มีน้ำจิ้มค่ะ เคี้ยวคำแรกต้องบอกเลยโอ้โหหหหหหหห คือเนื้อนุ่มมาก ไม่มีความเหนี่ยวความหนืดเลย คือมันดีมากชอบที่สุดดดด

วากิวอุชิโมโมะ

วากิวอุชิโมโมะ

          วากิวอุชิโมโมะ ส่วนตัวแล้วอุชิโมโมะมีความนุ่มนะคะ แต่ไม่เท่าตัวคาตะโรสุที่ทานไปตอนแรก ลองลวกในซุปคุโรชิหรือซุปกระดูกหมูแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มงาขาว หืมลงตัวเข้ากันดีทุกอย่างจริงๆ !!! 

วากิวคาตะบาระ

          วากิวคาตะบาระ ส่วนตัวสำหรับตัวนี้ออกจะเลี่ยนมันหน่อย แต่เนื้อนุ่มค่ะ มันจะเยอะและมีกลิ่นของเนื้อผสมอยู่ในมันด้วย สำหรับคนชอบเนื้อติดมันเยอะๆ ต้องถูกใจตัวนี้แน่ๆ ค่ะ

เนื้อใบพาย

เนื้อใบพาย

          เนื้อใบพาย ตัวเนื้อจะนุ่มและแอบมีความหนึบในส่วนของมันที่ติดอยู่ด้านข้าง ตัวนี้แนะนำให้ลวกแปปเดียวค่ะ เดี๋ยวจะเนื้อจะกระด้างแล้วไม่อร่อย(จากประสบการณ์ส่วนตัว ฮ่าๆ) เนื้อใบพายลวกกับซุปชิโรกุแล้วมาลองน้ำจิ้มพอนสึดูบ้าง... โดยส่วนตัวคิดว่าน้ำจิ้มพอนสึเปรี้ยวไปสำหรับเรา เราคงไปกันไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆ แต่สำหรับคนชอบทานเปรี้ยวๆ หน่อยอาจจะถูกใจนะคะ 

เนื้อสันคอAus

          เนื้อออสเตเรียสันคอ ตัวนี้จะมีความเหนียวหนึบกว่าเนื้อทุกชนิดที่สั่งมา เพราะเคี้ยวอยู่นานเหมือนกัน สำหรับคนฟันไม่แข็งแรงแนะนำให้ผ่านไปค่ะ

อกเป็ด

          อกเป็ด ส่วนตัวคิดว่า่ออกจะเหนียวไปหน่อยค่ะ ถ้าทานเยอะอาจจะเลี่ยนได้ค่ะ เราเคยกินแต่แบบที่เป็นเป็นสเต็กพอมาลองแบบนี้ขอกลับไปทานสเต็กแบบเดิมค่ะ ฮ่าๆ แต่ถ้าในสนใจก็ลองสั่งดูได้นะคะอาจจะถูกใจก็ได้

สันคอหมู

          สันคอหมู ที่นี่จะนุ่มๆ หนึบๆ มีส่วนของมันแทรกอยู่

คุโรบุตะ

          หมูคุโรบุตะ สะดุ้งน้ำซุปแปปเดียวพอค่ะ คำแรกรู้สึกนุ่มมากกกกก ไม่มีความเหนี่ยวจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้ก็อร่อย จะชุบไข่ไก่ก็หวานมัน   เรียกได้ว่าเข้ากับทุกอย่างจริงๆ

เต้าหู้ชีส

          เต้าหู้ชีส อีกอย่างหนึ่งที่แนะนำอยากให้ลองสั่งดูนะคะส่วนตัวเราชอบนะ ตัวเต้าหู้มันหนึบๆ ดแถมชีสที่อยู่ข้างในก็หอมด้วย แนะนำให้ทานกับน้ำจิ้มสุกี้ค่ะ เข้ากันดีมากๆ 

          ก่อนจะรู้สึกอิ่มเราก็สั่งวากิวคาตะโรสุ ซูชิหอยเชลหมูคุโรบุตะ  และแซลมอนกริลสไปซี่ซูชิมาอีกรอบ สำหรับตัวแซลมอนสไปซี่ซูชิ เป็นแซลมอนกริลล์ราดด้วยซอส มีรสชาติเผ็ดที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ

เมนูของหวาน

เฉาก๊วยนมสด

เฉาก๊วยสักชิ้นมั้ยคะ

หวานเย็นถั่วแดง

          สำหรับของหวานที่นี่จะสั่งได้เมื่อทานบุฟเฟ่ต์ราคา 589฿ ขึ้นไปค่ะ

          สำหรับเฉาก๊วยนมสด ส่วนตัวคิดว่าทานไปแรกๆ มันสดชื่นนะเหมือนล้างปากได้ดีมาก แต่ทานไปสักพักดันเลี่ยนสะงั้น อาจจะเป็นเพราะนมเลยทำให้เลี่ยน ถ้าใครไม่ชอบแนวหวานมันแนะนำหวานเย็นถั่วแดงเลยค่ะ ชอบตรงที่ไม่หวงถั่วแดงของจริงคือก้อนใหญ่มากกกกกกก แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ

 

ประเมินและให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4
บรรยากาศ	4
การบริการ	3.9
ความคุ้มค่า	3.8
คะแนนเฉลี่ย	3.9

 

ค่าเสียหาย

ค่าอาหารมื้อนี้รวมสองคน บุฟเฟ่ต์ Pemium+ราคา 689฿ + 689฿ =1,378฿ 

จุดเด่นของร้าน Shiroku Shabu

-เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ทานได้ไม่จำกัดเวลา

-เนื้อวากิวคาตะโรสุ เนื้อนุ่มมาก

- ร้านมีการปรับปรุงเรื่องการบริการที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

-ซูชิหน้าต่างๆ ให้ในปริมาณเยอะเต็มคำ

-น้ำซุปคุโรชิ รสชาติกลมกล่อม

-อาหารสดต่างๆ เช่นหมู เนื้อ คุณภาพดี

ข้อเสนอแนะ

-น้ำซุปชิโรกุต้มยำหมีกดำ รสชาติอ่อนไปสำหรับคำว่าต้มยำ คนทานรสจัดต้องปรุงเพิ่มค่ะ โดยส่วนตัวยังไม่ถูกใจเท่าไร

-ข้าวที่ใช้ทำซูชิ เหมือนยังไม่สุกดีมีแข็งๆอยู่บ้าง

-วาซาบิที่ให้มารสชาติอ่อนเกินไป อาจจะไม่ถูกใจสำหรับคนชอบแบบเผ็ดๆ

          สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อพรีเมี่ยม โดยเฉพาะ "เนื้อวากิว" ก็เป็นอีกร้านที่แนะนำนะคะ เพราะด้วยของทุกอย่างคุณภาพอยู่ในระดับที่ดี แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่าบุฟเฟ่ต์ Pemium+ ราคา 689฿ ราคาก็แอบสูงอยู่นะถ้าเทียบกับไลน์อาหารที่มีเพิ่มขึ้นมาไม่มากเท่าไรค่ะ