[รีวิว] MK live Emquartier เอาใจคนรักสายคลีนและเนื้อด้วยผักออร์แกนิคจากโครงการหลวง พร้อมเซ็ต หมูคุโรบูตะ และเนื้อวากิว ในคอปเซ็ปต์ใหม่นึ่งและต้ม กับน้ำซุปหลากหลาย น้ำจิ้มรสเด็ด

ว้าวววว! สายคลีนสายรักสุขภาพมีเฮ้แน่นอนคร้า เพราะทีมงาน RyoiiReview ได้มีโอกาสไปลอง MK live  Emquartier  สาขาใหม่ที่เปิดที่ Emquartier ชั้น 6 เป็นสาขาที่ต่างจากสาขาอื่นทั่วไปนะจ๊ะ เพราะสาขานี้จัดเต็มเอาใจคนรักสายคลีกและผักที่ปลอดสารในแบบ ออร์แกนิค แถมสาขานี้มาในรูปแบบ นึ่ง ใช่แล้วคร้า นึ่งทั้งผักและเนื้อหมูและวากิวเลย แต่วันนี้เราขอรีวิว เนื้อหมูคุโรบูตะก่อนเลย ขอบอกเลยว่าร้านสวยมากเหมือนแดนเนรมิตให้เป็นฟาร์มผักนาจา สุดยอดดด <3

 การเดินทางตามหาร้านอร่อย

    การเดินทางของฉันและเธอคือการกิน MK live นาจา อิอิ เริ่มต้นการเดินทางด้วย BTS ให้นั่งมาลงที่สถานี พร้อมพงษ์ จากนั้นก็เดินสัก สองสามก้าวก็ถึงแล้วจ้า เพราะสถานีพร้อมพงษ์ อยู่ตรงหน้าห้าง Emquartier เลย งานนี้บอกเลยว่าสบายๆ จากนั้นก็เดินไปชั้น 6 ก็จะเห็นร้านที่มีป้าย MK live แต่เป็นป้ายเขียวๆซึ่งหาได้ไม่ยากเลย ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากคร้าาาาาาาา

 

เดินมาถึงหน้าร้านเจอพนักงานยืนต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมากกกก

บรรยากาศภายในร้าน

    บรรยากาศภายในร้าน MK live ตกแต่งด้วยโทนสีออกสว่างๆให้ความอบอุ่น สะอาดและสบายตาสุดๆ ซึ่งภายในร้านนั้นจะเน้นสีเขียวตัดกับน้ำตาลอ่อนๆ ทางเดินเข้ามาข้างล่างตรงทางเดินจะเป็นกระจกที่สามารถมองเห็นผักสีเขียวๆได้ ข้างๆผนังกำแพงก็จะมีผักประดับอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฟาร์มผักจริงๆ อีกทั้งถ้าสังเกตกันดีดีจะมีท่อสามขนาดอยู่ตรงกลางคล้ายๆจะเป็นน้ำแต่ความจริงแล้วนั้นคือ น้ำจิ้มที่ไหลลงมา แต่ทางร้านบอกว่าไม่ได้เอาน้ำจิ้มมาให้ได้กินกัน 555 เหมือนประดับตกแต่งเฉยๆ อิอิ และเราสามารถมองเห็นครัวได้อีกด้วยซึ่งครัวก็จะอยู่ตรงข้างหน้า 

เดินเข้ามาเหมือนอยู่ในฟาร์มผักอย่างไงอย่างนั้นเลย 55555

ข้างๆนี้มีสวนผักด้วย กินได้ไหมคร้าาาา

โอ้โห้ ข้างล่างพื้นเป็นกระจกแถมมีสวนผักอีก นี่พยายามเดินเบาเบานะกลัวกระจกแตก ฮ่าฮ่า

เราสามารถมองเห็นพ่อครัวสุดหล่อทำอาหารด้วยละ 

ร้านตกแต่งด้วยโทนสีเขียวววววววเน้นเหมือนผัก

เดินมาเรื่อยๆเลยจ้าาา

 เมนู ราคา

  เมนูของทางร้านนั้นมีหลากหลายมากกกกก เมนูของ MK live นั้นจะมีเมนูที่สาขาทั่วไปไม่มีอยู่หลายอย่างเหมือนกัน อย่างเช่น ผักออร์แกนิคปลอดภัยไร้สารนั้นผักมาจากโครงการหลวงเชียวนาจา สายผักสายคลีนห้ามพลาดเชียว 

เมนูน้ำซุป น้ำจิ้มรสเด็ด และ ชุดเนื้อวากิวและชุดหมูนึ่ง  สุกี้นึ่งจะมี3แบบมี คุโรบูตะ(550฿) ชุดเนื้อออสเตเรีย(650฿) เนื้อวากิว(1100฿) ชุดผักรวมสุกี้นึ่ง(275฿) แต่ทุกชุดจะมีผักมาให้อยู่แล้วคร้าาาา

 

เมนูของคนรักสายคลีน เน้นผักนาจาาาา

    แต่ละหน้าเนี้ยบอกเลยว่าต่างจากสาขาอื่นนะจ๊ะ อย่าง ลูกชิ้นปูปั้นสด ที่ปั้นกันสดๆในแต่ละวันให้เราได้ลองกันซึ่งจะต่างจากที่อื่นตรงที่ว่าที่นี่ปั้นเองแต่ที่อื่นรับมาจากอีกที่หนึ่ง  กุ้งเอ็มเคปั้นสด เกี๊ยวหมูถุงทอง เกี๊ยวหยกปูเป็นปู กุ้งทรงเครื่องเอบิโกะ ลูกชิ้นปลาหมึก กุ้งอมยิ้ม ไข่ออร์แกนิค ปลากะพงที่มาเป็นตัวๆ(ต้องร้องว้าวววว) หางกุ้งล๊อปสเตอร์แคนาดา เนื้อวากิวเกรดA4 นะแม่คุณณณณณ กริ๊ดสิคร้ารออะไร อิอิ

เมนูลูกชิ้นกุ้ง ปู ปั้นสดๆจ้าาาา

หอยแมลงภู่ก็มีนาจาาาาาา

ว้าวววว ปลาตัวใหญ่ๆกับหางกุ้งล๊อปสเตอร์แคนาดา 

เมนูเนื้อวากิวสุดพรีเมี่ยม ระดับA4 หื้ออออน้ำลายไหลลล

เมนูสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น ทั้งเนื้อวากิวและเนื้อหมู

เป็ดก๊าบๆ เป็ดอาบน้ำในคลองงงง เอ้าไม่ใช่นี้มันเป็ดเอ็มเคนี่นร้า

บะหมี่เป็ดก็มี ข้าวหน้าเป็ดก็มา

เมนูของทานเล่นก็มีนร้าาา ซาลาเปาของที่นี่ปั้นเองกับมือเลยยย

เมนูของทอดก็มี อิอิ

เมนูแรกที่เราเลือกสั่งเป็นเนื้อหมูคุโรบูตะแบบนึ่งพร้อมผักออร์แกนิค15ชนิดมาในราคา 550฿

เตาไว้ใช้สำหรับนึ่ง ตรงกลางจะมีควันลอยออกมา 

มาแล้วๆ มาเป็นกล่องไม้เลยคร้าาาาา

สำหรับชุดเนื้อหมูคุโรบูตะแบบนึ่ง

ชุดเนื้อหมูคุโรบูตะ หื้อเห็นมันไหมคร้า มันที่แทรกๆตามเนื้อหมู มันช่างยั่วน้ำลายจริงๆ

   

ชุดผักนึ่ง 15 อย่างจ้าาาาา คนรักสายคลีน

  

ในช่วงของการนึ่งนั้นพนักงานจะมีนาฬิกาจับเวลามาให้ ซึ่งจะใช้เวลาในการนึ่ง 7 นาทีในการนึ่ง

ครบเวลาแล้ววว นาฬิกาก็จะดังเพื่อเตือนว่าครบเวลาแล้ว พนักงานก็จะมาเปิดออกมาให้กลิ่นหอมแตะจมูกสุดๆ

    ส่วนตัวแล้วคิดว่า ใช้เวลาในการนึ่งอาจจะนานไปหน่อยเพราะการนึ่งนั้นจะมาเป็นแบบกล่องไม้ที่จะวางบนเตาที่มีไอร้อนระเหยออกมา ใช้เวลา 7 นาทีในการนึ่งจะมีนาฬิกาในการจับเวลาด้วย พอครบ 7 นาทีทางพนักงานก็จะมาเปิด ซึ่งเนื้อหมูคุโรบูตะแห้งไปหน่อย ทำให้เนื้อหมูรู้สึกหยาบๆนิดๆ มี 2 แบบคือแบบหนึ่งจะเป็นเนื้ออีกแบบจะติดมัน ซึ่งเนื้อตรงที่ติดมันเนี้ยรู้สึกถึงมันหนึบๆกรุบๆที่แทรกตามเนื้อกัดแต่ละคำฟินสุดอะไรสุด  หุหุ

เห็นหมูไหมคร้าาาา อิอิ

ค่อยครีบเนื้อหมูคุโรบูตะออกมา

ค่อยๆจุ่มเนื้อหมูกับน้ำจิ้มงาญี่ปุ่น

ส่วนผักนึ่งเนื้อผักสดและหวานมาก ซึ่งการนึ่งแบบนี้จะให้รสชาตินุ่มลิ้นคงความสดและคุณประโยชน์มากกว่าต้มของผักมากกว่าต้ม บอกเลยว่าเมนูผักเนี้ยสายคลีนต้องรักต้องฟินกันแน่นอน และที่เริ่ดไปกว่านั้นคือมีแค่สาขา MK live เท่านั้นนะที่เป็นแบบนึ่ง โอ้โห้อะไรมันจะดีขนาดนี้

ชุดผักนึ่งงงงง น่ากินมากกก

ฟักทองสีเหลืองน่ากินสุดดดด

สุกี้แบบต้ม

    สำหรับชุดเนี้ยจะต้องเลือกน้ำซุป น้ำซุปที่นี่จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 รสชาติ ทั้งซุปต้นตำรับ ซุปน้ำดำ(แอบบอกนิดหนึ่งว่ามีแค่สาขานี้สาขาเดียวนะ) ซุปต้มยำมันกุ้ง ซุปเต้าเจี๊ยว ซุปมิโสะเข้มข้น แต่เราได้เลือกน้ำซุปมาด้วยกัน 2 แบบซึ่งหม้อเนี้ยสามารถเลือกน้ำซุปได้ว่าจะเอาซุปเดียวหรือจะเอาสองซุปหลายใจนิดหน่อย 555 เราเลือกเลือกซุปน้ำดำกับซุปต้มยำมันกุ้งมา อิอิ 

น้ำซุปสองใจ ฮ่าฮ่า ซุปน้ำดำและซุปต้มยำมันกุ้งงง

รสชาติน้ำซุป

น้ำซุปที่ได้เลือกไปนั้นมี 2 รสชาติด้วยกัน คือ น้ำซุปดำและน้ำซุปต้มยำมันกุ้ง หรือถ้าอยากกินรสเดียวก็มีให้นะ

-น้ำซุปดำ น้ำซุปดำนั้นจะมี เฉพาะแค่สาขา Emquartier เท่านั้น รสชาติจะค่อนข้างไปทางออกหวานมากกว่าร้านทั่วไปอยู่นิดหน่อย เพราะร้านทั่วไปยังมีหวานปนเค็ม แต่ก็ไม่ได้หวานติดลิ้นแบบน้ำตาลเคลือบและยังรู้สึกเหมือนยังไม่กลมกล่อมเท่าที่คิด 

-น้ำซุปต้มยำมันกุ้ง อันนี้บอกเลยว่าเด็ดชอบมาก รสชาติออกต้มยำ เปรี้ยวๆเผ็ดๆ ปนกันทำให้รสชาตินี้กลมกล่อมเข้มข้นจัดจ้าน ถ้าใครที่ชอบหรืออยากลองน้ำซุปใหม่ๆก็ลองมาทานกันดูนะคะ ต้มยำมันกุ้งถือว่าเป็นอีกซุปหนึ่งที่น่าจะลองทานกันดู

เมนูอาหารคาว

เราได้สั่งไปหลายอย่างมากคร้าบอกเลยว่าหน้ามืดท้องร้องหนักเลยสั่งมาหลายอย่าง เมนูแรกที่มาจอดเสิร์ฟถึงที่คือ

ลูกชิ้นกุ้งปั้นสด เมนูนี้มาเป็นหลุมที่ใส่ลูกชิ้นกุ้งมาด้วยกันทั้งหมด 6 รูปข้างบนจะมีไข่แซลมอลสีส้มๆเล็กๆวางไว้อยู่อย่างพรีเมี่ยม

ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ กัดคำแรกรู้สึกว่าข้างในจะเป็นตัวกุ้งที่เน้นๆกรุบกรอบ เด้งๆ ในปากฟินมากคร้า ด้านนอกเหมือนจะเป็นกุ้งบดห่ออีกทีหนึ่งมีความหอมงา เพราะนวดด้วยน้ำมันงาทำให้เวลาทานรู้สึกถึงความหอมของงา

ลูกชิ้นของฉันท่าทางน่าอร่อยยยยย 

 

กุ้งทรงเครื่องเอบิโกะ มาในรูปแบบกุ้งที่บดเป็นแผ่นๆตรงกลางเป็นไข่กุ้ง

ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ เป็นเนื้อกุ้งบดหยาบๆที่คล้ายกับลูกชิ้นกุ้งปั้นสด หอมงาน้อยกว่าตัวแรก เคี้ยวแล้วรับรู้สึกถึงกุ้งที่เด้งไปเด้งมาในปาก  เนื้อเด้งดึ่งกำลังดี เคี้ยวเพลินดีมากกกกกกกกกกกก 

 

ค่อยๆเขี่ยลงน้ำซุปต้มยำ แซ่บแน่

 

เกี๊ยวหยกปูเป็นปู มาในรูปแบบสีเขียวเหมือนหยก ขนาดกำลังพอดี ข้างในบดด้วยเนื้อปูที่ผสมกันมา

ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ รู้สึกว่ารสชาติออกจะเค็มไปนิดหนึ่งสำหรับตัวไส้เกี๊ยว ไม่ค่อยมีกลิ่นปูเท่าไหร่ ดูแล้วเนื้อปูมีอยู่นิดหน่อยเอง แต่แป้งเหนียวหนานุ่มไม่บางเหมือนแป้งทั่วไปเคี้ยวแล้วเพลินดีค่ะ 5555 

 

เกี๊ยวหยกกกก ปูเห็นปู เฮ้ย!ปูเป็นปู

เห็นเนื้อปูกันไหมมมมม 5555

 

กุ้งอมยิ้ม ลักษณะเป็นกุ้งที่เสียบไม้ยาวๆ 3 ไม้ กุ้งตัวใหญ่พอใช้ได้เลย

ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ ลักษณะเป็นกุ้ง2ตัวเสียบไม้หันหน้าชนกันคล้ายๆอมยิ้ม จานนี้ได้มา 3 ไม้ กุ้งแบบกรุบกรอบพอใช้อร่อยขนาดกำลังพอดี แต่อาจจะไม่เข้ากับน้ำซุปต้มยำมันกุ้งเท่าไหร่ เพราะทานคู่กันแล้วรู้สึกทำไมเค็ม 55555 ถ้าทานกับน้ำซุปอย่างอื่นอาจจะเข้ากันได้ดี

ยิ้มมมหน่อยสิกุ้ง อิอิ

หมูหมักนุ่มตอกไข่ เมนูนี้เป็นหมูหมักนุ่ม มีไข่ดิบตอกตรงกลาง

 ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ หมูหมักนุ่มละมุนลิ้นมากนิ่มสุดอะไรสุดได้กลิ่นหอมๆของไข่ เวลากินต้องคลุกไข่ให้เข้ากัน ความอร่อยกลมกล่อมของหมูนุ่มเนี้ยบอกเลยว่าคนรักหมูฟินจนว้าววววแน่นอน

 

หมูนุ่มตอกไข่

คนให้เข้ากัน จะได้นุ่มๆหอมๆ

 เนื้อหมูคุโรบูตะชาบูชาบู ที่สั่งมานั้นเป็นเมนูที่ต้องสั่งเพราะเป็นเนื้อหมูไง 5555 มาในรูปแบบของการวางที่สวยงามคล้ายๆเป็นภูเขาไฟเล็กๆที่ตรงกลางเป็นเส้นอุด้ง

ความรู้สึกส่วนตัวเมนูนี้คือ หมูคุโรบูตะสไลด์มาบางเฉียบทำให้เวลาไปจุ่มกับน้ำซุปสองสามทียกเข้าปากเคี้ยวเพลิน (แต่บางจนคีบยากไปหน่อย ขาดไปตั้งหลายที555) แต่พอนำหมูไปลวกและขึ้นมาทานนั้นคำแรกที่รู้สึกคือ หมูนุ่มมากกกกก ความที่สไลด์มาบางทำให้เนื้อสุกและไม่แข็ง อร่อยกลมกล่อมเหมือนมีน้ำของน้ำซุปที่เข้ากับเนื้อหมูคุโรบูตะอยู่ข้างใน รสชาติดี (ถ้าจะให้ฟินเวอร์ต้องทานคู่กับน้ำซุปดำและน้ำจิ้มงาญี่ปุ่น เพื่อให้ฟินกันสุดๆ) 

 

ค่อยๆครีบบบบบบบ หื้อออ

ค่อยๆจุ่มกับน้ำซุป อิอิ

น้ำจิ้ม มีให้ได้ลองทานกันถึง 4 รสชาติด้วยกันแต่ละรสชาติก็จะแตกต่างกันออกไป

น้ำจิ้มเอ็มเคสูตรต้นตำรับ

รสชาติอร่อยตามสูตรต้นตำรับของน้ำจิ้มเอ็มเคที่ทุกคนเลื่องชื่อ หอมงาขาว เผ็ดนิดๆเค็มหน่อยๆ

น้ำจิ้มโบราณ

สีจะคล้ายๆน้ำจิ้มเอ็มเค แต่ไม่มีงา ทีแรกลองเอาตะเกียบแตะชิมดูรู้สึกว่ารสชาติค่อนข้างเค็มโดด ยิ่งทานคู่กับอาหารที่ต้มในน้ำซุปต้มยำมันกุ้งมันรู้สึกทำให้เพิ่มความเค็มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะน้ำซุปและน้ำจิ้มของทั้งสองแบบนี้ออกเค็มอยู่แล้วจึงทำให้กินเข้าคุ่กันเลยทำให้รู้สึกเค็ม เพื่อนๆที่มาอาจจะลองเลี่ยงกินด้วยกันของน้ำซุปน้ำจิ้มคู่นี้นะค่ะ 

น้ำจิ้มงาญี่ปุ่นและน้ำจิ้มพอนสึ

น้ำจิ้มงาญี่ปุ่น

ส่วนตัวคิดว่า น้ำจิ้มจะทานเข้ากับเนื้อ (ทางร้านแนะนำมา) รสชาติออกงาสีออกส้มอ่อนๆ รสชาติเข้มข้มกำลังดีกลิ่นหอมงาสุด เหมาะกับคนไม่ชอบกินเผ็ด เพราะอันนี้น่าจะเหมาะกับคนชอบกินรสชาติที่ไม่จัดจ้านเกินไป

น้ำจิ้มพอนสึ

ส่วนตัวคิดว่า รสชาติออกเค็มๆนิดหน่อยไม่เยอะมากเหมือนโชยุ แต่กลมกล่อมอร่อย และยิ่งใส่ไชเท้าบดและผักวึ่งจะออกสีส้มอ่อนๆไม่เหมือนร้านทั่วไปออกเผ็ดนิดหน่อยใช้ทานคู่กับผัก ทำให้รสชาติน้ำจิ้มอันนี้จัดได้ว่าอร่อย จึงคิดว่าอันนี้น่าจะทานกับเนื้อและเมนูอื่นได้อร่อยและเข้ากันได้ดี ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มรสนี้

น้ำจิ้มพอนสึ อร่อยเด็ดดดดด

อาหารทานเล่น

มาถึงของทอดของทานเล่นกัน ซึ่งเราได้สั่งกันไป 4 อย่างด้วยกัน มี เป็ดเอ็มเค หมี่หยกผัก ขนมปังหน้ากุ้ง เผือกทอดหอยเซลล์

เป็ดเอ็มเค

รสชาติยังคงเป็นเป็ดเอ็มเคที่อร่อยเหมือนเดิมคร้า อย่างไงก็ยังคงความอร่อยไม่ไปไหน จัดมาในภาชนะสวยหรูราคาแพงยิ่งทำให้รู้สึกอร่อยมากขึ้น 55555555

เป็ดก๊าบๆเป็ดเอ็มเคสุดอร่อยยยย

ราดน้ำเป็ดได้เต็มที่ สะใจไปเลยคร้าาาาา

หมี่หยกผัก

ความรู้สึกส่วนตัว อันนี้มาในรูปแบบหมี่หยกเขียวๆเหมือนสีของผักแต่ไม่เขียวเกินไป เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี หอมกระเทียมเจียวทานคู่กับเป็ดจะเด็ดมากกกกกกกกกก

หมี่หยกผัก สายคลีนชอบแน่นอนนนนน

ขนมปังหน้า กุ้ง   

เป็นขนมปังที่ห่อด้วยกุ้งแล้วนำไปทอด กลิ่นหอมของกุ้งกินแล้วรู้สึกกุ้งเต็มๆด้วยความกรอบและเนื้อหนึบๆของกุ้งและขนมปังทำให้เป็นรสชาติที่กลมกล่อมเข้ากันได้ดี

ขนมปังที่สอดไส้ด้วยกุ้งตัวใหญ่ๆ กรอบๆ

เผือกทอดหอยเซลล์

 เมนูนี้รู้สึกรสชาติค่อนข้างที่ไปในทางเดียวกัน ยังไม่ค่อนรู้รสชาติของหอยเซลล์โดดไปกว่าใคร เผือกมีความกรุบกรอบรสชาติเค็มๆเหมือนเผือกแต่มันเยอะไปหน่อย เมนูนี้เลยเป็นเมนูที่ไม่ได้เด่นอะไรเท่าไหร่

เผือกทอดกรอบหอยเซลล์ กรุบๆหนึบๆ

ของหวานเติมพลัง

มาถึงของหวาน เมื่อกินของคาวเสร็จของหวานก็เรียงตัวกันเข้ามาเลยคร้า ของหวานที่ได้สั่งเป็นไอศกรีม  2 อย่างด้วย  ที่นี่นั้นได้เลือกใช้วัตถุดิบและรสชาติจากธรรมชาติเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากและอร่อยเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดเลยนาจา แต่ละเมนูนั้นก็คิดค้นมาให้ได้ลองทานกัน

-ไอศกรีมพาร์เฟต์มะม่วง

เป็นไอศกรีมรสนม ซึ่งไม่ใช่นมที่ใส่ขวดทั่วไปเหมือนเป็นนมสดๆ สำหรับเมนูนี้ส่วนตัวหวานๆกลมกล่อมกำลังดีเลย ส่วนมะม่วงที่มาด้วยกันเป็นเยลลี่มะม่วงไม่ใช่มะม่วงจริงๆเลยแอบผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็หนึบๆ เคี้ยวเพลิน ได้กลิ่นมะม่วงพอใช้ ส่วนข้างล่างเป็นข้าวเหนียวมะม่วงที่ราดซอสด้วยมะม่วงสีเหลืองๆ รสชาติออกเปรี้ยวหวาน 

ของคาวเสร็จแล้วของหวานต้องมาาาาาา

-ไอศกรีมรวมมิตร

เป็นไอศกรีมกะทิใส่ในลูกมะพร้าวเล็กๆและข้างๆก็จะมีที่ใส่เครื่อง 6 ถ้วนเล็กให้ได้ใส่ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะข้าวโพด ถั่วแดง เม็ดถั่ว ลูกเกด และอีกหลากหลาย รสชาติออกเป็นไอศรีมกระทิ ถือว่าเป็นเมนูที่จัดได้ว่าน่ารักด้วยการใส่เครื่องอะไรก็ได้ตามใจชอบ ในส่วนของรสชาติไอศกรีมหอมกลมกล่อมมีกลิ่นกะทิเข้ากับเครื่องเป็นรสชาติที่คุ้นเคยกันดีค่ะ

มาแล้ววววววว จัดเต็มทุกถ้วยจ้าาา

ค่อยๆตัก ค่อยๆใส่ อิอิ จัดเต็มทุกถ้วย

เครื่องดื่มเด็ดๆ

      เครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย เก๋ไก๋สุดๆ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นสายรักสุขภาพ ด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มากมาย  เครื่องดื่มก็จะเป็นทั้ง บูสเตอร์ ดีท็อก ลีน บาลานซ์ แต่ก็จะผสมผลไม้หลากหลายอยู่ในเครื่องดื่มนั้น เมนูเครื่องดื่มนั้นทาง MK live ได้คิดค้นเครื่องดื่มสุขภาพที่ใช้วัตถุดิบอย่างดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อยและเป็นเมนูเฉพาะที่หาทานที่อื่นไม่ได้นะ ซึ่งนอกจากจะมีน้ำผลไม้แล้วยังมีพวก กาแฟ ชา น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง ชาเย็นเสาวรส ชามะนาวเอ็มเคไลฟ์ ซึ่งน้ำที่มานั้นก็จะบรรจุอยู่ในขวดแก้วและมีแก้วแยกมาให้ ต้องบอกเลยว่าแปลกไม่เหมือนใครจริงๆ

น้ำดีท็อก รสออกฝรั่งเปรี้ยวๆ กลิ่นฝรั่งชัดมากกก

น้ำลีน ผสมด้วยแตงโม กีวี และองุ่น 

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.00
บรรยากาศ	4.80
การบริการ	4.00
ความคุ้มค่า	4.00
คะแนนเฉลี่ย	4.20

 

จุดเด่นของร้าน MK live Emquartier

1.MK live Emquartier อร่อย มีความแปลกใหม่ที่น่าลอง เช่นสุกี้แบบนึ่ง ซึ่งเป็นเมนูที่เอาใจสายคลีนรักสุขภาพอย่างแท้จริง และสุกี้แบบดั้งเดิมที่มีน้ำซุปหลากหลายรสชาติมากกว่าสาขาอื่น น้ำจิ้มที่มีให้ได้ลองทานหลายอย่างและคุณภาพสมกับราคา

2.เมนูอาหารของสาขานี้เป็นแบบออร์แกนิคและปลอดเชื้อ ซึ่งปลอดภัยไร้สารและอีกทั้งยังเป็นผักที่มาจากโครงการหลวงอีกด้วย

3.เมนูอาหารคาวมีให้เลือกหลายอย่าง และส่วนใหญ่ทางร้านใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม เช่น หมูคุโรบูตะ เนื้อออสเตเรีย และเนื้อวากิวA4 ซึ่งหาได้ยากในร้านทั่วไป

4.เมนูของหวาน เมนูมีให้เลือกเยอะกว่าที่สาขาอื่น มีการใช้วัตุดิบที่มาจากธรรมชาติ เช่นไอศกรีมที่ทำมาจากนมแท้ๆ

5.เมนูเครื่องดื่ม มีให้เลือกเยอะและยังหาทานจากที่อื่นไม่ได้ มีแค่เฉพาะที่นี่เท่านั้น เช่น น้ำดีท็อก

6.การตกแต่งร้านถือว่าเป็น MK live ที่มีการตกแต่งเน้นผักสีเขียว ทำให้ร้านตกแต่งสวยกว่าสาขาอื่นมาก และดีไซน์ที่เก๋ด้วยการทำให้น้ำจิ้มไหลไปตามท่อ และบนพื้นที่เป็นกระจกทำให้เห็นสวนผักตามทางเดินข้างหน้า

หมูนุ่มๆไหมคร้าาาาา <3

 ข้อเสนอแนะ

1.อยากจะให้ทางร้านลดเวลาในการนึ่งให้น้อยกว่านี้อีกนิดหนึ่ง เพราะเวลา 7 นาทีรู้สึกว่าเนื้อหมูค่อนข้างเเข็งไปเล็กน้อย ทำให้เสียอรรถรสในการทาน

2.ราคาอาหารใน MK live อาจจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับ MK สาขาอื่นๆทั่วไป เพราะมีการจัดเตรียมวัตถุดิบที่คุณภาพสูง อาจจะส่งผลให้ราคาสูงตามไปด้วย

ทาง ryoiireview ขอสรุปว่า MK live เป็นร้านอาหารที่น่าลิ้มลอง สายคลีนสายไม่คลีนก็สามารถไปทานกันได้นะ อิอิ เป็นไงกันบ้างคร้ากับการรีวิว MK live Emquartier ที่มาในรูปแบบสายคลีน ผัก และก็ผัก ที่แปลกไม่เหมือนใครสายรักสุขภาพต้องห้ามพลาด ผักสดๆจากโครงการหลวงที่ปลอดภัยไร้สารเคมี เนื้อหมูและเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมที่ต้องร้อง ว้าววววว!! กันแน่ ด้วยความสดและใหม่ที่ต้องมาลองทานกันดู ความแปลกใหม่ของ MK ในแบบนึ่งทั้งหมูนึ่งทั้งผัก โอ้โห้บอกเลยว่ามันช่างเริ่ดดดดม๊ากกกกก