[รีวิว] ร้านโฮลี่ ชีส (Holy Cheese) กริลล์ชีสแซนด์วิช ชีสทะลักหนักทุกไส้สไตล์อเมริกัน @ตลาดนัดรถไฟ รัชดา

          สวัสดีครับชาว RyoiiReview วันนี้ขอมารีวิวกันในธีมชีสที่เรียกว่า “Grilled Cheese Sandwich” เป็นแซนด์วิชชีสย่าง ซึ่งเป็นอาหารแนวผสมผสานสไตล์อเมริกันแนวใหม่ ที่ทำกันสดใหม่ตามออร์เดอร์ลูกค้า โดยการนำ “ชีสมอสซาเรลล่า” และ “ชีสเชดด้า” แบบเต็มแผ่นไปย่างให้ละลาย ก่อนจะนำไปวางกับไส้ต่างๆ ที่ผ่านการผัดตามสูตรของทางร้าน และไปอบรวมกับ ขนมปัง Ciabatta สไตล์อิตาลี จนได้ "แซนด์วิชชีสย่าง" หลากไส้ หลากสไตล์จาก Holy Cheese @ตลาดนัดรถไฟ รัชดา แต่ละเมนูของทางร้านเตรียมมาเพื่อคนชอบทานชีส ให้ได้ขยับความอร่อยให้หลากหลายจึงมีไส้ให้ได้เลือกมากมายทั้ง เนื้อโคขุน, เบคอน, ชีสล้วน, หมูตุ๋น, เห็ดออรินจิ ในสไตล์อเมริกันโฮมเมด
          อาหารที่นี่เรียกกันสั้นๆ ว่า “Grilled Cheese” เมนูส่วนใหญ่จะมีชีสอย่างน้อย 2 อย่าง คือ “ชีสมอสซาเรลล่า” และ “ชีสเชดด้า” เพื่อการผสมผสานรสชาติของชีสให้ลงตัวกับเมนูหลักซึ่งจะมี SON OF THE BEEF, BACON & CHEESE, WHOLLY CHEESE, OH, MY PORK, MARIO-JI โดยใช้ขนมปัง เป็นขนมปัง Handmade ส่วน CHEESE 9 inches จะเป็นชีสพัฟทอด มาพร้อม Hotcha Sauce ที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของ “Grilled Cheese” ทุกเมนู

 

เมนู และราคา
          เมนูทางร้านจะมีให้เลือกหลายแบบตามสไตล์ของตัวเองอย่าง SON OF THE BEEF (165 ฿) ออกแบบเพื่อคนชอบทานเนื้อโคขุนอบสไลด์, BACON & CHEESE (160 ฿) เหมาะสำหรับคนรักเบคอน และชีสโดยเฉพาะ, WHOLLY CHEESE (140 ฿) มีชีส 3 ชนิด เหมาะกับคนที่อยากทานชีสล้วนเท่านั้น, OH, MY PORK (150 ฿) หมูตุ๋นสไตล์เอเชีย ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสบาร์บีคิว, MARIO-JI (145 ฿) เมนูนี้เอาใจคนรักสุขภาพกับไส้เห็ดออรินจิ และ CHEESE 9 inches (99 ฿) เปลี่ยนจากทานขนมปัง Ciabatta เป็นชีสพัฟทอด ที่หน้าตาเมนูแตกต่างจากไส้อื่นๆ มากสุด

 

ราคา และภาพเมนูขนาดใหญ่ จะติดไว้ด้านบนเคาน์เตอร์ร้าน

 

 

แผ่นเมนูตรง Extra หมายถึงสั่งเพิ่มทีหลังได้  เว้นเมนู CHEESE 9 inches เท่านั้นที่ไม่มีรายการให้เพิ่ม

 

ราคาทั้งหมดที่ทาน 6 เมนูชีส

          แม้ราคาบางรายการจะค่อนข้างสูง แต่คนที่กำลังตามหาเมนู “Grilled Cheese” สไตล์อเมริกันโฮมเมด ที่หนักชีส และปริมาณไส้หนักแน่น จะเต็มใจจ่ายในราคาที่ทางร้านกำหนดเพื่อแลกกับการทานเมนูสร้างสรรค์เหล่านี้
          ส่วนคนที่กำลังสงสัยว่าทำไมรายการในหมวด Extra ไม่สามารถเพิ่มกับเมนู CHEESE 9 inches นั่นเป็นเพราะหมวด Extra จะมีเบคอน, เห็ดออรินจิ, ไข่ และดับเบิ้ลชีส ซึ่งทางร้านคิดว่าไส้ต่างๆ ที่ทำจากเนื้อสัตว์มีกันหลายเมนู จึงตั้งใจให้ CHEESE 9 inches เป็นไส้ชีสล้วนเต็มชิ้นเพียงอย่างเดียวครับ

 

บรรยากาศภายในร้าน
          ทางร้านเน้นโทนสีเหลืองสดใสที่มาจากสีของชีส เลือกตกแต่งบรรยากาศภายในร้านด้วยเหล็กรูปแบบ Container Cafe เพื่อเพิ่มความเก๋ตอบรับสไตล์คนรุ่นใหม่ ส่วนไม้สีอ่อนทำให้ร้านดูอบอุ่นมากขึ้น ได้อารมณ์เหมือนนั่งทานอาหารสไตล์โฮมเมดที่บ้าน

 

โทนสีเหลืองสดใสจากร้านสร้างความสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น

 

ขาโต๊ะทุกตัวทำจากเหล็ก เพื่อให้เข้าตามคอนเซ็ปต์ร้าน Container

 

ใครชอบความสว่างเป็นพิเศษ และต้องการความเย็นจากพัดลม ให้เลือกมุมด้านใน

 

เมื่อนำอาหารจัดเรียงที่โต๊ะยาว เวลาถ่ายรูปจะได้ภาพอาร์ตจากพื้นหลังด้วย

 

สำหรับผู้มีบัตร Choco Card สามารถสะสม Rewards เพื่อแลกโปรโมชั่นจากร้าน

 

ป้ายวันเวลาเปิด-ปิดของทางร้าน ติดอยู่ใกล้กับป้ายภาพเมนูขนาดใหญ่ที่เคาน์เตอร์ฺ

          ด้านในเหมาะกับคนชอบนั่งโต๊ะแบบยาว มีไฟสว่างเอาใจคนชอบถ่ายรูปเพื่อให้ได้ภาพที่ไม่มืด แบลคกราวด์โลโก้ในร้านสีสันสะดุดตาสามารถใช้เป็นฉากถ่ายรูปให้ได้ภาพสวยทุกมุม มีพัดลมตัวใหญ่ช่วยลดความอบอ้าวจากข้างใน ส่วนด้านนอกจะมีโต๊ะเล็กนั่งได้ประมาณ 3-4 คน

 

ขั้นตอนการทำ Grilled Cheese สไตล์ Holy Cheese

นำขนมปัง Ciabatta หั่นครึ่ง และใส่ชีสมอสซาเรลล่า (สีขาว) และชีสเชดด้า (สีส้ม) อย่างละด้าน

 

ทำการเบิร์นให้ชีสละลายระดับนึง ก่อนนำขนมปังไปอบ

 

ด้านหลังจะมีเตาใหญ่ ไว้สำหรับทอดชิ้นเนื้อต่างๆ

 

เตาขนาดใหญ่ทอดสุกไว และยังผัดได้คล่อง

 

เมื่อได้เนื้อตามต้องการ นำไปวางบนขนมปัง

 

ตามด้วยการเทซอสเทอริยากิ

 

จับขนมปังทั้ง 2 ด้านประกบ และนำไปอบ 3 นาที เพื่อให้ขนมปังกรอบ และชีสที่เยิ้ม

 

เมื่อครบ 3 นาที จะเริ่มได้กลิ่นหอม และถึงเวลาเปิดเตาดูผลงาน

 

Grilled Cheese พร้อมเสิร์ฟความอร่อย

 

อาหาร+เครื่องดื่ม
          ขนมปัง Ciabatta จะเน้นความกรอบข้างนอก ความนุ่มข้างใน และความแน่นของไส้ ปรุงสดใหม่ชิ้นต่อชิ้น ทางร้านบอกว่าไม่ได้ใช้ชีสแผ่นสำเร็จรูป แต่จะใช้ชีสก้อนใหญ่ และนำมาสไลด์เองให้ได้ความหนาที่พอเหมาะ อีกสิ่งที่สร้างสีสันความอร่อยให้ทุกเมนูคือ Hotcha Sauce

Hotcha Sauce
          ที่นี่จะมีเครื่องปรุงคือ Hotcha Sauce เพียงอย่างเดียว เพื่อช่วยตัดเลี่ยน และเพิ่มรสชาติอาหารให้ถูกปากมากขึ้น โดยมีให้เลือก 2 ระดับความเผ็ด คือเผ็ดน้อย และเผ็ดมาก

 

Hotcha Sauce ระดับเผ็ดมาก (ฝาสีฟ้าขวดซ้าย) และระดับเผ็ดน้อย (ฝาสีเขียวขวดขวา)

 

ใส่ Hotcha Sauce เผ็ดมาก ในหมูตุ๋นสไตล์เอเชีย เพื่อให้อาหารรสชาติจัดจ้านขึ้นอีกนิด เข้ากับความเป็นเอเชีย

 

ใส่ Hotcha Sauce เผ็ดน้อย เพื่อทานพร้อมชีสที่ติดตามขอบขนมปัง Ciabatta แบบไม่ให้เลี่ยนมากเกินไป

ความรู้สึกต่อ Hotcha Sauce :
          Hotcha Sauce ระดับเผ็ดมาก หากเป็นคนทานรสจัดจ้านจะรู้สึกว่า Hotcha Sauce ทางร้านยังห่างไกลรสชาติจัดจ้าน อาจเป็นเพราะทางร้านไม่อยากให้ลูกค้าเจอความจัดจ้านของซอสเกินไป เพราะจะไปกลบรสชาติความเข้มข้นของชีสเสียก่อน ส่วน Hotcha Sauce ระดับเผ็ดน้อย จะออกรสเปรี้ยวหน่อยๆ ช่วยลดความเลี่ยนได้ดีมาก

 

SON OF THE BEEF
           ทำมาสำหรับคนรักเนื้อ โดยทางร้านเห็นว่าปกติพวกเบอร์เกอร์จะมีแต่เนื้อสับ ซึ่งจะเป็นเนื้อผสมมัน ทางร้านจึงอยากให้สัมผัสเนื้อเน้นๆ จึงเลือกเนื้อโคขุนเป็นวัตถุดิบเท่านั้น แล้วนำมาสไลด์บางๆ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ
          ส่วนประกอบของเมนู SON OF THE BEEF เนื้อโคขุนอบสไลด์, เห็ดออรินจิ, ซอสเทอริยากิ, ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และขนมปัง Ciabatta

SON OF THE BEEF (165 ฿) เนื้อโคขุนอบสไลด์อัดแน่นจนล้นออกมานอกขนมปัง

 

เปิดดูโฉมหน้าให้เห็นเนื้อโคขุนอบสไลด์แบบเต็มๆ

 

เนื้อโคขุนอบสไลด์เกาะตัวอยู่กับชีสแน่นหนา กัดคำเดียวแต่ได้รสชาติเข้มข้นทั้งคู่

ความรู้สึกต่อ SON OF THE BEEF :
          เนื้อโคขุนอบสไลด์ทีแรกคิดว่าเนื้อจะบางมากกว่านี้ แต่พอได้มาทานรู้สึกว่าเนื้อแผ่นหนาเต็มคำกว่าที่คิด คนรักเนื้อน่าจะมีความสุขกับเนื้อที่ร้าน เพราะเป็นเนื้อล้วน และไม่เหนียว ไม่ค่อยมีมันติด คนชอบส่วนมันๆ ของเนื้ออย่าเพิ่งเสียดายไปครับ ยังมีเมนูอื่นที่น่าสนใจให้ได้ลอง

 

BACON & CHEESE
          ทางร้านบอกว่าเลือกใช้เบคอนรมควันเกรดพรีเมี่ยม แล้วกริลล์ให้เกรียมพร้อมชีส 2 ชนิด คือชีสมอสซาเรลล่า และชีสเชดด้า และนำชีสไปวางซ้อนเบคอนประมาณ 2-3 ชั้น จากนั้นราดด้วยซอสบาร์บีคิวเพื่อให้ได้รสชาติออกเปรี้ยวอมเผ็ด ตัดความเลี่ยนของชีสได้ดี
          ส่วนประกอบของเมนู BACON & CHEESE เบคอน, ซอสบาร์บีคิว, ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และขนมปัง Ciabatta

 

BACON & CHEESE (160 ฿) มีเบคอนแผ่นยาวอยู่ใต้ขนมปัง

 

นอกจากเจอเบคอนแผ่นใหญ่ ยังได้เพลินกับชีสแน่นๆ ที่ขอบขนมปัง

ความรู้สึกต่อ BACON & CHEESE :
          เบคอนรสชาติไม่เค็มจัดจนเกินไป มีกลิ่นหอมจากการรมควันอ่อนๆ แต่ใครเลือกทานขนมปังทีละด้าน จะได้รสชาติของเบคอน และชีสหนักขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบทานรสเค็ม แต่ถ้าใครไม่ชอบทานเค็มมากนัก ให้กัดขนมปัง 2 ด้านพร้อมกันกับไส้เบคอนครับ
          เบคอนตรงขนมปังด้านบนถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีส่วนเนื้อมากกว่าส่วนมัน แต่ขนมปังด้านล่าง เบคอนส่วนมันมีมากกว่าส่วนเนื้อ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานเบคอน 2 แบบในอันเดียว

 

OH MY PORK
          OH MY PORK เป็นเมนูที่คนชอบทานหมูตุ๋นไม่ควรพลาด กว่าที่หมูตุ๋นจะออกมานุ่ม ทางร้านบอกได้นำหมูไปทำให้สุกด้วยความร้อนอุณหภูมิที่ต่ำนาน 7-8 ชั่วโมง หรือที่เรียกว่า Slow Cooker จากนั้นนำหมูมาฉีกเป็นเส้นจนได้หมูตุ๋นที่นุ่มชุ่มฉ่ำพร้อมซอสบาร์บีคิว และยังเพิ่มความเป็นเอเชียด้วยเครื่องเทศนานาชนิดจนเป็น “หมูตุ๋นสไตล์เอเชีย”
          ส่วนประกอบของเมนู OH MY PORK หมูตุ๋นสไตล์เอเชีย, ซอสบาร์บีคิว, สมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และขนมปัง Ciabatta

 

 OH MY PORK (150 ฿) หมูตุ๋น ซอสบาร์บีคิว และชีส เยิ้มออกมาภายนอกพร้อมกัน

 

ความแน่นของหมูตุ๋นสไตล์เอเชีย กับซอสบาร์บีคิวราดชุ่มฉ่ำ ชีสจึงถูกบดบัง

ความรู้สึกต่อ OH MY PORK :
           ความหอมของเครื่องเทศเพิ่มรสชาติให้หมูตุ๋นมีความเป็นเอเชีย ปริมาณซอสบาร์บีคิวค่อนข้างเยอะ แทบจะไม่ต้องปรุง Hotcha Sauce เพิ่มอีก แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความเผ็ดลองเติม Hotcha Sauce ก็จะช่วยให้หมูตุ๋นจัดจ้านขึ้น เนื้อหมูตุ๋นที่ทานเปื่อยกำลังดี เคี้ยวไม่ยาก เพราะฉีกมาเป็นเส้นที่ละเอียดจนเพลินกับการทานส่วนไส้หมูตุ๋นมากครับ

 

MARIO-JI 
          เห็ดออรินจิที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยนำมาผัดกับเนยจึงได้ความหอมมากขึ้น อาจจะไม่ได้เห็นความทะลักของเห็ดเหมือนกับเมนูอื่น แต่ได้ความอร่อย และดีต่อสุขภาพแน่นอน
          ส่วนประกอบของเมนู MARIO-JI เห็ดออรินจิผัดเนย, ซอสเทอริยากิ, ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และขนมปัง Ciabatta

MARIO-JI  (145 ฿) เห็ดออรินจิผัดเนย หอมชวนรับประทาน

 

ขนมปังชั้นบนความหนาน้อยกว่าชั้นล่าง แต่มีชีสคอยติดตามขนมปังทั้งบน และล่าง

 

 ขนมปังชั้นล่างหนาทั้งขนมปัง และจำนวนเห็ดออรินจิ

ความรู้สึกต่อ MARIO-JI :
           เห็ดออรินจิออกเค็มอ่อนๆ นำมาก่อน แต่ได้กลิ่นหอมจากเนย คนชอบรสชาติเค็ม และชอบความหอมจากเนยห้ามพลาดกับเมนู MARIO-JI ซึ่งเมนูนี้ถือว่าไส้ไม่ได้หนา เพราะเห็ดออรินจิเป็นไส้มีขนาดเล็กมาสุด จึงสัมผัสขนมปังว่าหนาแน่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะขนมปังชั้นล่าง ดูจะมีความหนามากกว่าชั้นบนครับ

 

WHOLLY CHEESE
          สำหรับคนที่อยากสัมผัสกับรสชาติของชีสล้วนแบบไม่มีอย่างอื่นมารบกวน WHOLLY CHEESE ไส้นี้เหมาะสมที่สุดแล้ว มาพร้อมชีส 3 ชนิด ชีสมอสซาเรลล่า ที่ให้ความหอมมัน และยืด, ชีสเชดด้า ที่ให้ความเข้มข้น และ ชีสพาเมซานที่เพิ่มความหอมกรุ่น ราดกับ Hotcha Sauce
         ส่วนประกอบของเมนู WHOLLY CHEESE ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า, ชีสพาเมซาน, ซอสสูตรพิเศษร้านโฮลี่ชีส ขนมปัง Ciabatta

 

 WHOLLY CHEESE (140 ฿) เมื่อไม่มีเนื้อสัตว์ Grilled Cheese ดูโล่งไปทันตา

 

 ก่อนที่จะเสิร์ฟถึงที่ พนักงานวางชีสพาเมซาน ราดด้วย Hotcha Sauce มาล่วงหน้า

 

เมื่อลองยืดชีส เชื่อว่าชีด 3 ชนิดไม่ขาดออกจากกันง่ายๆ ครับ

ความรู้สึกต่อ WHOLLY CHEESE :
           คนรักชีสตัวยง และยังไม่เคยทานชีสที่เดียว 3 ชนิด ทั้งชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และชีสพาเมซาน แบบพร้อมกัน ลองเลือกทานเมนูนี้สักครั้ง ซึ่งเมนูนี้ถือเป็นครั้งแรกของผมที่ได้ทานชีสหลายแบบที่รวมตัวด้วยกัน ยังรู้สึกประทับใจ เพราะได้ทั้งความเข้มข้น หอมมัน และหอมกรุ่นจากชีสในเมนูเดียว

           

CHEESE 9 inches
          เบรคจากการทานขนมปัง เปลี่ยนมาเป็นทานชีสทอดโดยมีแป้งพัฟแทน กับเมนู CHEESE 9 inches จะเห็นว่าชีสมอสซาเรลล่า (สีขาว) อยู่ข้างบน และชีสเชดด้า (สีส้ม) อยู่ข้างล่าง
            ส่วนประกอบของเมนู CHEESE 9 inches พัฟทอด, ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า

CHEESE 9 inches (99 ฿) ชีสพัฟทอดไซส์ 9 นิ้ว มีไส้ชีสอัดแน่นเต็มชิ้น

 

พนักงานบริการหั่นชีสพัฟทอดไซส์ 9 นิ้ว ให้ทานสะดวกขึ้น

 

หลังจากเพิ่งหั่นครึ่ง ชีสมอสซาเรลล่าได้ทะลักออกจากพัฟทอดทันที

 

ถ้าต้องการเห็นชีสยืดชัดๆ ต้องยกขึ้นมาแบบนี้

ความรู้สึกต่อ CHEESE 9 inches :
          CHEESE 9 inches เป็นเมนูที่มีหน้าตาแปลกกว่าเมนูอื่นๆ คือนำแป้งพัฟห่อกับชีส และนำไปทอด จึงได้พัฟทอดทรงยาวช่วยจับถือสะดวก หลังจากหั่นครึ่งแล้วแบ่งทานกับเพื่อนได้สบาย ตัวพัฟทอดออกมากรอบนอก นุ่มใน ไม่รู้สึกไม่เหนียว ส่วนชีสมอสซาเรลล่าสีขาวดูสะอาดตา ทะลักออกมามาก เนื้อชีสนุ่ม ยืดได้ดี รสชาติออกเปรี้ยวๆ มันๆ แต่ปราศจากความเลี่ยน

 

บรรดาเมนูชีสตอนเปิดเผยด้านใน

 

เครื่องดื่มมีน้ำอัดลมแบบกระป๋อง และน้ำเปล่าแบบขวดเล็ก เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยในการวาง

ความรู้สึกต่อเครื่องดื่ม :
          เนื่องจากพื้นที่ภายในร้านมีค่อนข้างจำกัด และทางร้านเน้นเมนู Grilled Cheese เป็นหลัก ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ในการทำอาหารค่อนข้างมาก ทั้งเตาขนาดใหญ่ และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ที่ร้านมีเมนูเครื่องดื่มค่อนข้างน้อย

 

การเดินทาง

แผนที่จาก Facebook Holy Cheese

          ถ้านำรถส่วนตัวมา และจอดที่บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขารัชดาภิเษก จะจอดฟรีได้ 3 ชั่วโมง หากจอดนานเกินกว่านี้ จะเสียค่าจอดราคาชั่วโมงละ 40 บาท แต่ถ้ามาจอดเอสพลานาด รัชดาภิเษก จะเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นเป็นชั่วโมงละ 50 บาท ต่อจากนั้นให้นั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาตลาดนัดรถไฟ รัชดา ถ้าคนคุ้นเคยเส้นทางสามารถเดินเข้ามาได้เลย ซึ่งร้านตั้งอยู่ด้านหลังของศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก
          ที่จอดรถอีกที่คือตึก RS มีค่าจอดรถชั่วโมงละ 30 บาท ซึ่งที่จอดรถของตึก RS จะติดกับด้านหลังของตลาดนัดรถไฟ รัชดา ทำให้เดินเข้ามาที่ร้านสะดวกรวดเร็วขึ้น การนั่งรถต่อเข้ามาจึงไม่จำเป็นครับ
          คนที่มารถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ให้ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ให้ออกประตูที่ 3 หรือ 4 และเดินมาทางด้านหลังของศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก ได้เลยครับ

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน	คะแนน
รสชาติอาหาร	4.3
บรรยากาศ	4
การบริการ	4
ความคุ้มค่า	3.7
คะแนนเฉลี่ย	4

 

          Grilled Cheese Sandwich จากร้าน Holy Cheese เหมาะกับคนรักขนมปัง Ciabatta ที่ให้ความกรอบนอกนุ่มในแบบปรุงสดๆ คู่กับชีสไหลเยิ้ม เพราะถ้าชอบเพียงอย่างใดอย่างนึงจะไม่สามารถเข้าถึงความอร่อยของเมนูได้เต็มที่
          แต่ละเมนูที่มีส่วนประกอบจากเนื้อโคขุน, หมูตุ๋น, เบคอน, เห็ดออรินจิ และชีสล้วน มีการคิดไส้ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม นอกจากของคาวทางร้านยังมีของหวานอย่างเมนู “เมลโล่ เทลล่า” ให้ได้เพิ่มความหวานหลังจากทานเมนูหลัก เป็นที่น่าเสียดายครั้งนี้ทีมงานไม่ได้ลองทาน “เมลโล่ เทลล่า” เพราะเต็มที่ก็เป้าหมายอย่างเมนูชีสหลายรายการ
          ส่วนตัวชอบ “SON OF THE BEEF” ที่ได้ทานเนื้อโคขุน คู่ชีสเต็มๆ และ “CHEESE 9 inches” ที่เป็นชีสพัฟทอดไซส์ 9 นิ้ว มีไส้ชีสล้วน ช่วยตัดอารมณ์กับเมนู “SON OF THE BEEF” ตรงที่ “CHEESE 9 inches” ไม่มีเนื้อต่างๆ มาปะปน ได้ทานชีสล้วนจุใจ แต่เรื่องซอสอย่าง “Hotcha Sauce” แม้จะช่วยเพิ่มรสชาติ และตัดเลี่ยนได้มาก แต่ระดับความเผ็ดมาก ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าจัดจ้านสำหรับคนทานรสจัดครับ แต่คิดว่ารสชาติกำลังพอดีกับคนเลี่ยงการทานรสจัดจ้าน
          ถ้ากลับมาดูเรื่องราคา เช่นเมนูบางอย่าง (150-165 ฿) จัดว่าราคาสูงใช้ได้ครับ อาจเป็นเพราะแต่ละอย่างผ่านขั้นตอนการทำมากมาย เช่น นำหมูไปทำให้สุกด้วยความร้อนอุณหภูมิที่ต่ำนาน 7-8 ชั่วโมง พร้อมอุปกรณ์การทำหลายแบบทั้งเตาใหญ่ และเตาเล็ก และยังสรรหาวัตถุดิบคุณภาพ ถ้าถามหาความคุ้มค่า ผมว่าอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน อาหารราคา (150-165 ฿) ถ้าเทียบกับ Grilled Cheese 1 ชิ้น ปริมาณที่เห็น อาจแพงมากสำหรับบางคน แต่ถ้ากลุ่มคนที่ชอบความเป็น Holy Cheese ทั้งการตกแต่งร้าน การดีไซน์หน้าตาเมนู มีการคัดเลือกวัตถุดิบด้วยความใส่ใจ จนได้รสชาติที่ตอบโจทย์คนรักชีส คนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ และคอยติดตามข่าวสารจากเพจร้านอยู่เสมอ ยังตามไปทานเวลาทางร้านออกบู๊ธนอกสถานที่อีกด้วยครับ  
          ใครที่เคยมาทานที่ร้าน ขณะนั่งรอ Grilled Cheese มาเสิร์ฟ จะได้กลิ่นหอมจากการปรุงของพนักงานตลอด ชวนให้เพลิดเพลินกับกลิ่นของชีส และเพิ่มระดับความหิวมากขึ้น เพราะเตาที่ใช้ทำ Grilled Cheese จะอยู่ใกล้กับโต๊ะที่ร้าน
          โปรโมชั่นของทางร้านที่ไม่มีระยะเวลากำหนด โดยการเป็นสมาชิกบัตร Choco Card เพื่อสะสมแต้มในการแลกทานอาหารถือว่าน่าสนใจ เหมือนเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าไปในตัว โดยสามารถสมัครฟรี เพียงแค่ติดต่อพนักงานทางร้านได้เลยครับ
          สำหรับคนที่อยากซื้อไปทานที่บ้าน ก่อนจะทานขอแนะนำให้นำไปเข้าเตาอบเพื่ออุ่นอีกที และปรับระดับความร้อนให้ไม่เกิน 200 องศา ในเวลา 3 นาที ทุกเมนูให้ใช้วิธีนี้เหมือนกันนะครับ
          Grilled Cheese อาจมีขั้นตอนการทำหลายวิธี หากช่วงนั้นลูกค้าสั่งรายการเยอะ ลูกค้าท่านอื่นอาจต้องใช้เวลารอสักพัก ใครที่กลัวรอคิวนานเกินไป ต้องมาเร็วสักช่วงร้านเปิด 17.30 น. ครับ อีกอย่างเมื่อได้เมนูที่สั่งมาแล้วอย่าทิ้งเวลาไว้นาน เพราะจะพลาดความกรอบ หอม อร่อย ของขนมปัง Ciabatta และชีสต่างๆ ที่อัดรวมกันมาครับ

 

จุดเด่นของ Holy Cheese

1. เหมาะกับคนรักชีส เมนูอาหารสไตล์อเมริกัน เพราะได้ทานชีสเต็มแผ่น มาที่นี่มีโอกาสได้พบชีส 3 แบบ คือ ชีสมอสซาเรลล่า, ชีสเชดด้า และชีสพาเมซาน

2. มีเมนูต่างๆ หลากหลาย ทั้งเนื้อโคขุน หมูตุ๋น เบคอน เห็ดออรินจิ และชีสล้วน แต่ละอย่างปริมาณของไส้ถือว่าเยอะสมส่วนกับความหนาของขนมปัง

3. มั่นใจความสดใหม่ที่ปรุงกันให้เห็นว่าได้ของใหม่ และสดจริงๆ

4. มาที่นี่คนไม่ทานเผ็ดจะไม่ต้องหวั่นกลัว เพราะ Hotcha Sauce ของทางร้านไม่ได้เน้นรสจัดจนเกินไป โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ ตัดความกังวลเรื่องเครื่องปรุงของที่นี่ได้เลย

5. CHEESE 9 inches เนื่องจากมีความยาวขนาด 9 นิ้ว เมื่อได้มาใหม่ๆ จะร้อนมาก จนหยิบจับ หรือฉีกค่อนข้างลำบาก แต่ทางร้านเข้ามาช่วยหั่นด้วยมีดขนาดใหญ่ ทำให้ถือ CHEESE 9 inches ขึ้นมาทานง่ายขึ้น

6. แผ่นรายการอาหารในเมนูที่ร้านมีรายละเอียดบอกชัดเจนว่าแต่ละอย่างมีส่วนผสมอะไร ทำให้เลือกทานในสิ่งที่ชอบได้ง่ายขึ้น

7. บรรยากาศมีสีสันสดใส โทนสีเหลืองของร้าน เหมือนสีของชีส นอกจากซึมซับบรรยากาศของชีส เวลาถ่ายรูปอาหารที่ร้านภาพออกมาจะสวยทั้งตอนชีสกำลังทะลัก และมุมเก๋ๆ ในร้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Container อารมณ์แบบคาเฟ่

 

ข้อเสนอแนะ

1. Hotcha Sauce แม้ว่าจะถูกใจคนทานรสชาติอ่อนๆ แต่สำหรับบางคนที่ทานรสจัดจ้าน อาจรู้สึกว่ายังได้รับรสชาติจากเครื่องปรุงที่นี่ยังไม่ครบ อยากเสนอให้ทางร้านมีเครื่องปรุงที่เพิ่มความจัดจ้านมากกว่านี้เสริมเข้ามาครับ

2. ผมว่าสีของฝา Hotcha Sauce ที่ใช้สีเขียว และสีฟ้า ซึ่งสีมีความคล้ายกันมาก ตอนกลางคืนจะยิ่งมองลำบาก อยากให้ทางร้านลองเปลี่ยนสีของฝาซอสให้ตัดกันไปเลย เช่นสีแดง และสีขาว เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันการหยิบผิดแบบครับ

3. ส่วนโต๊ะ และเก้าอี้ที่ร้านเป็นแบบสูง ทำให้เด็กๆ อาจขึ้นไปนั่งลำบากหรือเปล่าครับ อยากให้มีเก้าอี้ หรือโต๊ะเสริมเพื่อเด็กสำรองบ้างครับ

4. เป็นเพราะที่ร้านมีเนื้อที่จำกัด เลยทำให้โต๊ะมีจำนวนน้อย คนที่ตั้งใจมาทานที่ร้านบางท่านอาจพลาดโอกาสได้มานั่งทานที่ร้าน 

5. อยากให้มีเมนูเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น

6. บางเมนูขนาดดูใหญ่มากไปสำหรับคนทานน้อย เช่น CHEESE 9 inches ที่มีขนาด 9 นิ้ว อยากให้ลองทำขนาดไซส์เล็กลง พร้อมตั้งราคาที่ลดลงตามขนาดไซส์ เพื่อเป็นทางเลือกของคนทานน้อย และประหยัดงบครับ

7. แผ่นรายการอาหารในเมนูประเภท Extra ที่เอาไว้สั่งเพิ่มให้เมนูต่างๆ อยากให้มีเมนูเพิ่มสำหรับ CHEESE 9 inches ด้วยครับ 
   
             ใครยังไม่เคยลองทานอาหารแนว“Grilled Cheese” จากที่ไหน “Holy Cheese” เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่พิถีพิถัน และเมนูที่น่าสนใจหลายตัวเลือก ทำให้อยากค้นหาความอร่อยเมนูสารพัดชีสเยิ้มด้วยตัวเอง ถ้าผ่านมาร้าน “Holy Cheese” หรือเห็นตามบู๊ธต่างๆ และได้กลิ่นหอมๆ ของ Grilled Cheese อยากให้ลองมาทำความรู้จักเมนูชีสจากที่นี่ คุณอาจจะมีความสุขกับการทาน Grilled Cheese จนติดใจเป็นลูกค้าขาประจำก็ได้ครับ