ใครจะไปรู้...แค่นอนอ้าปากก็ส่งผลเสียต่อฟันได้

          ใครนอนกรนเสียงดังทะลุเพดาน ทะลุผนัง และรบกวนคนนอนข้างๆ รีบยกมือขึ้น?! ไม่ต้องอาย และไม่ต้องเสียใจไปค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้โรคนอนกรนรักษากันได้ แต่โรคนอนอ้าปากน้ำลายไหลยืดนะสิที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า!

          อาจจะไม่รู้ตัวกันสักเท่าไหร่นักสำหรับผู้ที่นอนแล้วปากอ้า เพราะใครจะมานั่งจับผิดดูว่าเรานอนอ้าปากตลอดทั้งคืนจริงไหม แต่ถ้าตื่นมาพร้อมน้ำลายเลอะรอบๆ ปาก และรอบๆ หมอนละก็ สันนิษฐานไว้เลยว่าเรามีปัญหาเรื่องการนอนแล้วละ เพราะได้มีการวิจัยแล้วว่า การนอนอ้าปากจะส่งผลเสียโดยตรงต่อฟันของเรา และอันตรายเทียบเท่ากับฤทธิ์ของน้ำอัดลมเลยละนะจะบอกให้

          งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Oral Rehabilitation กล่าวว่า การนอนอ้าปากหรือการหายใจด้วยปากแทนจมูกระหว่างการนอนนั้นทำให้น้ำลายซึ่งเป็นตัวฆ่าแบคทีเรียในฟัน และปากของเราแห้งลง ส่งผลให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้เสี่ยงต่อการมีฟันสึก และฟันผุ เพราะค่าความเป็นกรด pH ในปากโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 7.7 แต่จะลดลงหากนอนอ้าปากโดยเหลือเพียง 6.6 นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า หากร่างกายใช้ปากหายใจเพียงอย่างเดียวตลอดทั้งคืน ค่าความเป็นกรด pH จะลดลงมากเหลือเพียง 3.6 เท่านั้น

          นอกจากนี้การวิจัยยังทำควบคู่ไปกับการสังเกตการณ์ของทันต์แพทย์ และพบว่าผู้ที่มีพฤติกรรมการนอนเช่นนี้มักจะมีปัญหาเรื่องฟันมากกว่าผู้ที่นอนแบบปกติ แถมคุณผู้ชายทั้งหลายมีโอกาสสูงกว่าที่จะมีโรคภายในช่องปากมากกว่าคุณผู้หญิงอีกด้วย

          นักวิจัยของมหาวิทยาลัย Otago University นามว่า Joanne Choi กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่การศึกษาพฤติกรรมการนอนแบบอ้าปากแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของค่าความเป็นกรดหรือ pH ในตัวผู้ทดลอง และได้สนับสนุนข้อสันนิษฐานที่ว่าการหายใจด้วยปากอาจจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดโรคภายในช่องปาก อาทิ อาการเสียวฟัน และฟันผุ

         โอ๋ๆ ไม่ต้องเสียใจไปนะจ้ะสำหรับคุณผู้อ่านท่านใดที่มีพฤติกรรมการนอนแบบเผลออ้าปากหวอจนน้ำลายไหล เพียงแค่ฝึกวันละนิด บังคับตัวเองวันละหน่อย เพียงเท่านี้พฤติกรรมอ้าปากตอนนอนก็จะหายไปก่อนจะรู้ตัวเสียอีก

 

ที่มา: stuff







TOP