ความลับ 9 อย่างที่สตาร์บัคส์ไม่เคยบอกใคร!

          เชื่อว่าในยุคนี้ไม่มีใครไม่รู้จักสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟชื่อดังที่เปลี่ยนการดื่มกาแฟธรรมดาให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ และในปัจจุบันสตาร์บัคส์มีสาขาทั่วโลกมากถึง 17,572 สาขาเชียวแนะ! และถือว่าเป็นร้านกาแฟที่มีอายุยาวนานกว่าสี่สิบปี แต่แน่ใจไหมว่าเรารู้จักสตาร์บัคส์ดีพอ?!

          มาดูกันว่ามีความลับอะไรบ้างที่สตาร์บัคส์ไม่เคยบอกให้เรารู้!

 

1. รู้ไหม เราสามารถผสมผสานส่วนประกอบต่างๆ ของเมนูเครื่องดื่มได้มากถึง 87,000 เมนู

          สตาร์บัคส์มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกเยอะก็จริงแต่มากถึง 87,000 เมนูเชียวหรอ?! จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่มีใครรู้ แต่โฆษกของสตาร์บัคส์ได้ออกมาเปิดเผยว่า หากนำส่วนผสมหลักไปผสมกับส่วนผสมต่างๆ จะได้เมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ มากเกือบแสนเมนู! แบบนี้น่าลองสั่ง แต่ราคาจะสู้ไหวไหมก็อีกเรื่องเนอะ

 

2. สโคนรสซินนามอนชิพมีแคลเลอรี่มากกว่าเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ซะอีก!

          นอกจากจะเป็นผู้นำในการจำหน่ายกาแฟแล้ว สตาร์บัคส์ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่งคือ เป็นผู้จำหน่ายขนมอบขนมปังรายใหญ่อีกด้วย จอห์น มอร์ (John Moore) ผู้ซึ่งเคยทำงานในตำแหน่ง corporate marketing manager ของร้านสตาร์บัคส์ในปี 2002 บอกว่า หากมองสตาร์บัคเป็นแค่ผู้ขายพวกขนมอบ แบรนด์นี้คงเป็นรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา (มีหลายสาขาทั่วประเทศ) แต่ส่วนใหญ่แล้วขนมปังของร้านสตาร์บัคมักจะอุดมไปด้วยแคลเลอรี่สูง และไขมัน ยกตัวอย่างเช่น สโคนซินนามอนชิพมีแคลเลอรี่สูงถึง 480 ซึ่งมากกว่าแคลเลอรี่จากแฮมเบอร์เกอร์ขนาด Quarter Pounder sandwich ของร้าน McDonald's ถึง 70 แคลเลอรี่เชียว!

 

3. ใครว่าชื่อ สตาร์บัคส์ ไม่มีความหมาย

          หนังสือ Pour Your Heart into It: How Starbucks Built a Company One Cup at a Time ที่เขียนโดยประธานบริษัท และซีอีโอของสตาร์บัคนามว่าโฮเวิรด์ ชูลทส์ (Howard Schultz) ได้กล่าวถึงที่มาของชื่อ สตาร์บัคส์ ว่ามาจากตัวละครในวรรณกรรมชื่อดังคลาสสิคระดับโลกอย่างเรื่อง Moby Dick ซึ่งแต่งโดย Herman Melville จึงทำให้สัญลักษณ์หรือโลโก้ของแบรนด์เป็นรูปนางเงือกไซเรนสองหางอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้

 

4. เป็นพนักงานสตาร์บัคส์ต้องยิ้ม และห้ามบ่นเด็ดขาด

          อย่าพูดดังไปเพราะนี้คือข้อมูลจากวงในลับเฉพาะในหมู่พนักงานสตาร์บัคส์เท่านั้นกับสิ่งที่ต้องทำทุกๆ วันห้ามบ่นคือ การยิ้ม พนักงานสตาร์บัคส์นามว่ามาริสซา บี (Marissa Bea) ซึ่งได้ทำงานอยู่ที่สาขาในเมืองซีแอตเติล และนิวยอร์กมามากกว่า 3 ปีได้บอกว่า คู่มือพนักงานของสตาร์บัคที่เรียกว่า The Green Apron ระบุวิธีการสร้างสัมพันธไมตรีกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่เพียงผ่านการสื่อสารเท่านั้น แต่ต้องผ่านรอยยิ้มด้วยถึงจะได้ชื่อว่าเป็นพนักงานของสตาร์บัคส์ที่แท้จริง มิน่าละเดินเข้าไปทีไรพนักงานสตาร์บัคส์ดูใจดี๊ใจดี!! 

 

5. จะมีร้านกาแฟสตาร์บัคเปิดใหม่ 2 -3 สาขาทุกๆ วันทั่วโลก

          ในหนังสือชื่อว่า Starbucked: A Double Tall Tale of Caffeine, Commerce, and Culture โดย Taylor Clark ได้วิเคราะห์ไว้ว่าจะมีร้านสตาร์บัคส์ 6 สาขาเปิดใหม่ทั่วโลกในทุกๆ วันเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายของแบรนด์สตาร์บัคส์ที่ต้องการขยายสาขาให้มากถึง 40,000 สาขาทั่วโลก แต่ประธานฝ่าย Global Developments ของสตาร์บัคส์ กล่าวว่าจำนวนนี้อาจจะลดลงเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโดยให้เหลือเพียง 2 สาขาต่อวันเท่านั้น แต่อย่างไรก็เยอะอยู่ดี อยากกินกาแฟของสตาร์บัคส์เมื่อไหร่ก็หาได้ไม่ยาก และมีอยู่เกือบทุกมุมโลก

 

6. โต๊ะกลมๆ ในร้านสตาร์บัคเกิดจากไอเดียเพื่อให้คนไม่มีคู่รู้สึกไม่เหงา

          หากใครชอบดื่มกาแฟหรือนั่งชิวๆ ที่ร้านสตาร์บัคส์จะสังเกตได้ว่าโต๊ะของที่ร้านจะมีลักษณะกลมเป็นส่วนใหญ่ บางคนอาจจะมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่รู้ไหมว่าโต๊ะกลมๆ นั่นออกแบบมาพิเศษเพื่อให้ลูกค้าของสตาร์บัคส์ที่มาคนเดียวไม่ให้รู้สึกเหงาหรือว้าเหว่เกินไปต่างหาก

 

7. การตกแต่งภายในร้านสตาร์บัคส์มีให้เลือก 3 แบบเท่านั้น

          บรรยากาศภายในร้าน รวมไปถึงการตกแต่ง และรายละเอียดต่างๆ ล้วนสะท้อนถึงตัวแบรนด์ และที่สำคัญจำเป็นต้องสะท้อนถึงบรรยากาศโดยรอบของชุมชนนั้นๆ ด้วย โดยธีมแรกคือ Heritage โดยเน้นการตกแต่งให้มีความดิบเล็กๆ คล้ายๆ โรงงานแต่ดูทันสมัย แบบที่สองคือ Artisan ให้ความรู้สึกวินเทจนิดๆ กับการนำไม้มาสร้างจุดเด่นในการตกแต่ง ดูอบอุ่น และเก๋ในเวลาเดียวกัน ส่วนธีมสุดท้ายคือ Regional Modern จะเน้นความโปร่ง และความสว่างของตัวบรรยากาศ พร้อมกับเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์ มีลูกเล่น ถึงแม้ร้านสตาร์บัคส์จะมีธีม 3 แบบให้เลือกตกแต่งแต่ในบางครั้งก็มีแบบที่สี่ให้เลือกด้วย โดยแบบที่สี่จะเน้นการตกแต่งที่หลุดออกจากธีม เป็นแนวทดลองมากกว่า และสนุกกับการตกแต่งแบบไร้ขีดจำกัด

 

8. อยากเก๋กว่าใครต้องลองสั่ง “ไซส์พิเศษ” ที่ไม่มีอยู่ในเมนู

          อาจจะคุ้นเคยกับไซส์ขนาดเครื่องดื่ม 3 ไซส์แบบปกติได้แก่ Tall, Grande และVenti แต่รู้ไหมว่าสตาร์บัคก็แอบมีลูกเล่นมาเซอร์ไพรส์ตลอดกับไซส์เครื่องดื่มขนาด 8 ออนซ์หรือที่เรียกว่า “Short” สำหรับไซส์นี้ไม่มีให้เลือกอยู่ในเมนูแต่ถ้าท่านใดอยากสั่งก็สั่งได้เลย และเป็นที่รู้กันว่าหากสั่งไซส์ short เมื่อไรนั้นหมายความว่าสั่งไซส์เด็ก และเป็นที่คาดเดากันว่าในอนาคตสตาร์บัคอาจจะเพิ่มขนาดเครื่องดื่มให้มีไซส์ใหญ่กว่า venti และอาจมีขนาด 31 ออนซ์เรียกว่า Trenta สาวกสตาร์บัคส์ต้องรอดูกันว่าจะได้ยลโฉมกาแฟแก้วไซส์บิ๊กหรือไม่!!

 

9. เวลาเปิด และปิดตามป้ายนั้นไม่ใช่ของจริง

          ด้วยความที่เป็นร้านกาแฟจึงไม่แปลกที่จะต้องเปิดเช้า บางทีก็ตีห้า แต่บางทีก็เปิดแปดโมงเช้า แต่หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ตัวจริงของสตาร์บัคส์จะรู้ว่าทางร้านจะเปิดก่อน 10 นาที และปิดหลัง 10 นาทีเสมอทุกครั้ง เช่นหากป้ายบอกเปิด 6.00 น. แต่ประตูร้านจะเปิดให้ลูกค้าเข้าตอน 5.50 น. และหากปิดตอน 18.00 น. แสดงว่าสามารถอยู่ในร้านได้ถึง 18.10 น. เอาใจลูกค้าซะขนาดนี้ไม่ให้คนเยอะได้ไงละ!

 

ที่มา: womansday







TOP