ชวนดูมะม่วงอกร่อง VS มะม่วงน้ำดอกไม้ แยกยังไงให้ออก ดูให้เป็นต้อนรับเทศกาลข้าวเหนียวมะม่วง!

         

           ตั้งแต่ ‘Milli’ (มิลลิ) แร็ปเปอร์สาวชาวไทยได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตระดับโลกอย่าง Coachella ที่สหรัฐอเมริกา และโชว์พลังแร็ปเป็นที่น่าประทับใจ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่โชว์เป็นที่น่าจดจำ แต่ Milli ยังสร้างปรากฏการณ์เป็นที่พูดถึงมากมาย รวมถึงปรากฏการณ์ข้าวเหนียวมะม่วงให้เป็นที่พูดถึง เพราะ Milli ขึ้นเวทีแร็ปพร้อมนำข้าวเหนียวมะม่วงขึ้นไปกินบนเวทีจนเป็นภาพจำติดตากันไปทั่วโลก!

           และถึงแม้โชว์จะจบไปแล้ว แต่กระแสข้าวเหนียวมะม่วงก็ยังฮอตฮิตติดลมบน ทำให้ร้านข้าวเหนียวมะม่วงไม่ว่าจะร้านไหนๆ ต่างก็มีคิวยาวเหยียด ยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนด้วยแล้ว จะหันซ้ายหันขวาก็เจอแต่มะม่วงผลใหญ เนื้อแน่น รสหวานแบบละลานตา 

 

 

          ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เจ้าเมนูข้าวเหนียวมะม่วงนี้ จะนิยมทานคู่กับมะม่วงเพียง 2 สายพันธุ์เท่านั้น คือ มะม่วงอกร่อง และม่วงน้ำปลาดอกไม้ค่ะ แต่! สำหรับพันธุ์มะม่วงก็สามารถสร้างปัญหาได้เช่นกัน เพราะถึงแม้จะเป็นมะม่วงเหมือนกัน แต่ก็มีจุดแตกต่างกันตั้งแต่กลิ่น สี เนื้อสัมผัส และรสชาติ

          และความแตกต่างนี้อาจจะเป็นปัญหาในการเลือกมะม่วงที่อร่อยถูกปากรสชาติถูกใจได้ ในวันนี้ทีมงาน Ryoiireview จึงไม่รอช้าที่จะเปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่างมะม่วงอกร่อง และมะม่วงน้ำดอกไม้ เพื่อให้ลูกเพจทุกท่านได้เลือกซื้อในแบบที่ใช่ รสชาติที่ชอบได้อย่างถูกต้องค่ะ

 

จุดที่ 1 สีและลักษณะภายนอก (ไม่ปลอกเปลือก)

          จุดสังเกตแรกในการแยกชนิดของมะม่วงระหว่างอกร่อง และน้ำดอกไม้คือการดู 'สี' ค่ะ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งสีของเปลือก และสีของเนื้อมะม่วง รวมไปถึงขนาดของผล

 

มะม่วงอกร่อง (ซ้าย) และมะม่วงน้ำดอกไม้ (ขวา)

 

          มะม่วงน้ำดอกไม้จะออกสีเหลืองทองอย่างเห็นได้ชัด และมีสีเสมอกันทั้งผลค่ะ แต่เนื้อจะบาง ขนาดผลจะใหญ่ อ้วนเกือบกลม และมีรูปทรงที่หัวใหญ่แต่ปลายแหลม นอกจากนี้เนื้อจะแน่น แต่เมล็ดเล็ก และเสี้ยนน้อยด้วยค่ะ เนื่องจากมีสีเหลืองออกทองตั้งแต่ยังไม่สุก จึงทำให้สังเกตได้ยากว่าสุกหรือไม่

          ขณะที่มะม่วงอกร่อง (เฉพาะที่สุกแล้ว) สีจะออกเหลืองๆ ปนเขียว ถึงแม้จะสุกเต็มที่แล้ว สีก็ยังคงมีลักษณะเช่นเดิม แต่อาจจะมีความเข้มของสีที่มากขึ้นค่ะ มีรูปทรงพุ่งกลมกว้าง มีขนาดเล็กแต่เม็ดใหญ่ และเนื้อน้อย แต่จะช้ำง่ายกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ค่ะ ยิ่งสุกมาก ผลจะยิ่งช้ำ

 

จุดที่ 2 สีลักษณะภายนอก (ปลอกเปลือก)

          และเมื่อนำมาปลอกเปลือกแล้ว จะเห็นได้ว่าสีของเนื้อมะม่วงทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

          โดยสีของเนื้อมะม่วงอกร่องจะมีสีที่อ่อนกว่า ยังคงเหลืองอยู่ แต่เป็นสีเหลืองอ่อน และดูซีดกว่าหากเปรียบเทียบกับมะม่วงน้ำดอกไม้ที่สีของเนื้อจะออกเหลืองสดน่าทาน และออกไปทานสีเหลืองเข้ม

 

มะม่วงอกร่อง สีเหลืองอ่อน

มะม่วงน้ำดอกไม้ สีเหลืองสด


จุดที่ 3 กลิ่น

         และนอกจากสีแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้มะม่วงเป็นที่น่าจดจำอีกอย่างก็คือ 'กลิ่น' ค่ะ ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของมะม่วงอกร่องที่มีความหอมหวาน จึงทำให้มะม่วงอกร่องเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คนค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกันมะม่วงน้ำดอกไม้ก็มีความหอมเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นกลิ่นหอมที่ออกเปรี้ยวๆ ในขณะที่มะม่วงอกร่องจะมีกลิ่นที่หอมหวานมากกว่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงชนิดนี้

 

จุดที่ 4 รสชาติ

          และจุดสังเกตสุดท้าย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในการเลือกทานมะม่วงเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็คือ 'รสชาติ' นั่นเองค่ะ ในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส ขอบอกเลยว่าถ้าใครชอบความละมุนแบบหวานๆ แนะนำเนื้อของมะม่วงอกร่องค่ะ ที่มีความหวาน และชุ่มฉ่ำ เมื่อทานคู่กันข้าวเหนียวมูนแล้วจะยิ่งอร่อย และเพลินปากเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความหวานของเนื้อมะม่วงขึ้นอยู่กับความสุกของมะม่วง ถ้าหากนำมากินเร็วไปนิดอาจจะทำให้เนื้อมะม่วงมีความเปรี้ยวหน่อยๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยแบบเฉพาะตัว

 

มะม่วงอกร่อง

 

          ในขณะที่มะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีเนื้อออกสีเหลืองสด และดูน่าทานมากกว่ากลับมีความเปรี้ยวนำ แต่ยังมีความหวานบ้างแต่ไม่หวานละมุนเท่ามะม่วงอกร่องค่ะ แต่เรื่องรสชาตินี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการบ่มเช่นเดียวกันกับมะม่วงอกร่อง ว่าจะมีความเปรี้ยวหรือความหวานนำแทน แต่สำหรับท่านใดที่ชอบความเปรี้ยวอมหวาน เชื่อว่ามะม่วงน้ำดอกไม้น่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่าค่ะ เพราะรสเปรี้ยวเมื่อทานไปนั้นจะให้ความสดชื่นมากกว่า เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบควานหวานนำจนเกินไป

 

มะม่วงน้ำดอกไม้

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 4 จุดสังเกตช่วยให้ดูออก แยกให้เป็นว่าอันไหนคือมะม่วงอกร่องหรือมะม่วงน้ำดอกไม้ สามารถดูง่ายๆ ถึงแม้จะเพิ่งเข้าวงการข้าวเหหนียวมะม่วง โดยสามารถดูได้ตั้งแต่ สีเปลือก กลิ่น และรสชาติหรือเนื้อสัมผัส ที่ทั้ง 2 สายพันธุ์ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่

          สำหรับใครที่ชอบความหวานแบบชุ่มฉ่ำก็ขอแนะนำมะม่วงอกร่อง แต่ถ้าเป็นสายหวานซ่อนเปรี้ยวก็ต้องลองมะม่วงน้ำดอกไม้นะคะ ที่สำคัญถ้าหากทานคู่กับข้าวเหนียวมูน โรยถั่วเขียวคั่ว ราดด้วยน้ำกะทิข้นๆ หอมๆ บอกเลยว่ายิ่งฟินจนไม่อยากให้หมดฤดูร้อนเลยค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็รีบออกตามหาร้านข้าวมเหนียวมะม่วงอร่อยๆ ทานพร้อมดู Miili แสดงคอนเสิร์ตไปด้วย บอกเลยว่าจะอร่อยจนหยุดไม่ได้เลยค่ะ! 

 







TOP