รีวิว รสดีเด็ด Meat Warehouse บุฟเฟ่ต์ชาบูและปิ้งย่าง เนื้อวัววากิวทานได้ไม่อั้น พร้อมน้ำซุปสูตรเด็ด 50 ปี เริ่มต้นเพียง 349 บาท!!
วันนี้ขอพาสายเนื้อเดินทางไกลไปถึงฝั่งธนฯ ย่านเก่าแก่ที่มีร้านรสดีเด็ด Meat Warehouse ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในตำนานซ่อนตัวอยู่ สำหรับร้านรสดีเด็ดสาขานี้จะตั้งอยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และเป็นหนึ่งในสาขาที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ยังคงโดดเด่นด้วยน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวรสชาติกลมกล่อม สูตรต้นตำรับที่คงความอร่อยมากกว่า 50 ปี พร้อมด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวสไตล์รสดีเด็ดให้เลือกทาน แต่เพิ่มเติมด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างและชาบู ในราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท ชูโรงด้วยเนื้อไทยหลายสายพันธุ์ให้ทานกันได้แบบไม่อั้น ที่ถ้าหากใครได้ทานแล้วก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อไทยก็มีรสชาติดีเด็ดไม่แพ้เนื้อนำเข้า!
รสดีเด็ด Meat Warehouse บุฟเฟ่ต์ชาบูและปิ้งย่าง เนื้อวัววากิวทานได้ไม่อั้น พร้อมน้ำซุปสูตรเด็ด 50 ปี
การเดินทาง
ร้านตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 สามารถนั่ง MRT ลงสถานีแยกไฟฉาย จากนั้นแนะนำว่าให้นั่งแท็กซี่ต่อมาที่ร้านค่ะ เพราะร้านจะอยู่ห่างจาก MRT ประมาณ 9 กม.
หรือถ้าหากนำรถยนต์มาเอง ทางร้านจะมีที่จอดรถบริการ จอดฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ โดยสามารถมาได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกคือมาจากถนนกาญจนาภิเษก (ถนนทางคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ขับตรงไปอีกประมาณ 900 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ หรือมาจากฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ เมื่อถึงแยกไฟฉายให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นขับตรงมาอีกประมาณ 7 กม. เพื่อกลับรถใต้สะพาน และขับตรงไปอีกประมาณ 900 เมตรร้านจะอยู่ทางซ้ายค่ะ
บรรยากาศร้าน
สำหรับร้านรสดีเด็ด Meat Warehouse สาขานี้จะมาในสไตล์ Glasshouse เป็นห้องปรับอากาศรายล้อมด้วยกระจกใส หลังคาทรงสูง บรรยากาศโดยรวมจะเน้นความเรียบง่าย ใช้โทนสีดำเป็นหลัก พื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับลูกค้าได้เยอะ และมีความปลอดโปร่งไม่แออัดค่ะ
พื้นที่ภายในร้านจะมีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ตรงกลางร้านเลยค่ะ เป็นห้องกระจกเปิดโล่งให้เห็นบรรยากาศการทำอาหารทั้งหมด ส่วนที่นั่งจะมีที่นั่งให้เลือกเยอะมากกว่า 10 โต๊ะ มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor ค่ะ โดยจะนั่งรวมกันทั้งลูกค้าที่ทานอาหารจานเดียวและบุฟเฟ่ต์ค่ะ เพราะโต๊ะจะเป็นโต๊ะไม้ธรรมดา และยกเตาปิ้งย่าง-ชาบูมาวางสำหรับลูกค้าบุฟเฟ่ต์ค่ะ
เมนูและราคาอาหาร
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นร้านรสดีเด็ด ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่ากว่า 50 ปี แต่สาขา Meat Warehouse นี้มีเมนูให้เลือกทานเยอะกว่าที่คิดค่ะ โดยจะมีทั้งแบบ A La Carte และ Buffet สำหรับ A La Carte จะมีเมนูหลักๆ คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวไก่ หม้อไฟ (เนื้อ / หมู) หรือถ้าใครอยากอิ่มครบจบในจานเดียว ทางร้านก็มีอาหารประเภทจานเดียวทั้งข้าวหน้าไก่ ข้าวสตูว์ลิ้นวัว ข้าวกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับไทยวากิว และหม้อดินน่องลายเนื้อตุ๋น นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารทานเล่นทั้งเนื้อย่างจิ้มแจ่ว หมูสะเต๊ะ และเนื้อสะเต๊ะ
เมนูมีให้เลือกทานทั้งก๋วยเตี๋ยวและบุฟเฟ่ต์
แต่ถ้ามาถึงร้านรสดีเด็ด Meat Warehouse ทั้งทีก็ต้องขอจัดเต็มกับเมนูบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเป็นเมนูใหม่ที่เพิ่งออกมาได้ไม่นานค่ะ โดยบุฟเฟ่ต์จะมีให้เลือกทานทั้งชาบูและปิ้งย่างเลยค่ะ ทุกราคาสามารถนั่งทานได้ 2 ชม. เต็มค่ะ
บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง + ชาบูทานได้ไม่อั้นราคาเริ่มต้น 349 บาท
- Buffet Shabu บุฟเฟ่ต์ชาบูชาบู น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหอมๆ พร้อมเนื้อสัตว์ เส้นก๋วยเตี๋ยว และของทานเล่น
- หมู 349 บาท NET : หมูสไลซ์ 4 แบบทั้งสามชั้น สันคอหมู สันนอกหมู เบคอน พร้อมด้วยหมูสด หมูตุ๋น ลูกชิ้น และตับ
- เนื้อ 459 บาท NET : ทานได้ทั้งหมู และเนื้อโคขุนถึง 4 ชนิด พร้อมด้วยเนื้อสด เนื้อเปื่อย เอ็นเนื้อ ลูกชิ้น และตับ
- Buffet Grill บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ปิ้งย่างเน้นๆ ทั้งเนื้อสไลซ์ หมูสไลซ์ และเนื้อหมัก
- หมู 449 บาท NET : หมูสไลซ์ 4 แบบ เพิ่มเติมด้วยหมูหมักและไก่หมัก (หม่าล่า, น้ำมันงา และพริกไทยดำ)
- เนื้อ 559 บาท NET : เนื้อเน้นๆ ไปกับเนื้อโคขุน 4 ชนิด พร้อมด้วยเนื้อโพนยางคำ 2 ชนิด และเนื้อหมัก (หม่าล่า, น้ำมันงา และพริกไทยดำ)
- Buffet Grill & Shabu บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง + ชาบู ได้ทานทั้งปิ้งย่างและชาบูน้ำก๋วยเตี๋ยว เพิ่มเติมเนื้อพิเศษและซีฟู้ดแบบไม่อั้น!!
- หมู 549 บาท NET : หมูสไลซ์ 4 แบบ หมูตุ๋น หมูสด ลูกชิ้น ตับ หมูหมักและไก่หมัก พร้อมด้วยซีฟู้ด
- เนื้อ 659 บาท NET : อิ่มอร่อยกับทุกเมนูภายในร้าน เพิ่มเติมด้วยเนื้อไทยวากิวและซีฟู้ด
เลือกทานได้ทั้งชาบูและปิ้งย่าง
Buffet Grill & Shabu 659 บาท NET
ถ้าหากใครเป็นสายบุฟเฟ่ต์ที่อยากจัดเต็ม Ryoiireview ก็ขอแนะนำให้เลือกทาน Buffet Grill & Shabu เนื้อ ในราคา 659 บาท NET ค่ะ เพราะในมื้อเดียวจะสามารถทานได้ทั้งชาบู และปิ้งย่างไปกับเนื้อหลากหลายส่วนที่ทางร้านคัดสรรมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีของทานเล่น ซีฟู้ด ผักเพื่อสุขภาพ ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ของหวาน และเครื่องดื่มแบบจบครบ!!
น้ำซุป
ได้ชื่อว่าเป็นร้านรสดีเด็ด ทีเด็ดของทางร้านก็ต้องยกให้น้ำซุปเลยค่ะ เพราะทางร้านยังคงรสชาติน้ำซุปแบบต้นตำรับมานานถึง 50 ปีแล้ว ในแต่ละวันจะใช้เวลาเคี่ยวการต้มน้ำซุปนานถึง 6 ชม. จนน้ำซุปมีรสชาติเข้มข้น หอมสมุนไพรและหอมกลิ่นเนื้อเป็นเอกลักษณ์ค่ะ โดยจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำซุปเนื้อวัวและน้ำซุปหมูค่ะ
น้ำซุปสูตรต้นตำรับนานกว่า 50 ปี
เนื้อวัว
นอกจากน้ำซุปจะไม่เป็นสองรองใครแล้ว เนื้อวัวของทางร้านก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ขึ้นชื่อเช่นเดียวกันค่ะ โดยทางร้านเลือกใช้เนื้อไทยเป็นหลัก และมีหลากหลายชนิดทั้งเนื้อโคขุน เนื้อโพนยางคำ และเนื้อไทยวากิวค่ะ
เนื้อไทยสไลซ์บางๆ จะทานกับปิ้งย่างหรือชาบูก็เข้ากันดี!
เนื้อโคขุน
ขอเริ่มต้นกันด้วยเนื้อโคขุนจากฟาร์มที่สกลนคร โดยจะมีทั้งส่วนลูกมะพร้าวโคขุน ใบพายโคขุน ริบอายโคขุน เซอร์ลอยด์โคขุน และโหนกโคขุนค่ะ สำหรับเนื้อโคขุนนี้จะมีให้เลือกทานตั้งแต่บุฟเฟ่ต์ชาบู 459 บาท, บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง 559 บาท และบุฟเฟ่ต์ Buffet Grill & Shabu 659 บาท
เนื้อลูกมะพร้าวโคขุน
เนื้อใบพายโคขุน
เนื้อริบอายโคขุน
เนื้อเซอร์ลอยด์โคขุน
เนื้อโหนกโคขุน
เนื้อโพนยางคำ
สำหรับเนื้อโพนยางทำจะเลือกใช้เนื้อโพนยางคำจากฟาร์มชัยภูมิ โดยจะมีให้เลือกทานทั้งหมด 2 ส่วนคือ พับในโพนยางคำ และเนื้อลูกมะพร้าวโพนยางคำค่ะ อยู่ในบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง 559 บาท และบุฟเฟ่ต์ Grill & Shabu 659 บาทค่ะ
เนื้อพับในโพนยางคำ
เนื้อลูกมะพร้าวโพนยางคำ
เนื้อไทยวากิว
มาถึงคิวเนื้อพิเศษของทางร้านกันบ้างค่ะ ถึงแม้จะเป็นเนื้อไทยแต่ก็มีเนื้อวากิว! โดยจะมีทั้งเนื้อพับในไทยวากิว เนื้อพับนอกไทยวากิว เนื้อหนอกไทยวากิว และเนื้อตะพาบไทยวากิวค่ะ โดยเนื้อชนิดนี้จะมีเฉพาะบุฟเฟ่ต์ Grill & Shabu 659 บาทเท่านั้นค่ะ
เนื้อตะพาบไทยวากิว
เนื้อหนอกไทยวากิว
เนื้อพับในวากิว
เนื้อพับนอกวากิว
เนื้อวัวอื่นๆ
นอกจากบรรดาเนื้อสไลซ์แล้ว ทางร้านก็ยังจัดเต็มเอาใจสายเนื้อกันอย่างเต็มที่ โดยจะมีทั้งเนื้อสด เอ็นแก้วเนื้อ เนื้อเปื่อย และตับเนื้อค่ะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นวัตถุดิบชนิดเดียวกันกับตัวก๋วยเตี๋ยวเลยค่ะ ถ้าหากใครมีโอกาสได้ทานก็ขอแนะนำให้ลองทานลูกชิ้นเนื้อที่ใช้เนื้อล้วน และเอ็นแก้วเนื้อของทางร้านเลยค่ะ
เนื้อสด เนื้อเปื่อย ตับเนื้อ และเอ็นแก้วเนื้อ
เนื้อหมู
เนื้อหมูสไลซ์
แต่ถ้าหากใครไม่ใช่สายเนื้อวัว ทางร้านก็ยังมีเนื้อหมูให้เลือกทานทั้งหมูสามชั้น สันคอหมู สันนอกหมู และเบคอน ซึ่งในส่วนนี้ทางร้านก็มีการคัดเลือกเนื้อหมูอย่างดีไม่แพ้เนื้อวัว โดยจะเลือกใช้เฉพาะเนื้อหมูเบทาโกรเท่านั้นค่ะ
หมูสันนอก เบคอน หมูสันคอ และหมูสามชั้น
เนื้อหมูอื่นๆ
เช่นเดียวกันเมนูเนื้อวัว ทางร้านก็ยังเอาใจสายหมูด้วยเมนูเนื้อหมูอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับการทานชาบูด้วย โดยจะมีทั้งหมูสด เอ็นแก้วหมู หมูตุ๋น และตับหมูค่ะ
หมูสด หมูตุ๋น ตับหมู และเอ็นแก้วหมู
เนื้อหมัก หมูหมัก และไก่หมัก
ถ้าหากยังไม่จุใจกับเนื้อสไลซ์ ร้านรสดีเด็ดก็ยังมีเนื้อสัตว์อื่นๆ เรียงรายเข้ามาให้เลือกทาน โดยจะมีทั้งหมักน้ำมันงา หมักพริกไทยดำ และหมักซอสหม่าล่า
เนื้อหมักซอสหม่าล่า เนื้อหมักน้ำมันงา และเนื้อหมักพริกไทยดำ
หมูหมักซอสหม่าล่า หมูหมักพริกไทยดำ และหมูหมักน้ำมันงา
ไก่หมักซอสหม่าล่า ไก่หมักพริกไทยดำ และไก่หมักน้ำมันงา
ลูกชิ้น
แต่ถ้าหากใครจะอยากทานบุฟเฟ่ต์ชาบูชาบูให้ได้ฟีลร้านก๋วยเตี๋ยวมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำลูกชิ้นของทางร้านเลยค่ะ จุดเด่นจะอยู่ตรงที่เลือกใช้เนื้อล้วนๆ ไม่มีแป้ง กรอบเด้งถูกใจคนชอบทานลูกชิ้น!
สำหรับลูกชิ้นของทางร้านจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ ลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเนื้อค่ะ
ลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเนื้อ
ซีฟู้ด
เต็มอิ่มกับเมนูเนื้อๆ กันไปแล้ว ขอเอาใจสายซีฟู้ดกันบ้างค่ะ พาร์ทนี้ทางร้านจะคัดเมนูซีฟู้ดเน้นๆ ยอดนิยมมาแล้ว 3 เมนู คือ กุ้งขาว ปลาหมึก และปลาแซลมอนค่ะ โดยในวันนี้ Ryoiireview ได้ลองทานปลาแซลมอนค่ะ
เส้นก๋วยเตี๋ยว
สำหรับใครที่ทานบุฟเฟ่ต์ชาบูชาบู ทางร้านจะมีเส้นก๋วยเตี๋ยวมาเป็นออฟชั่นเสริมให้เลือกทาน โดยจะมีทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ และเส้นบะหมี่ค่ะ
หรือถ้าใครไม่ใช่สายเส้น ทางร้านก็ยังมีข้าวเปล่า และข้าวกระเทียมให้เลือกทานเช่นกันค่ะ
ลูกค้าได้ปรุงก๋วยเตี๋ยวในแบบฉบับของตนเอง
น้ำจิ้ม
แต่ทีเด็ดของทางร้านไม่ได้มีแค่น้ำซุปนะคะ ทางร้านยังมีน้ำจิ้มสูตรเด็ดให้ทานถึง 3 แบบ คือ น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มปิ้งย่าง และน้ำส้มสูตรของทางร้านค่ะ วิธีการปรุงก็ง่ายๆ เพียงลูกค้าตักน้ำส้มผสมด้วยพริก น้ำปลา และน้ำตาลค่ะ
น้ำจิ้มปิ้งย่าง
น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำส้มสายชูสไตล์รสดีเด็ด
ของทานเล่น
ปิดท้ายไลน์บุฟเฟ่ต์กันไปด้วยเมนูของทานเล่นของทางร้าน ที่บอกเลยว่าจัดเต็มสุดๆ!! เพราะเขามีของทานเล่นมากกว่า 10 เมนู!! เช่น เกี๊ยวเนื้อโคขุนทอด เกี๊ยวหมูคุโรบูตะทอด เกี๊ยวซ่าหมู เปาะเปี๊ยะทอด เฟรนช์ฟรายส์ทอด หอมใหญ่ทอด กุ้งชุบแป้งทอด ปลาหมึกชุบแป้งทอด และไส้กรอกทอดค่ะ
ดริป ราคา 150 บาท
นอกจากไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว ทางร้านรสดีเด็ด Meat Warehouse แห่งนี้ก็ยังมี 'ดริป' เมนูแนะนำอีกหนึ่งเมนู โดยทางร้านได้นำคอนเซปต์การดริปกาแฟมาผสมผสานกับเมนูเนื้อของทางร้านค่ะ ในหนึ่งชามจะเสิร์ฟเนื้อสไลซ์และผัก พร้อมด้วยน้ำซุปร้อนๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ดริปน้ำซุปลงบนตัวเนื้อกันเองค่ะ เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดเลยค่า
น้ำซุปรสกลมกล่อมพร้อมด้วยเนื้อนุ่มๆ จานเด็ดของทางร้าน!
สรุปรสชาติอาหาร
ลูกมะพร้าวโคขุน : ทางร้านสไลซ์เนื้อมาค่อนข้างบาง แผ่นใหญ่ เนื้อชนิดนี้จะไม่มีมันแทรกค่ะ เน้นเป็นเนื้อแดงล้วนๆ เป็นเนื้อที่มีสัมผัสให้เคี้ยว แต่ไม่เหนียว ยังคงความนุ่มอยู่ค่ะ แนะนำให้ใช้เวลาย่างไม่ต้องนานมาก เพื่อให้เนื้อสุกพอดีค่ะ
ใบพายโคขุน : เนื้อชนิดนี้จะเป็นเนื้อที่มันแทรกค่อนข้างเยอะค่ะ ทานแล้วเนื้อมีความนุ่ม มีส่วนเอ็นแทรกทานแล้วจึงมีความกรุบๆ เล็กน้อยค่ะ โดยรวมแล้วเนื้อยังความนุ่ม
ริบอายโคขุน : เนื้อส่วนนี้จะมีมันแทรกเช่นเดียวกัน แต่จะไม่เยอะเท่าใบพายค่ะ แต่ทานแล้วเนื้อมีความนุ่มมาก ไม่เหนียวเลยค่ะ
เซอร์ลอยด์โคขุน : สำหรับเซอร์ลอยด์โคขุนของทางร้านจะสไลซ์มาบางๆ แต่แผ่นใหญ่ ตัวมันจะไม่ได้แทรกในชิ้น แต่จะอยู่บริเวณริมนอกของเนื้อ ทานแล้วไม่เหนียว มีความนุ่มดีค่ะ
โหนกโคขุน : พาร์ทนี้จะเป็นส่วนที่มีไขมันแทรกตลอดชิ้นเลยค่ะ ทานแล้วจะได้กลิ่นหอมเนื้อชัดเจน มีทั้งความนุ่มและเด้งของไขมัน
พับในโพนยางคำ : ส่วนพับในนี้จะเป็นส่วนที่มีมันแทรกสวยตลอดชิ้นค่ะ แต่ละชิ้นจะมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ ค่ะ เนื้อค่อนข้างนุ่ม มีกลิ่นหอมของเนื้อเช่นเดียวกันค่ะ
พับในไทยวากิว : เนื้อส่วนนี้จะมีมันแทรกเล็กน้อย แต่จะมีขนาดเล็กกว่าเนื้อพับในโพนยางคำค่ะ แต่ยังมีความนุ่มและกลิ่นหอมของเนื้ออยู่ค่ะ
เนื้อพับนอกไทยวากิว : สำหรับส่วนนี้จะมีทั้งไขมันแทรกและมีไขมันเป็นชั้นชัดเจนค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อไขมันเยอะๆ ทานแล้วต้องบอกว่าเนื้อมีความนุ่มและมีกลิ่นหอมของเนื้อมากกว่าส่วนอื่นๆ เลยค่ะ จึงค่อนข้างประทับใจส่วนนี้เป็นพิเศษค่ะ
เนื้อโหนกไทยวากิว : ในแต่ละชิ้นทางร้านสไลซ์มาค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ และจะมีมันแทรกเป็นส่วนๆ โดยเฉพาะบริเวณรอบนอกของเนื้อค่ะ ทานแล้วมีความนุ่ม ไม่เหนียวค่ะ
เนื้อตะพาบไทยวากิว : เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันแทรกเล็กๆ ค่ะ ควบคู่มากับส่วนเอ็นเนื้อนิดๆ ทานแล้วจะมีความนุ่ม ความเด้งของเอ็นเนื้อในแต่ละคำค่ะ
เนื้อสด : เนื้อสดของทางร้านจะหั่นมาเป็นชิ้นเล็กๆ เนื้อมีความนุ่ม หอมเนื้อดีค่ะ แต่อาจจะหั่นละเอียดไปนิด สำหรับบางคนที่อยากทานเนื้อแบบเต็มคำ่ะ
เนื้อหมัก : เนื้อหมักของทางร้านจะหั่นมาชิ้นเล็กๆ เช่นเดียวกับเนื้อสดค่ะ ส่วนตัวประทับใจเนื้อหมักงาเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งรสที่กลมกล่อม และหอมกลิ่นงาชัดเจนค่ะ
เอ็นเนื้อ : แต่ละชิ้นหั่นมาชิ้นพอดีคำ ทานแล้วจะมีสัมผัสนุ่มเด้งในคำเดียว ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจค่ะ
ตับเนื้อ : ตับเนื้อของทางร้านมีความนุ่ม ทานแล้วไม่มีกลิ่นคาว ไม่ออกรสขมเท่าไรค่ะ คนที่ไม่ทานเครื่องในก็สามารถทานได้ค่ะ
ลูกชิ้นเนื้อ : ลูกชิ้นมีกลิ่นหอมของเนื้อ และมีความเด้งกรอบดี
หมูสามชั้น : หมูสามชั้นของทางร้านจะเสิร์ฟเป็นทรงกลม แต่สไลซ์มาบางเช่นเดียวกับตัวเนื้อ มีชั้นไขมันควบคู่มากับเนื้อแดง ทานแล้วไม่เลี่ยน ใครที่ชอบทานหมูอยู่แล้ว เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูที่แนะนำให้สั่งค่ะ
สันคอหมู : แต่ละชิ้นสไลซ์บาง แผ่นค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ มีไขมันบ้างเล็กน้อย แต่ยังมีเนื้อแดงเยอะกว่า ทานแล้วมีความนุ่ม แต่แนะนำให้ทานแบบชาบูจะเข้ากับตัวเนื้อมากกว่าค่ะ
สันนอกหมู : ส่วนนี้จะเป็นส่วนเนื้อแดงล้วนทั้งชิ้นค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อไขมันเยอะๆ ถึงแม้จะไม่มีไขมันแต่ก็ยังคงความนุ่มอยู่บ้าง แนะนำให้ทานแบบชาบูจะเข้ากับตัวเนื้อมากกว่าค่ะ
เบคอน : เบคอนของทางร้านจะสไลซ์มาไม่หนาไม่บาง มีชั้นไขมันพอๆ กับเนื้อแดงค่ะ ทานแล้วจะออกรสเค็มนิดๆ สไตล์เบคอน แตกต่างจากหมูสามชั้นชัดเจนค่ะ
เอ็นหมู : เอ็นหมูของทางร้านมีทั้งความนุ่มความเด้ง ใครที่ไม่ทานเนื้อ แต่อยากลองส่วนเอ็นแก้ว แนะนำเลยค่า
ตับหมู : ตับของทางร้านหั่นมาชิ้นพอดีคำ ทานแล้วไม่มีกลิ่นคาวค่ะ มีความนุ่ม แต่ตับเนื้อจะนุ่มกว่านิดนึงค่ะ
ไก่หมัก : ไก่ทางร้านหั่นมาชิ้นค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ มีทั้งส่วนหนังไก่และเนื้อไก่ มีความนุ่ม ส่วนรสชาติหมักพริกไทยดำจะมีกลิ่นหอมของพริกไทยค่ะ จะออกเผ็ดร้อนนิดๆ คล้ายกับหม่าล่า แต่ตัวหม่าล่าจะยังไม่เข้มข้นเท่าไรค่ะ อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานรสเผ็ด ส่วนหมักงาจะมีความหอมงาเช่นเดียวกับเนื้อและหมูค่ะ
ปลาแซลมอน : ปลาชิ้นค่อนข้างใหญ่ เนื้อสด ไม่แตกร่วน ไม่มีกลิ่นคาวค่ะ แต่อาจจะมีก้างแทรกอยู่บ้างในบางชิ้น ทำให้ทานยากไปนิดค่ะ
เส้นก๋วยเตี๋ยว : ทางร้านมีให้เลือกทานทั้งหมด 4 เส้น ส่วนตัวประทับใจเส้นบะหมี่เป็นพิเศษ เพราะทางร้านจะเลือกใช้เป็นบะหมี่ไข่เส้นเล็ก ที่มีกลิ่นหอมไข่และมีความนุ่มค่ะ
เกี๊ยวหมูคุโรบูตะทอด : เกี๊ยวทอดของทางร้านทอดมาได้กรอบค่ะ ตั้งไว้นานก็ยังคงความกรอบไว้ได้ดีเลยค่ะ ส่วนไส้หมูจะมีปริมาณไม่เยอะมากเท่าไรค่ะ ตัวน้ำจิ้มจะออกหวานนำเผ็ดนิดๆ กำลังดีค่ะ
เฟรนช์ฟรายส์ทอด : เฟรนช์ฟรายส์ของทางร้านจะเป็นชิ้นใหญ่หนา ทานแล้วมีทั้งความนุ่มความกรอบค่ะ
ปลาหมึกชุบแป้งทอด : ปลาหมึกแต่ละชิ้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ พอดีคำ ไม่มีกลิ่นคาว เคลือบด้วยแป้งกรอบๆ ความหนาบางกำลังดี ไม่บางไม่หนาจนเกินไป ทานแล้วค่อนข้างประทับใจเมนูนี้เป็นพิเศษค่ะ
ดริป : เนื้อสไลซ์ของทางร้านสไลซ์มาบางกำลังดี แต่จะหนากว่าตัวเนื้อในบุฟเฟ่ต์นะคะ เนื้อมีความนุ่มมาก น้ำซุปมีรสชาติกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมสมุนไพรค่ะ เป็นหนึ่งในเมนูที่แนะนำให้สั่งเลยค่ะ
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.10 |
บรรยากาศ |
4.05 |
ความคุ้มค่า |
4.05 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.0667 |
จุดเด่นของร้าน รสดีเด็ด Meat Warehouse
1. บุฟเฟ่ต์ของทางร้านมีให้เลือกทานทั้งปิ้งย่าง ชาบู และสามารถทานได้ทั้ง 2 แบบ โดยราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท
2. เมนูในส่วนของบุฟเฟ่ต์จะเน้นเมนูเนื้อวัวเป็นหลัก ทั้งเนื้อวัวโคขุน เนื้อวัวโพนยางคำ และเนื้อวัวไทยวากิว คนที่ชอบทานเนื้อน่าจะประทับใจเป็นพิเศษค่ะ
3. ทางร้านใช้เนื้อวัวคุณภาพดีจากฟาร์มไทยโดยเฉพาะ เนื้อของทางร้านจึงมีกลิ่นหอมของเนื้อชัดเจน มีความนุ่มและสัมผัสแตกต่างกันออกในแต่ละส่วนค่ะ อีกทั้งในส่วนเนื้อหมัก ก็หมักออกมาได้รสชาติดี โดยเฉพาะเนื้อหมักน้ำมันงา ที่มีทั้งความนุ่มและกลิ่นหอมของงา ทำให้ค่อนข้างประทับใจเป็นพิเศษค่ะ
4. น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวมีให้เลือกทั้งน้ำซุปหมูและน้ำซุปเนื้อ โดยจะแยกหม้อกันอย่างชัดเจน เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการทานแบบไหนเป็นพิเศษค่ะ
5. เมนูในส่วน A La Carte มีให้เลือกทานหลากหลายเช่นเดียวกัน โดยจะเน้นเป็นอาหารจานเดียวทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวกะเพรา ข้าวหน้าไก่ หม้อไฟ และของทานเล่นค่ะ
6. ทางร้านที่มีจอดรถสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา โดยสามารถจอดได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
7. บุฟเฟ่ต์ทุกราคาเป็นราคาที่ NET แล้ว ไม่มีบวกเพิ่ม และยังรวมทั้งเครื่องดื่มและของหวานเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ
1. สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ ที่ตั้งร้านอาจจะเดินไปทางยากนิดนึง เพราะร้านตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่พรานก-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งห่างจากสถานี MRT (สถานีแยกไฟฉาย) ประมาณ 9 กม. และไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่านค่ะ
2. ไลน์บุฟเฟ่ต์ในส่วนของอาหารทะเล อาจจะยังไม่ได้มีตัวเลือกเยอะเท่าไร โดยปกติจะมีปลาหมึก กุ้ง และปลาแซลมอน ซึ่งในวันที่ทีมงานไปมีเพียงแซลมอนเท่านั้นค่ะ
ใครที่เป็นสายเนื้อตัวจริง และกำลังมองหาร้านเนื้อเด็ดๆ แบบไม่ควรพลาดอยู่ ขอแนะนำร้านรสดีเด็ด Meat Warehouse ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในตำนานแห่งนี้เลยค่ะ ถึงแม้จะไม่ใช่สายเส้น แต่ทางร้านก็ยังมีบุฟเฟ่ต์ชาบูและปิ้งย่างให้เลือกทาน แถมยังพร้อมเสิร์ฟทั้งเนื้อไทยคุณภาพดี น้ำซุปรสชาติต้นตำรับที่คงความอร่อยมากกว่า 50 ปี!! และไลน์อาหารหลายสิบอย่างในราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท ครบเครื่องในราคาสุดคุ้มค่าขนาดนี้แล้ว ต้องรีบไปตามทานกันให้ไว!