รู้ไหม...ชาเย็นกินมากเกินไปก็ไม่ดีนะเธอ

เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการรายงานข่าวการเสียชีวิตของชายหนุ่มจากภาวะไตวายเฉียบพลันเนื่องจากบริโภคชาเย็นมากเกินความจำเป็น! 

ดังนั้นชาเย็นที่ หอม หวาน อร่อย กินแล้วสดชื่นร่างกายและหัวใจมีอันตรายต่อร่างกายจนกระทั่งนำไปสู่การเสียชีวิตจริงหรือไม่               มาหาคำตอบกัน

ดื่มชาเย็นแค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากเกิน?

ข่าวรายงานว่า ชายผู้เคราะห์ร้ายรายนี้บริโภคชาเย็นเป็นปริมาณ 1 แกลลอนทุกๆวัน แต่จะเป็นเพราะชาหรือปริมาณที่มากเกินไปแน่ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

เครื่องดื่มชาเย็นส่วนใหญ่มักจะทำจาก ชาดำ (Black Tea) ที่อุดมไปด้วยสารประกอบธรรมชาติที่เรียกว่า ออกซาเชต และสามารถพบได้ตามปกติทั่วไปในผักขม รูบาร์บ ซีเรียลรำข้าวและช็อคโกแลต ออกซาเชตมีฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดในกระแสเลือด แต่สารตัวนี้สามารถส่งผลเสียให้แก่ร่างกายโดย หากรับประทานในปริมาณที่มากและประจำ ออกซาเลตจะเข้าไปตกผลึกและสะสมใน จนเกิดเป็นนิ่ว การอักเสบและภาวะไตหยุดทำงานเฉียบพลัน

ดังนั้นปริมาณที่มนุษย์ควรนำออกซาเชตเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารต่างๆคือ 150 ถึง 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ผู้เคราะห์ร้ายรายนี้นำออกซาเชตเข้าสู่ร่างกายมากถึง 1500 มิลลิกรัมต่อวันจากการบริโภคเพียงชาเย็น 

แต่อย่างก็ตามถึงแม้จะพิสูจน์แล้วเมล็ดชาไม่ได้มีผลโดยตรงในการทำให้ไตทำงานหนักจนหยุดทำงานเฉียบพลัน (หากไม่บริโภคเยอะเกิน) แต่ทางที่ดีเมล็ดชาที่นำมาบริโภคนั้นควรคำนึงถึงที่มาและกรรมวิธีการผลิต เพื่อให้ได้เมล็ดชาที่มีคุณภาพและสร้างประโยชน์แก่ร่างกาย นอกจากนี้การดื่มชาควรคำนึงถึงค่าฟลูออไรด์ เพราะหากมากเกินพอดีจะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอีกหนึ่งสารที่ควรคำนึงถึงคือ สารแทนนิน เพราะสารมีคุณสมบัติยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กที่ได้จากผัก ดังนั้นสารนี้จึงส่งผลเสียแก่ผู้ที่เป็นมังสวิรัติ รับประทานผักเป็นหลักและยังคงดื่มชาเป็นประจำในทุกๆมื้อ

 

คุณประโยชน์ของการดื่มชา

ชามีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ และสารคาเฟอีนที่ช่วยป้องกันการป่วยเป็นโรคพาร์กินสันและอัลไซเมอร์

ชาควรดื่มปริมาณเท่าใดจึงจะปลอดภัย

ถึงแม้จะไม่มีผลงานวิจัยออกมารับรองว่าบริโภคชาในปริมาณเท่าใดจึงจะปลอดภัย แต่ควรบริโภคไม่เกิน 6 ถึง 8 ถุงชาต่อวัน แต่หากมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่วในกระเพราะหรือไต ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาเป็นการดีที่สุด

 

ที่มา: quickanddirtytips

รูปภาพ: philadelphia.cbslocal, mollysims, oceandrive & youtube







TOP